|
|
9 กรกฎาคม 2558 |
เสริมแกร่ง "ช่างทำผมไทย" ผ่านหลักสูตรการจัดการธุรกิจซาลอน
อาชีพช่างทำผมถือเป็นอีกธุรกิจบริการหนึ่งที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชากรและประเทศไทยมหาศาล ด้วยความสำคัญดังกล่าวส่งผลให้ "ชลาชล อคาเดมี่" ต้องการผลักดันผู้ที่ประกอบอาชีพช่างทำผม และผู้ประกอบการร้านทำผม ให้สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน จึงได้จัดเสวนาพิเศษในหัวข้อ "ความสำคัญของแบรนด์ ในยุค AEC"
ภายใต้งานไฟนอล โปรเจกท์ประจำปีที่นำเสนอผลงาน Hair Passion Show 2015 ของนักเรียนจากโรงเรียนเสริมสวยชลาชล โดยมี "ดร.สมศักดิ์ ชลาชล" ประธานที่ปรึกษา ชลาชล อคาเดมี่และ "รศ.ดร.รวิภา ลาภศิริ" คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุมเป็นวิทยากร เพื่อให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อวงการช่างทำผมไทย
"ดร.สมศักดิ์" กล่าวว่า สถานการณ์ที่ท้าทายของวงการธุรกิจร้านทำผมของไทยในปัจจุบันคือ มีร้านทำผมเปิดใหม่มากมาย แต่มักอยู่ได้ไม่นานก็ปิดตัวลงจากการวิเคราะห์พบว่าปัญหาของร้านทำผมที่ไม่สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน คือขาดการบริหารจัดการร้านอย่างเป็นระบบ ขาดการพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง และขาดมาตรฐานที่ชัดเจนในการประเมินคุณภาพงานบริการ
"ด้วยความสำเร็จด้านธุรกิจร้านทำผมของผมกว่า30 ปี ทำให้ชลาชล อคาเดมี่มีความพร้อมในการสอนวิชาชีพทำผมอย่างมืออาชีพ แต่ในการทำธุรกิจร้านทำผมให้ประสบความสำเร็จได้นั้น การเรียนทำผมอย่างเดียวไม่เพียงพอ ผู้เรียนต้องมีทักษะการบริหารธุรกิจอย่างเป็นระบบด้วย จึงได้ทำการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อเปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ "การจัดการธุรกิจซาลอน-Salon Business Management" อันเป็นเครื่องมือที่พัฒนามาตรฐานธุรกิจทำผมให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งพร้อมเปิดรับสมัครแล้วตอนนี้ และเริ่มสอนภาคเรียนที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 2558"
ทั้งนี้ในยุคที่เราจะเข้าสู่ AEC ทำให้เรื่องแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจอีกเรื่องหนึ่ง เพราะแบรนด์ทำให้ธุรกิจของเราเป็นที่รู้จัก และเป็นการยกระดับ แต่การจะมีแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จได้ ไม่ได้เกิดจากการมีฝีมือที่ดีด้านทำผมอย่างเดียว แต่ต้องมีการพัฒนาด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งหลักสูตรการจัดการธุรกิจซาลอนจะตอบโจทย์ความจำเป็นดังกล่าว และทำให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ทั้งทางด้านวิชาการ และวิชาชีพไปใช้ได้ในชีวิตจริง
ด้าน "รศ.ดร.รวิภา" กล่าวว่า ช่างทำผมไทยเป็นที่ยอมรับถึงคุณภาพฝีมืออยู่แล้วท่ามกลางกลุ่มประเทศอาเซียน แต่ยังมีร้านทำผมที่มีแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักน้อยมากในปัจจุบัน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงต้องการส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถสร้างระบบบริหารจัดการเพื่อขยายสาขา หรือสร้างแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ไทยไปสู่อาเซียน และระดับโลกได้
"เราออกแบบการเรียนการสอนภายใต้แนวคิดเรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง โดยนักศึกษาจะได้เรียนด้านทำผมกับมืออาชีพจากชลาชล อคาเดมี่ และเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการที่มีเนื้อหาเข้มข้นแต่สนุกกับคณาจารย์คุณภาพของทางมหาวิทยาลัยศรีปทุม นักศึกษาจะได้เรียนอย่างเจาะลึกถึงแก่นแท้ของธุรกิจแฟชั่นทรงผม เริ่มตั้งแต่ทักษะการทำผมการออกแบบทรงผม การเปิดธุรกิจการบริหารซาลอน การบริหารคน การตลาดในธุรกิจซาลอน เทคนิคการบริการ การพัฒนาบุคลิกภาพ และการจัดแฟชั่นโชว์ทรงผมและชูตติ้ง"
กลุ่มผู้เรียนจะมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้เรียนที่จบระดับ ม.6 หรือ ปวส. และกลุ่มที่เป็นช่างเสริมสวยอาชีพ โดยเราเปิดโอกาสให้กลุ่มที่เป็นช่างเสริมสวยอาชีพสามารถเทียบโอนประสบการณ์การทำงานตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการทำให้ใช้เวลาเรียนปริญญาตรีไม่ถึง 4 ปี
ถือเป็นมิติใหม่ของการศึกษาที่มีหลักสูตรสร้างนักบริหารและผู้ประกอบการด้านธุรกิจซาลอนมืออาชีพเพื่อส่งเสริมและเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาอย่างรอบด้าน
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|