7.2K
7 มกราคม 2557
เชนกาแฟ7.2พันล.เดือด แบรด์ไทย/เทศแห่ผุดสาขาครอบเมือง

 
 
จับตาธุรกิจร้านกาแฟ 7.2 พันล้านฟัดกันเดือด  แบรนด์ยักษ์แห่ทุ่มงบผุดสาขาครอบทั่วประเทศ  ขณะที่ระดับกลางเร่งปรับภาพลักษณ์ยกระดับจับคนรุ่นใหม่  "ทรูคอฟฟี่"  มั่นใจ 5 ปี ขยายสาขาทะลุ 400 แห่ง  พร้อมส่งโมเดลทรู โก ประกบร้านทรู ช้อป ด้าน "อโรม่า"  เร่งรีแบรนด์ชาวดอย อัพเกรดสู่พรีเมียม ขณะที่ "อัลดีส์ คอฟฟี่ไลท์"  ชี้ยังไม่ถึงเวลาของกาแฟเพื่อสุขภาพ

จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าในปี 2556  ธุรกิจร้านกาแฟที่เป็นเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่จะมีมูลค่าตลาดประมาณ 7.23 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 11% จากปี 2555  ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 6.49 พันล้านบาท โดยพบว่าในปีนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่

 

อาทิ สตาร์บัคส์  มีการพัฒนาร้านในรูปแบบสแตนด์อะโลน พร้อมให้บริการในแบบไดรฟ์ ทรู  เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น  ขณะที่ร้านกาแฟดังอย่างอเมซอน  ก็พัฒนารูปแบบร้านจากเดิมที่เปิดให้บริการในสถานีบริการน้ำมัน ก็หันไปเปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า ภายใต้ชื่อ "The Amazon’s Embrace" รวมทั้งยังมีเชนร้านกาแฟดังจากอังกฤษอย่าง "คอสต้า คอฟฟี่"  ที่เข้ามาเปิดให้บริการในเมืองไทย ส่งผลให้บรรยากาศการแข่งขันในธุรกิจร้านกาแฟกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง

 
 
โดยนางสาววิชชุดา สุขีวัฒนมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทรู ไลฟ์สไตล์ รีเทล จำกัด ผู้บริหาร ร้านกาแฟทรู คอฟฟี่ เปิดเผยว่า  ตลาดร้านกาแฟมีการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการขยายสาขาของผู้ประกอบการรายใหญ่ และการเข้ามาของผู้ประกอบการใหม่ ซึ่งเป็นเชนร้านกาแฟชื่อดัง  ทำให้ในปีหน้าบริษัทต้องเตรียมแผนรุกธุรกิจอย่างหนัก โดยเฉพาะการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 100 สาขา

ทั้งในรูปแบบที่บริษัทลงทุนเอง และการขายแฟรนไชส์  ถือเป็นการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า จากปีนี้ที่ขยายสาขาราว 30 สาขา และจะเดินขยายสาขาให้ได้ 300-400 สาขาภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ จากปัจจุบันทรู คอฟฟี่ มีสาขารวม 100 สาขา แบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ 90% และสาขาในหัวเมืองใหญ่ อาทิ ภูเก็ต  หัวหิน ฯลฯ 10%  โดยเป็นการลงทุนของบริษัทเองกว่า 70 สาขา และของแฟรนไชส์ 30 สาขา 
 
"การขยายสาขาจะเน้นในทำเลใหม่ๆ  ที่ทรู คอฟฟี่ยังเข้าไม่ถึง เช่น  ย่านฝั่งธนบุรี และรังสิต ฯลฯ   รวมทั้งจะพัฒนาโมเดลใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับทำเลและกลุ่มลูกค้า  จากปัจจุบันที่ทรู คอฟฟี่ มีร้านขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ 200-300 ตร.ม.  และร้านขนาดเล็กมีพื้นที่ 20-30 ตร.ม.  นอกจากนี้ยังมีร้านในรูปแบบทรู โก  ซึ่งจะตั้งอยู่กับร้านทรู ช้อป  เพื่อให้บริการลูกค้าที่มาใช้บริการของร้านทรู ด้วย โดยปัจจุบันมีอยู่ราว 20 สาขา และจะขยายเพิ่มเป็น 300 สาขาในอนาคต" นางสาววิชชุดา กล่าวและว่า

 
 
แนวโน้มการแข่งขันของร้านกาแฟในปีหน้า เชื่อว่าจะมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวทั้งในด้านการคิดค้นเมนูที่เป็นสูตรเฉพาะหรือเมนูซิกเนเจอร์ รวมถึงการบริการและคุณภาพของสินค้า
 
ด้านนายกิจจา  วงศ์วารี กรรมการบริหาร  อโรม่า กรุ๊ป  ผู้บริหาร ร้านกาแฟไนน์ตี้โฟร์ คอฟฟี่ และชาวดอย กล่าวว่า บริษัทรีแบรนด์ร้านกาแฟสดชาวดอยเพื่อยกระดับภาพลักษณ์ให้เป็นร้านกาแฟพรีเมียม   เพื่อรองรับตลาดร้านกาแฟระดับกลางที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา สวนทางกับร้านกาแฟระดับล่างที่พบว่ามีการเติบโตลดลง  ซึ่งจะเห็นได้ว่าแบรนด์ร้านกาแฟระดับกลาง  อาทิ อเมซอน , อินทนิน , คอฟฟี่ ทูเดย์ ฯลฯ มีการขยายสาขามากขึ้น  และมีกลุ่มลูกค้าเลือกใช้บริการมากขึ้นด้วย
 
อย่างไรก็ดีในปีหน้า บริษัทมีแผนขยายสาขาร้านกาแฟชาวดอยเพิ่มขึ้นอีก 50 สาขา จากเดิมที่มีอยู่  200 สาขา โดยเน้นขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า BTS และสถานีบริการก๊าซ LPG ในต่างจังหวัด โดยปัจจุบันกาแฟสดชาวดอยที่ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS มีด้วยกันทั้งสิ้น 7 สาขา  อาทิ สถานีหมอชิต, ทองหล่อ, ช่องนนทรี, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น ในขณะที่ร้านกาแฟสดไนน์ตี้โฟร์ คอฟฟี่ จะมีการขยายเพิ่มอีก 5 สาขา จากที่มีอยู่ 28 สาขา
 
 
 
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ 1.25 พันล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นรายได้จากการจำหน่ายวัตถุดิบ 70% รายได้จากการนำเข้าและจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ 20% และ 10%  เป็นรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงธุรกิจแฟรนไชส์และการบริการ
 
ขณะที่นายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชา บราเธอร์ส จำกัด ผู้ทำตลาดไอศกรีมและของหวานสไตล์ญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ อัลดีส์ คอฟฟี่ไลท์  กล่าวว่า อัลดีส์ถือเป็นแบรนด์กาแฟเพื่อสุขภาพ โดยไม่ใช้น้ำตาล แต่ใช้สารเพิ่มความหวานทดแทน เพื่อมาเสิร์ฟในร้านขนมในเครือของบริษัท ซึ่งยังไม่มีแผนการเปิดเฉพาะแบรนด์แต่อย่างใด เนื่องจากความนิยมของผู้บริโภคเมืองไทยในตลาดกาแฟเพื่อสุขภาพยังน้อยอยู่ ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาตลาดเสียก่อน
 
"ปัจจุบันตลาดกาแฟเพื่อสุขภาพในบ้านเรายังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เราจึงไม่มีแผนขยายสาขาของอัลดีส์ คอฟฟี่ไลท์ ในรูปแบบสแตนด์อะโลนในเร็วๆ นี้ ดังนั้นรูปแบบของเราส่วนใหญ่จึงเป็นการคิดค้นและพัฒนาสูตรขึ้นมาเพื่อเสิร์ฟในร้านขนมและไอศกรีมในเครือเท่านั้น โดยเราจะมุ่งเน้นการนำส่วนผสมที่เป็นวัตถุดิบคุณภาพเข้าเป็นส่วนผสม ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟที่นำเข้าจากอิตาลี เป็นต้น ซึ่งจะเน้นรสชาติที่เข้มข้น"

อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,414
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,331
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,235
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
853
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
834
ออลส์ บับเบิ้ลที เปิด ..
529
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด