|
|
|
|
4 พฤศจิกายน 2558 |
5หมื่นรายโดดร่วม โครงการรัฐอุ้ม เอสเอ็มอี
รัฐบาลเดินหน้า 5 มาตรการ ช่วย “เอสเอ็มอี” ในช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ด้าน “สรรเสริญ” เผยยอดผู้ประกอบการเข้าร่วมแล้วกว่า 5 หมื่นราย ขอรับสิทธิขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำขณะที่ “บสย.” ค้ำประกันเงินกู้ “คลัง”ช่วยลดภาษีนิติบุคคล ฯลฯ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2558 ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งการออกสินเชื่อดอกเบี้ย พิเศษ การจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุนการค้ำประกันสินเชื่อ และการลดภาษี เพื่อให้เอสเอ็มอีฟื้นตัวกลับมาเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ และขอรับการสนับสนุนทางการเงินตามมาตรการภาครัฐ มีจำนวนทั้งสิ้น 55,126 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคล 34,779 ราย และไม่ใช่นิติบุคคล 20,347 ราย
ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี5 มาตรการ ประกอบด้วย 1.โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระ 7 ปี 2.โครงการค้ำประกันเงินกู้ให้เอสเอ็มอีของ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งรัฐบาลจะช่วยเหลือค่าธรรมเนียมการค้ำประกัน เพื่อลดภาระต้นทุนให้กับ SME ทำให้สถาบันการเงินเกิดความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อ ถ้าเกิดความเสียหายทาง บสย.จะช่วยชดเชยให้
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า 3.มาตรการร่วมลงทุนกับเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ ในระยะเริ่มต้น โดยความร่วมมือของธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) และธนาคารกรุงไทย แห่งละ 2,000 ล้านบาท รวม 6,000 ล้านบาท
ส่วนมาตรการที่ 4 คือ กระทรวงการคลัง ปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเอสเอ็มอี ที่มีกำไรสุทธิ ตั้งแต่ 3แสนบาทขึ้นไป จากเดิมร้อยละ 15 และ20 ของกำไรสุทธิ เหลือร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิเป็นเวลา 2 รอบบัญชีต่อเนื่องกันและ 5.มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 ถึง 31 ธ.ค. 2559 เป็นเวลา 5 รอบบัญชี โดยมีกลุ่มเอสเอ็มอีเป้าหมาย อาทิ กลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ฯลฯ
อ้างอิงจาก แนวหน้า
|
|
|
