1.8K
12 กรกฎาคม 2559
ไก่ทอดเกาหลีบุกยึดตลาดไทย ‘ฮ็อทสตาร์’ เร่งปั้นแบรนด์ปูพรมขยายสาขา 30 แห่งใน 5 ปี

 
ฮ็อทสตาร์ ชี้เทรนด์ไต้หวันในไทยมาแรง เปิดแผน 5 ปี ปูพรม 30 แห่ง ยึดตลาดสแน็กเมืองไทยหลังพบช่องว่างทางการเติบโตสูง พร้อมอัดกิจกรรมทางการตลาดครึ่งปีหลังครบวงจร ทั้งแคมเปญใหญ่ สินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นการรับรู้และบริโภคไปยังกลุ่มวัยรุ่น
 
นายชนินทร์ ชูพจน์เจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แบรนด์ฮ็อทสตาร์ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้ได้รับลิขสิทธิ์สเตอร์แฟรนไชส์แบรนด์ “ฮ็อท สตาร์ ลาจ ไฟรด์ ชิคเค็น” (ฮ็อท สตาร์) จากประเทศไต้หวัน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายการดำเนินงานของฮ็อทสตาร์นับจากนี้คือการมุ่งสร้างโพซิชั่นนิ่งของแบรนด์สู่ความเป็นแบรนด์สแน๊คแบบครบวงจร (ไลฟ์สไตล์สแน๊ค)

ที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นเป็นหลัก ซึ่งความท้าทายของการปั้นแบรนด์ในครั้งนี้คือการสร้างใหม่เป็นที่รู้จัก ภายใต้โจทย์ที่ว่าทำอย่างไรให้แบรนด์ติดตลาดอยู่ในใจผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
 
 
สำหรับแนวทางที่จะนำมาใช้ในการสร้างแบรนด์นับจากนี้คือ การสร้างทีมที่มีคุณภาพ สร้างกลยุทธ์ สร้างโปรดักส์ให้ถูกใจผู้บริโภคซึ่งยากกว่าแบรนด์ที่มาแล้วในตลาด ต้องมีการปรับตัวให้เร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ที่เร็ว เพราะการแข่งขันในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมีความหลากหลายและสูง จึงจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอเพื่อให้สดใหม่

โดยแผนงานระยะยาว 5 ปี นับจากนี้บริษัทวางเป้าหมายการขยายสาขาไว้ที่ 20-30 แห่ง ภายใต้งบประมาณ 1-2 ล้านบาทต่อสาขา ในรูปแบบเป็นคีออสเป็นหลัก เนื่องจากรูปแบบของคีออสสามารถทำให้ใกล้ชิดลูกค้าได้มากขึ้น งบประมาณ 1-2 ล้านบาทต่อสาขา
 
“เทรนด์ความเป็นไต้หวันเข้ามาในไทยทั้งอาหาร การท่องเที่ยวช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง ขณะที่กลุ่มเกาหลี ญี่ปุ่นอยู่ในไทยมานาน
 

ซึ่งสิ่งที่เราต้องการทำตลาดคือ การสร้างให้ฮ็อท สตาร์เป็นของทานเล่นเพราะของทานเล่นในเมืองไทย ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดสร้างตลาดขึ้นมา และยังเป็นพื้นที่ว่างทางการตลาดที่สามารถเติบโตได้ดีในระยะยาว ซึ่งฮ็อทสตาร์มีความหลากหลาย ไม่เฉพาะไก่ มีทั้งปลาหมึก และเตรียมเปิดเมนูใหม่เกี่ยวกับปลาหมึกในเร็วๆนี้”
 
ทั้งนี้บริษัทเตรียมใช้งบราว 100 ล้านบาทในการสร้างแบรนด์ โดยในปีนี้บริษัทจะขยายสาขาเพิ่ม 5-10 แห่งจากปัจจุบันมี 5 แห่งที่ เอ็มควอเธียร์, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เอสพลานาด, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า

ซึ่งจะเน้นการขยายสาขาในเขตกรุงเทพ เพราะต้องการโฟกัสแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ซึ่งหากสร้างการเติบโตตามเป้าในกรุงเทพ ก็จะขยายต่างจังหวัดในอนาคคต
 
 
“เรามุ่งสร้างโพพซิชั่นนิ่งของแบรนด์ในความทันสมัยสดใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เพื่อเสริมพอร์ตธุรกิจอาหารให้หลากหลายและมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตและการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจอาหาร”
 
สำหรับในส่วนของกิจกรรมทางการตลาดในปีนี้จะมีแคมเปญใหม่ ในคอนเซ็ปต์ “ไต้หวัน ฟัน แสน๊ค” ที่มีกลิ่นอายความเป็นไต้หวัน มีเมนูใหม่ 20 เมนู โดยจะเริ่มทยอยเปิดตัวในเดือนมิถุนยายนเป็นต้นควบคู่กับการสื่อสารทางการตลาดในความเป็นแสน๊ค ทั้งขนาด ที่ปรับให้เล็กลงเพื่อสะดวกในการรับประทานและทานเป็นของว่างได้
 

รสชาติที่สามารถรับประทานได้บ่อย การปรับราคาต่ำลงมาตั้งแต่ 25-149 บาท เพื่อให้สามารถซื้อได้สะดวกและซื้อได้บ่อยขึ้น นอกจากนี้ยังมีการทำกิจกรรมรูปแบบต่างๆ และมีอีเวนต์ สร้างบ็อปอัพสโตร์ ตามอีเวนต์สำคัญ ปีนี้ทำมา 5-6 งาน

ทั้งคอนเสิร์ตและงานเทศกาลดนตรี เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น โดยในช่วง 1 ปีที ผ่านมาสามารถทำรายได้ที่ 33 ล้านบาท โดยในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 100%
 

อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ

ขอบคุณรูปภาพจาก  facebook.com/hotstarthailand
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
5,599
PLAY Q by CST bright u..
1,221
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
940
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
931
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
784
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
757
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด