4.3K
6 มิถุนายน 2558
เคเอฟซี ประกาศหาพันธมิตรใหม่ คุณสมบัติทุนหนาช่วยขยายสาขา ศก.ฝืดขายลำบากโหมจัดโปรฯถี่



เคเอฟซีเปิดหาพันธมิตรใหม่คุณสมบัติทุนหนา หวังช่วยขยายร้านคาดสรุปได้ใน 6 เดือน ยอมรับ ศก.ชะลอตัวค้าขายลำบากต้องจัดโปรโมชั่นถี่ขึ้นจากเดิมแค่เดือนละครั้ง พร้อมทุ่มงบ 2 พันล้านขยายลงทุน

นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไปเคเอฟซี ประจำประเทศไทย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าขยายร้านเคเอฟซีทั่วประเทศครบ 800 แห่งในปี 2563 เพื่อรองรับการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนที่มีการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันร้านเคเอฟซีรวม 532 สาขา แบ่งเป็นการบริหารโดยบริษัท 330 แห่ง และบริหารโดยพันธมิตร คือ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) 202 สาขา


ดังนั้น เพื่อให้สามารถขยายร้านเคเอฟซีได้ตามเป้าหมาย บริษัทจึงจะเปิดรับพันธมิตรใหม่อีก 1 ราย จากทุกธุรกิจที่สนใจจะร่วมเข้ามาบริหารและลงทุนขยายร้านเคเอฟซีใหม่ในรูปแบบแฟรนไชส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือก โดยบริษัทต้องการพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในด้านเงินทุน เพราะจะต้องมีการลงทุนขยายร้านค้าใหม่ ปรับปรุงร้านค้าเดิมและลงทุนด้านนวัตกรรมต่างๆ ได้ คาดว่าประมาณ 6 เดือนจึงจะได้ผลสรุป ทั้งนี้ เบื้องต้นบริษัทจะแบ่งขายร้านเคเอฟซีที่บริษัทบริหารอยู่ 330 แห่ง ให้พันธมิตรรายใหม่เข้ามาบริหาร 120-150 แห่ง

"การขยายตัวของเคเอฟซีต่อไปจะมี 3 พาร์ตเนอร์ คือ ยัม ที่จะเน้นเรื่องการดูแลแบรนด์, ซีอาร์จี และพาร์ตเนอร์ใหม่ การเข้ามาของพาร์ตเนอร์ใหม่จะทำให้สามารถขยายร้านได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเคเอฟซีเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งและเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 53%" นางแววคนีย์กล่าว


ทั้งนี้ เพื่อสร้างการเติบโตของยอดขาย ยังได้มีการพัฒนานวัตกรรมด้านการบริการเพื่อเพิ่มความเร็วในการสั่งและรับอาหาร คือ ระบบเอสโอพี ทำให้สามารถบริการลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 41 คนต่อชั่วโมง เป็น 83 คนต่อชั่วโมง ได้นำร่องใช้ไปแล้ว 7 แห่ง คาดว่าจะขยายได้ 114 แห่ง ภายในปีนี้ และมีการพัฒนาระบบการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นมือถือ เพราะยอดสั่งซื้อออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นปีที่ผ่านมามียอดขายกว่า 36% ของยอดขายดิลิเวอรี และจะขยายร้านแบบไดรฟ์ทรูเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีอยู่ 10 สาขา คาดว่าปี 2563 จะเปิดครบ 100 สาขา

สำหรับปีนี้ตั้งงบลงทุน 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นจากการลงทุนร้านใหม่ 45 แห่ง จำนวน 1,300 ล้านบาท และงบการตลาดอีก 700 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา


นางแววคนีย์กล่าวว่า เศรษฐกิจปีนี้ค่อนข้างชะลอตัว การบริหารงานลำบากมากขึ้น ต้องมีการจัดโปรโมชั่นเป็นรายสัปดาห์ อาทิ 3 สัปดาห์ครั้ง หรือ 5 สัปดาห์ครั้ง จากเดิมที่จัดโปรโมชั่นเดือนละ 1 ครั้ง และมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ระดับราคาที่ไม่สูงมากนัก พร้อมทั้งนำรายการสินค้าเก่าที่ขายดีกลับมาขายใหม่ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้าที่มีความระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นโดยยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อใบเสร็จทรงตัวเฉลี่ยที่ 130 บาทต่อใบเสร็จ อัตราการเข้าใช้บริการ 1 ครั้งต่อเดือน

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,225
PLAY Q by CST bright u..
1,331
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
947
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
946
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
796
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
770
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด