4.6K
8 กุมภาพันธ์ 2558
เคทีออพติค เตรียมดันแฟรนไชส์ "Wakeup" ขายปี 2559



นายชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ ผู้อำนวยการด้านการบริหาร บริษัท เคที ออพติค จำกัด เปิดเผยว่าสำหรับการดำเนินธุรกิจร้านเคที ออพติค ในปี 2558 ได้วางงบประมาณทางการตลาดรวมทั้งสิ้น 30 ล้านบาท แบ่งเป็นงบด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดแคมเปญอีเวนท์ต่างๆ รวมถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่และขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

โดยในปีนี้เน้นขยายในโซนกรุงเทพเพิ่มอีก 5 สาขา ได้แก่ เดอะ พาซิโอ พาร์ค, เจมาร์เก็ต แอท รามอินทรา, เมโทร อีส ทาวน์, แฟชั่นไอสแลนด์ และ โชว์ ดีซี เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางไปจนถึงรายได้สูง หรือระดับบีบวกขึ้นไป

ด้านภาพลักษณ์ร้านเคที ออพติค เรามีจุดยืนที่ชัดเจนซึ่งยังคงย้ำในด้านของแฟชั่น มีความเป็นเทรนดี้และเรียบหรูดูดีมีสไตล์ โดยไม่เน้นการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า ไม่แข่งขันด้วยการทำสงครามราคา เพื่อมัดใจลูกค้าสร้างให้เกิดแบรนด์รอยัลตี้มากขั้น และเน้นหนักในเรื่องการคัดสรรนำเข้าแบรนด์สินค้าระดับพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพ สินค้า Limited Edition เพิ่มความหลากหลาย และความเป็นเอ็กคลูซีฟ และที่สำคัญคือการบริหารหลังการขาย

รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ โดยจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ลาซาด้า ให้บริการการสั่งซื้อสินค้าของเคที ออพติค ทางออนไลน์ผ่าน www.lazada.co.th และ www.ktoptic.com อย่างไรก็ตามช่องทางการจัดจำหน่ายหลักยังคงเน้นการขายสินค้าหน้าร้านที่มีการให้บริการพร้อมสรรพ และมีสินค้าแบรนด์พรีเมี่ยมระดับโลกที่หลากหลาย

พร้อมทั้งมีการจัดแคมเปญประจำปี เพื่อกระตุ้นยอดขายโดยตั้งเป้าผลประกอบการในปี 2558 นี้ไว้ว่าจะสามารถมียอดขายเติบโตขึ้น 5% และทำให้เคที ออพติคมีส่วนแบ่งในตลาด 15%


 
ส่วนในปี 2557 ที่ผ่านมา การดำเนินธุรกิจของร้านเคที ออพติคนั้น เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ มีการขยายสาขาเพิ่มถึง 10 สาขา เป็นสาขาในกรุงเทพจำนวน 5 สาขา และต่างจังหวัดอีก 5 สาขา รวม ณ ปัจจุบัน มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 188 สาขา มียอดขาย 800 ล้านบาท

ซึ่งเป็นผลจากการจัดแคมเปญประจำปีของร้าน การนำเข้าสินค้ารูปแบบใหม่ของแต่ละแบรนด์ และแต่ละช่วง Season หรือเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ที่กำลังฮอทฮิท รวมถึงการนำเข้าแบรนด์สินค้าใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งแว่นตากันแดด ยังคงมียอดขายที่สูงกว่าแว่นสายตา

โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 70:30 เนื่องจากแว่นตากันแดดนั้น ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบที่ชอบและทดลองสวมใส่ได้ทันทีโดยไม่ต้องทำการตรวจวัดสายตา เมื่อเห็นว่าเข้ากับรูปหน้า พอใจในรูปแบบ คุณภาพและราคา ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อในทันที ส่วนแบรนด์ที่มียอดขายดีที่สุดคือ เรย์แบน และไอซีเบอริน

สำหรับภาพรวมธุรกิจตลาดแว่นตาของไทยในปี 2557 มีมูลค่ารวมกว่า 6,500 ล้านบาท มีการแข่งขันสูง โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการธุรกิจแต่ละเจ้านั้น เน้นแข่งขันกันด้วยการห่ำหั่นทำสงครามราคา ส่งผลให้ตลาดแว่นตาเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5% และคาดว่าในปีนี้ตลาดแว่นตาจะมีความคึกคัก และมีการแข่งขันที่สูงมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

นายชัชวาลย์ได้กล่าวต่อถึงความพร้อมในการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปีนี้ว่า เมื่อมีการเปิดตลาด AEC อย่างเป็นทางการแล้ว ตลาดแว่นตาบ้านเราจะมีความคึกคักมากขึ้น เป็นผลจากการแข่งขันที่รุนแรงของผู้ประกอบการทั้งในประเทศ และผู้ประกอบการจากประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนที่เข้ามาลงทุนเปิดธุรกิจแว่นตา

ซึ่งทางเคที ออพติคก็ได้เตรียมความพร้อมขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประเทศประชาคมอาเซียนเพิ่มขึ้ โดยได้วางแผนขยายสาขาเพิ่มในต่างจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแถบชายแดนอย่างเช่น จ.อุดรธานี จ.หนองคาย เป็นต้น ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีหน้า 2559 เนื่องจากเล็งเห็นว่าจังหวัดที่อยู่แถบชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศ AEC ที่ทำการค้าขายระหว่างกันนั้น


อัตราการเติบโตของมูลค่าการค้าแถบชายแดนของไทยและเพื่อนบ้านมีอัตราที่เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากนโยบายเศรษฐกิจและการค้าเสรี ทำให้ประชาชนในประเทศเพื่อบ้านส่วนใหญ่มาซื้อสินค้าในไทยมากขึ้น

และนอกจากการขยายสาขาเพิ่มในจังหวัดแถบชายแดนแล้วในปีหน้า 2559 เราจะมีร้านรูปแบบใหม่ในลักษณะของแฟรนไชส์ ใช้ชื่อ  "Wakeup" โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าระดับมหาวิทยาลัย คนเริ่มทำงาน และกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบทางด้านแฟชั่น

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
alls BUBBLE TEA แฟรนไช..
1,117
ยู้ฮู หวานเย็นเปิดสาขา..
1,030
รสเด็ดก๋วยเตี๋ยวกระทุ่..
926
สัมมนาลงทุน แฟรนไชส์คุ..
751
ยินดีต้อนรับ “ครอบครัว..
674
DOCTOR COSMETICS ACADE..
599
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด