|
|
21 พฤษภาคม 2557 |
เอพริลเบเกอรี่พักแผนเปิดสาขา
เอพริล เบเกอรี่ ชะลอแผนขยายสาขา หลังเติบโตเร็วเกินไป หันมาเน้นเพิ่มยอดแต่ละสาขาแทน คาดสิ้นปีมีสาขาครบ 80 แห่ง เล็งพัฒนาขนมโตเกียวบานาน่า สูตรไทย หวังขายนักท่องเที่ยว คาดยอดขายโต 30-40% กำลังซื้อไม่กระทบแม้เศรษฐกิจชะลอตัว
นางสาวณธนพร เอื้อวันทนาคูณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยไดมอนด์ฟูด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่ แบรนด์เอพริล เบเกอรี่ เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า บริษัทได้ปรับแผนการขยายธุรกิจทั้งรูปแบบที่ลงทุนโดยบริษัทและการขายแฟรนไชส์
จากเดิมตั้งเป้าหมายขยายสาขาครบ 100 สาขาในปีนี้ ได้ปรับลดเหลือให้ครบ 80 สาขาในปีนี้แทน เนื่องจากมองว่าเป็นการเติบโตเร็วเกินไป ประกอบกับการขยายสาขาดังกล่าวเพียงพอที่จะครอบคลุมการจำหน่ายสินค้าแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งบริษัทจะหันไปขยายตลาดต่างจังหวัดและตลาดในต่างประเทศแทน
"ตั้งแต่เดือนหน้าบริษัทจะเริ่มดูการขยายตลาดต่างจังหวัด เนื่องจากสามารถพัฒนาสินค้าเป็นอาหารแช่แข็งได้แล้ว ทำให้ไม่มีปัญหาในด้านการขนส่งสินค้า ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมด 56 แห่งเป็นการขยายโดยบริษัท 6 สาขา ที่เหลือเป็นสาขาแฟรนไชส์ ซึ่งช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทขยายสาขาได้ 40 สาขา จึงเห็นว่าควรจะชะลอการขยายสาขาไม่ให้เติบโตเร็วเกินไป และหันมาพัฒนาให้แต่ละสาขาทำยอดขายได้มากขึ้น ซึ่งวางเป้าหมายว่าแต่ละจังหวัดจะมีสาขาเพียง 1 แห่ง"
สำหรับการทำตลาดในประเทศปีนี้ บริษัทได้พัฒนาไส้ขนมให้มีสูตรเดียวกับขนมโตเกียวบานาน่า ของประเทศญี่ปุ่น จึงวางแผนผลิตเป็นขนมในลักษณะเดียวกัน เพื่อขายให้กับคนไทยและชาวต่างชาติ สำหรับซื้อเป็นของที่ระลึก ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาตัวแป้งด้านนอก โดยบรรจุภัณฑ์บริษัทจะเน้นความเป็นไทย เพื่อสื่อถึงความเป็นขนมจากประเทศไทย รวมถึงการใช้วัตถุดิบเป็นของไทย ทั้งกล้วยหอมไทย ผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายได้ช่วงปลายปีนี้ ผ่านช่องทางร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และร้านค้าในท่าอากาศยานต่างๆ ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาสินค้าใหม่ออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ไตรมาสละ 1 รายการ โดยปัจจุบันมีสินค้าจำหน่ายอยู่ทั้งสิ้น 17 รายการ ส่วนภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทเท่าไรนัก เนื่องจากสินค้ามีราคาจำหน่ายไม่สูงเมื่อเทียบกับขนมประเภทอื่นๆ เช่น ขนมเค้ก โดยมีราคาขายชิ้นละ 30-32 บาท บริษัทปรับราคาขึ้นมาจากช่วงปีที่ผ่านมา จากราคาชิ้นละ 29 บาท ซึ่งในปีนี้เชื่อว่าบริษัทจะยังคงทำยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโตในอัตรา 30-40% จากปีที่ผ่านมาทำยอดขายได้กว่า 100 ล้านบาท
"ช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ รวมถึงช่วงเทศกาล ร้านขนมของบริษัทยังเป็นร้านที่ขายดีในห้าง นอกจากนี้ ขนมของบริษัทยังถูกนำไปใช้เป็นของว่างในงานเลี้ยง งานประชุมต่างๆ รวมถึงลูกค้าบางส่วนก็กินแทนอาหารในบางมื้อ ทำให้ยอดขายยังโตได้ในภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เป็นแบบนี้ และบริษัทก็ทำตลาดสร้างแบรนด์ ลงสื่อโฆษณาในต่างจังหวัดที่ได้ขยายสาขาออกไป เพื่อทำให้คนรู้จักมากขึ้นด้วย"
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|
|