|
|
|
|
21 มิถุนายน 2557 |
ผุดเฟรนไชส์ร้านทำผมดัง 'ทรูฟิทท์' ปักหมุดเอ็มบาสซี่
พีเอส กรูมมิ่ง ลุยธุรกิจร้านบาร์เบอร์ไฮโซ วางเป้านำเข้า 4 แบรนด์จากต่างประเทศ จับตลาดผู้ชายที่ใส่ใจดูแลตัวเอง ประเดิมทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท เปิดแบรนด์แรก "ทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์" จากเมืองผู้ดีประเทศอังกฤษ คาดคืนทุนใน 2-3 ปี เล็งปลายปีเปิดแบรนด์ที่ 2 ต่อเนื่อง
นายศกร ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอส กรูมมิ่ง จำกัด ผู้บริหารร้านแฟรนไชส์บาร์เบอร์จากประเทศอังกฤษ ภายใต้ชื่อ "ทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์" (TRUEFITT & HILL) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจว่า ได้ลงทุนจัดตั้งบริษัทขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจร้านตัดผมสำหรับผู้ชาย ซึ่งวางเป้าหมายว่าจะมีแบรนด์ร้านตัดผมผู้ชายประมาณ 4 แบรนด์เข้ามาทำตลาด โดยแต่ละแบรนด์จะเป็นแฟรนไชส์จากต่างประเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไป ซึ่งวางเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตรา 10-20%
"การเติบโตของบริษัทมองว่าควรจะเป็นการเติบโตแบบยั่งยืน มีกำไร พนักงานต้องอยู่ได้ และสามารถช่วยเหลือสังคมได้ด้วย อยากให้คนไทยดูแลตัวเอง อยากให้ทั้งอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับตลาดผู้ชาย เพราะผู้ชายเริ่มดูแลตัวเองทำให้ตลาดมีขนาดใหญ่พอๆ กับตลาดผู้หญิง ปัจจุบันผู้ชายยังต้องใช้แบรนด์สินค้าที่เป็นแบรนด์ผู้หญิง แม้จะเป็นสินค้าผู้ชายก็ตาม ยังมีแบรนด์สำหรับผู้ชายโดยเฉพาะยังน้อย ปัจจุบันเริ่มมีตลาดผู้ชายจริงๆ แต่ในอนาคตน่าจะมีบริการใหม่ๆ เข้ามา"
สำหรับร้านทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์ ร้านบาร์เบอร์แฟรนไชส์สไตล์อังกฤษ ถือเป็นแบรนด์แรกที่บริษัทเปิดตัว โดยใช้งบลงทุนกว่า 10 ล้านบาท เปิดให้บริการที่ชั้น 4ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ บนพื้นที่กว่า 100 ตารางเมตร ตกแต่งภายในแบบสไตล์อังกฤษตามต้นตำรับและเอกลักษณ์ทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีการบริการตัดผม, ตัดเล็บ, โกนหนวด และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย อาทิ น้ำหอม, ครีมโกนหนวด, ผลิตภัณฑ์หลังการโกนหนวด, อุปกรณ์โกนหนวด เป็นต้น
การที่บริษัทให้ความสนใจธุรกิจร้านตัดผมผู้ชาย เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีร้านในรูปแบบดังกล่าวอยู่ในศูนย์การค้าที่ใด และผู้ชายส่วนใหญ่ยังเข้าไปใช้บริการในร้านซาลอนที่ใช้ร่วมกับร้านเดียวของผู้หญิง ทำให้อาจจะไม่ได้รับความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัว จึงมองเห็นช่องว่างและโอกาสทางการตลาดที่ยังไม่มีคู่แข่ง ประกอบกับปัจจุบันผู้ชายหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น เป็นไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต เห็นได้จากการเกิดขึ้นของนิตยสารผู้ชาย, เครื่องสำอางผู้ชาย และสินค้าของผู้ชายออกมาจำหน่ายมากขึ้น
นายศกรกล่าวอีกว่า ร้านทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์ คาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ใน 2-3 ปี ซึ่งเบื้องต้นวางเป้าหมายผู้ใช้บริการต่อวัน 30-40 ราย ค่าบริการเริ่มต้น 1พันบาท และขายสินค้าได้ 10 ชิ้น ปัจจุบันรายได้หลักมาจากการบริการสัดส่วน 80% และจำหน่ายสินค้า 20% อนาคตวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้ที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนขยายสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ จังหวัดภูเก็ต ขณะเดียวกันบริษัทยังวางแผนเพิ่มสินค้าเข้ามาจำหน่ายด้วย โดยเป็นสินค้ากลุ่มครีมบำรุงผิว รวมถึงการให้บริการทรีตเมนต์ต่างๆ เพื่อบริการแบบครบวงจรให้กับกลุ่มลูกค้าผู้ชายด้วย ส่วนแบรนด์ใหม่ที่จะนำเข้ามาเพิ่มคาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
"กลุ่มเป้าหมายของร้านทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์ มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปจนถึงผู้สูงอายุ เน้นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง คนที่ดูแลตัวเอง ซึ่งปัจจุบันมีเข้ามาใช้บริการเกินกว่าเป้าหมายที่คาดไว้กว่า 20% แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นชาวต่างชาติสัดส่วนถึง 70% ส่วนการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักก็เน้นการประชาสัมพันธ์และโซเชียลมีเดียเป็นหลัก"
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|
|
|
