2.8K
20 สิงหาคม 2557
กัลลิเวอร์ เดินหน้ารับแฟรนไชส์ ขยายเครือข่าย


เตรียมพร้อมเปิด 10 สาขาภายในปีนี้และ 100 สาขาในปีหน้า ย้ำลงทุนเปิดแฟรนไชส์ คืนทุนภายในประมาณ 3 ปีด้วยเป้ายอดขาย 30 – 50 คันต่อสาขา


บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายรถมือสองภายใต้แฟรนไชส์กัลลิเวอร์ เดินหน้าขยายเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกในครอบครัวกัลลิเวอร์ภายใต้แฟรนไชส์กัลลิเวอร์

มร. คัทสึชิ โนมูระ กรรมการผู้จัดการบริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่าขณะนี้ได้เริ่มเจรจากับผู้สนใจร่วมธุรกิจกับกัลลิเวอร์ในรูปแบบแฟรนไชส์ ซึ่งรวมถึงผู้ร่วมธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์จากประเทศญี่ปุ่นด้วย “ขั้นต่อไปของเราคือการรุกสื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อเชิญชวนเข้าร่วมธุรกิจกับเราในรูปแบบแฟรนไชส์”

มร.โนมูระ กล่าวว่าบริษัทฯ จะเริ่มเจรจากับกลุ่มเป้าหมายซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการรถมือสองอิสระ หรือเต็นท์รถมือสอง โชว์รูมรถใหม่ บริษัทเช่าซื้อรถยนต์ บริษัทรถเช่าและนักธุรกิจที่มีความสนใจในธุรกิจรถมือสอง

“แน่นอนครับเรามีการสนับสนุนแก่ผู้เข้าร่วมธุรกิจกับเรา ได้แก่การฝึกอบรม ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีประสบการณ์ในธุรกิจรถมือสอง แต่มีความสนใจจะเข้าสู่ธุรกิจนี้ ซึ่งเราจะสามารถเติบโตไปพร้อม ๆ กันภายใต้โครงการส่งเสริมของเรา”  มร. โนมูระ กล่าว

มร. โนมูระ กล่าวว่าขณะนี้บริษัทฯ ได้เปิดโชว์รูมภายใต้แฟรนไชส์ของกัลลิเวอร์แห่งแรกบนถนนศรีนครินทร์ และเตรียมที่จะเปิดอีก 2 แห่งในจังหวัดนครสวรรค์และเชียงใหม่ในอีก 2 – 3 เดือนข้างหน้า “เรากำลังเจรจากับพันธมิตรของเราที่จะเปิดสาขาเพิ่มเติม โดยภายในสิ้นปีนี้ เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถเปิดได้ครบ 10 สาขาและปีหน้าเพิ่มเป็น 100 สาขาทั่วประเทศ”


มร.โนมูระ กล่าวว่าผู้สนใจร่วมธุรกิจกับกัลลิเวอร์ จะต้องมีเงินทุนเริ่มต้นที่ 25 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นค่าก่อสร้าง 10 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และสต็อคของรถ ซึ่งภายใต้แผนธุรกิจของบริษัทฯ จะคืนทุนประมาณ 3 ปี โดยจะมีการสนับสนุนการฝึกอบรม รวมถึงการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย

“ผมอยากจะบอกว่าปัจจุบันตลาดรถมือสองในประเทศไทยนั้นถือว่าย้อนยุคตลาดรถมือสองในญี่ปุ่นประมาณ 20 ปี ซึ่งเราได้ใช้ความพยายามในการพัฒนาและปรับปรุงให้ตลาดรถมือสองในญี่ปุ่นมีความทันสมัย จนถึงวันนี้ ผมสามารถบอกได้ว่าตลาดรถมือสองในประเทศญี่ปุ่นเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น” มร. โนมูระ กล่าว

มร. โนมูระ กล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้าที่จะซื้อหรือขายรถมือสองภายใต้ระบบปัจจุบันในประเทศไทย ทั้งนี้เพราะทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมีความกังวลว่าจะถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ภายใต้ระบบของกัลลิเวอร์ ได้มีการพัฒนาระบบการซื้อการขายที่ผ่านการพิสูจน์จากประเทศญี่ปุ่นมาแล้วถึง 20 ปี

“สำหรับประเทศไทย เราได้พัฒนาระบบ PSA (Purchase and Sales Assessment System) เพื่อสร้างความโปร่งในการซื้อขายรถมือสอง ซึ่งภายใต้ระบบนี้ จะมีข้อมูลอ้างอิงจากการรวบรวมราคาซื้อขายในแหล่งประมูลรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ รวมไปถึงราคาขายปลีก ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงให้แก่ลูกค้าที่ต้องการจะสืบราคารถมือสอง” มร. โนมูระ กล่าว

นอกจากนี้ ภายใต้ระบบ PSA ผู้ร่วมธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ของกัลลิเวอร์ทุกแห่งจะสามารถแลกเปลี่ยนรถยนต์สต็อคระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายมีรถยนต์มีโอกาสขายรถที่หลากหลายมากขึ้น จึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการนำเสนอสินค้าที่มากขึ้นกว่าที่มีอยู่ในสต็อค ซึ่งภายใต้ระบบของกัลลิเวอร์นั้น บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าแบรนด์กัลลิเวอร์จะได้รับการยอมรับในตลาดประเทศไทยในอนาคตอันใกล้เพราะกัลลิเวอร์ได้แนะนำระบบธุรกิจรถมือสองที่ได้รับการยอมรับสู่สังคมไทย

โดยเฉพาะข้อเสนอรับประกันความพึงพอใจของลูกค้าด้วยการรับซื้อคืนภายใน 30 วันหรือ 5,000 กิโลเมตร พร้อมทั้งการรับประกันมาตรฐาน 6 เดือนหรือ 10,000 กิโลเมตร ตลอดจนข้อเสนอเพิ่มเติมรับประกัน 1 – 3 ปีแล้วแต่อายุของรถยนต์


มร.โนมูระ กล่าวว่าระบบแฟรนไชส์นั้นถือเป็นทางด่วนสู่ความสำเร็จ สามารถเติบโตได้ถึงปีละ 20% ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาแบรนด์ที่เป็นของตัวเองพร้อมด้วยเครือข่ายที่แข็งแรงทั่วประเทศ

“ผมอยากจะย้ำว่าประมาณ 98% ของชาวญี่ปุ่นรู้จักแบรนด์กัลลิเวอร์ และผมก็มั่นใจว่าเราจะสามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับของสังคมไทยได้เป็นอย่างดี” มร. โนมูระ กล่าว

มร. โนมูระ กล่าวว่ากัลลิเวอร์มีความเชื่อมั่นตลาดประเทศไทยอย่างมากทั้งนี้เพราะจากการสำรวจของ JETRO พบว่าในประเทศไทยมีเพียง 13.8% ของครัวเรือนเป็นเจ้าของรถยนต์เมื่อปี 2553 เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศญี่ปุ่นที่มีตัวเลขสูงถึง 86.5% ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของตลาดรถมือสองในประเทศไทย

กัลลิเวอร์ ถือเป็นค่ายรถมือสองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยได้ลงทุนร่วมกับ วี-กรุ๊ป ซึ่งกลุ่มธุรกิจยานยนต์ชั้นนำในประเทศไทย ร่วมก่อตั้งบริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด เพื่อรุกตลาดประเทศไทย ขณะนี้ กัลลิเวอร์ กำลังเร่งขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอยู่ 1 สาขาบนถนนศรีนครินทร์ ซึ่งใช้เงินลงทุนก่อสร้างโชว์รูมแห่งนี้ประมาณ 10 ล้านบาท

สำหรับกัลลิเวอร์ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ก่อตั้งมานานกว่า 20 ปี โดยปัจจุบันได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของบริษัทค้ารถมือสองในประเทศญี่ปุ่น มีสาขาทั้งสิ้น 430 สาขาในปัจจุบัน และมีการซื้อรถมือสองปีละประมาณ 200,000 คัน และขายรถออกตรงสู่ผู้บริโภคประมาณปีละ 60,000 คันผ่านเครือข่าย 430 สาขาแฟรนไชส์ทั่วประเทศญี่ปุ่น
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
951
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
651
“เติมพลังความรู้” กับ ..
593
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
564
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
555
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
518
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด