|
|
|
|
17 เมษายน 2558 |
ชอยส์มินิสโตร์ ตั้งเป้า 334 สาขาเปิดเซเว่นฯเชียงใหม่- ลำพูน- แม่ฮ่องสอน
ชอยส์ มินิสโตร์ ของกลุ่มตันตรานนท์ รุกหนักธุรกิจค้าปลีก วาดแผนลุยเปิด 7-Eleven ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือ เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน กสิกรไทยหนุนสินเชื่อ 100 ล้าน ตั้งเป้าขยายธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่ม 50% ชี้ทิศทางธุรกิจค้าปลีกสดใส จากผลพวงการเติบโตการท่องเที่ยว ได้แรงหนุนกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดปี"58 ทะลุ 334 สาขา
นายวรวัชร ตันตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชอยส์ มินิสโตร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับสิทธิ์ช่วงบริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น (7-Eleven) จากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือคือ เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ปี 2534 ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 304 สาขา โดยในปี 2558 บริษัทเตรียมแผนขยายธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสาขาที่บริษัทลงทุนเอง และการลงทุนในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์
ทั้งนี้ สาขาของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นใน 3 จังหวัดคือ เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน ที่มีอยู่ทั้งหมด 304 สาขา อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 260 สาขา จังหวัดลำพูน 32 สาขา และแม่ฮ่องสอน 12 สาขา โดยเป็นสัดส่วนของร้านแฟรนไชส์15% ซึ่งบริษัทมีแผนขยายจำนวนร้านแฟรนไชส์ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50% เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ในอนาคต
นายวรวัชรกล่าวว่า ในปี 2558 ตั้งเป้าที่จะขยายการลงทุนสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นเพิ่มอีกจำนวน 30 สาขา เมื่อรวมกับสาขาที่เปิดบริการแล้วทำให้ปีนี้จะมีจำนวนร้านเซเว่นอีเลฟเว่นรวมทั้งสิ้น 334 สาขา ครอบคลุมทั้งในเขตตัวเมืองและทุกอำเภอของ 3 จังหวัด โดยจะเป็นร้านแฟรนไชส์ราว 10 สาขา ที่เหลือเป็นส่วนที่บริษัทลงทุนเอง
"ธุรกิจแฟรนไชส์ 7-Eleven ยังคงมีแนวโน้มที่ดี การเข้าสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ร่วมลงทุนกับบริษัทจะใช้เงินลงทุนสาขาละ 3-3.5 ล้านบาท หรืออาจมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับขนาด (Size) ของร้านและความเหมาะสมและศักยภาพของทำเลที่ตั้ง"
สำหรับแนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกปี 2558 ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคเหนือคือ เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน มีทิศทางที่ค่อนข้างดีและคาดว่าจะดีกว่าปี 2557 ที่ชะลอตัวลงเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ
ซึ่งแนวโน้มของการเติบโตในปีนี้ได้รับผลพวงโดยตรงจากภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่มีการขยายตัวมาโดยตลอดระยะ 2 ปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชียงใหม่แทบไม่มีโลว์ซีซั่น และพบว่านักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ มีการจับจ่ายในการใช้บริการสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นเพิ่มมากขึ้น
ด้าน นายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในปี 2558 ธุรกิจค้าปลีกเติบโตขึ้นราว 6.3% จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น ซึ่งการเปิด AEC มีผลทำให้ธุรกิจค้าปลีกมีการขยายตัว รวมถึงการขยายตัวของการบริโภคในสังคมเมืองที่ต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบาย
โดยเฉพาะร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นแบรนด์ธุรกิจค้าปลีกอันดับหนึ่งของไทย โดยที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยให้การสนับสนุนสินเชื่อกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจลงทุนเปิดร้านแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่นไปแล้วกว่า1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในปี 2558 ธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมกับบริษัท ชอยส์ มินิสโตร์ จำกัด เตรียมแผนสนับสนุนวงเงินสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีที่จะลงทุนในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ในพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน ที่บริษัทชอยส์ฯได้สิทธิ์รับช่วงบริหาร ทั้งนักลงทุนรายใหม่และนักลงทุนรายเดิมที่ต้องการขยายสาขาเพิ่ม
โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 30-50 ล้านบาท หรืออาจเพิ่มจำนวนวงเงินสินเชื่อถึง 100 ล้านบาท หากมีการขยายสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นเพิ่มมากกว่าที่ทางกลุ่มชอยส์ฯได้ตั้งเป้าไว้ ซึ่งวงเงินสินเชื่อจะเป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ไม่ต้องใช้หลักประกันและผ่อนนานสูงสุด 10 ปี
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
