|
|
7 มิถุนายน 2558 |
แม่ศรีเรือน ลุยครบสูตรต่อยอดตลาดฟื้น
แม่ศรีเรือนลุยธุรกิจต่อเนื่องทั้งน้ำสมุนไพร และซอสปรุงรส ต่อยอดธุรกิจหลักหวังสร้างการเติบโตเป็นปกติ หลังโดนพิษเศรษฐกิจและการเมืองทุบยอดลดลง 10-15% เล็งหาโอกาสบุกตลาดเออีซี ประเดิมฟิลิปปินส์ประเทศแรก
นายชาณ เรืองรุ่ง รองประธานบริหารกลุ่มแม่ศรีเรือน ผู้บริหารร้านอาหารแม่ศรีเรือน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งปัญหาภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและปัญหาทางการเมือง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานลดลงไป 15% คิดเป็นมูลค่าหลักร้อยล้านบาท แต่ในปีนี้สถานการณ์เริ่มปรับเข้าสู่ภาวะปกติ และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน เห็นได้จากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น จึงคาดว่าปีนี้บริษัทจะกลับมาเติบโตได้ในอัตรา 10-15% เหมือนที่ผ่านมา
นอกเหนือจากปริมาณลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นเป็นปกติแล้ว ปีนี้บริษัทเตรียมขยายธุรกิจเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเตรียมขยายธุรกิจเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสที่ใช้ภายในร้านแม่ศรีเรือน ซึ่งจะขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ประกอบการรายอื่นในลักษณะธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มน้ำสมุนไพรบรรจุขวด ภายใต้แบรนด์เฮอร์บิสต้า ที่มีอยู่ 10-15 รายการ อาทิ น้ำลำไย น้ำเก๊กฮวย น้ำตะไคร้ เป็นต้น ปีนี้จะทำตลาดอย่างต่อเนื่องด้วย
"น้ำสมุนไพรของบริษัทเป็นน้ำสมุนไพรที่ไม่ได้แต่งกลิ่น แต่งสี ซึ่งเดิมผลิตและจำหน่ายภายในร้านแม่ศรีเรือนมา 10 ปี ช่วง 2 ปีที่แล้วได้ขยายสู่ช่องทางโมเดิร์นเทรด ถือว่ามีอัตราการเติบโตที่ดีปีนี้วางแผนทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันรายได้ของบริษัทจะมาจากร้านอาหารสัดส่วน 75% กลุ่มเครื่องดื่ม 15% และคาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากกลุ่มซอสปรุงรสอีก 10% และบริษัทกลับมาเติบโตเป็นปกติ จากช่วงไตรมาสแรกที่เห็นสัญญาณที่ดีอย่างต่อเนื่อง"
สำหรับกลยุทธ์การสร้างการเติบโตในปีนี้นั้น บริษัทจะเน้นการสร้างแบรนด์ การพัฒนาบุคลากรและการบริการให้มีคุณภาพ รวมถึงการนำวัตถุดิบที่เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติหรือออร์แกนิก 100% เข้ามาใช้เพิ่มในร้านอาหาร ล่าสุด ได้นำข้าวอินทรีย์จากจังหวัดอำนาจเจริญมาจำหน่าย แม้ว่าต้นทุนสินค้ากลุ่มออร์แกนิกปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นแล้ว 10% แต่บริษัทต้องการเน้นคุณภาพของสินค้า เพื่อสร้างการเติบโตและเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค
ด้านการขยายสาขาปีนี้บริษัทวางแผนขยายร้านแม่ศรีเรือนอีก 2 สาขา ลงทุน 8-10 ล้านบาทต่อสาขา จากปัจจุบันมีสาขารวม 25 สาขา ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายสาขาไปยังต่างประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ เนื่องจากมองเห็นโอกาสและศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใกล้เคียงกับคนไทย และมีกำลังซื้อสูง แต่การขยายสาขาในต่างประเทศนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบธุรกิจว่าจะลงทุนเองหรือขายแฟรนไชส์
นายชาณกล่าวอีกว่า บริษัทยังวางแผนการขยายธุรกิจด้วยรูปแบบคีออสของร้านขนมครกและขนมเบื้องแม่ศรีเรือนเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมี 2 สาขา โดยจะปรับรูปแบบให้มีขนาดเล็กเพียง 10 ตร.ม. เพื่อใช้สำหรับการขยายในช่องทางอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น จากปกติการขยายร้านแม่ศรีจะใช้พื้นที่ประมาณ 200 ตร.ม.
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|
|