เซเว่นอีเลฟเว่นกร้าว ลั่นปีนี้ทะลุ 5,000 สาขา พร้อมเดินหน้าขยายให้ครบ 7,000 สาขาเร็วๆ นี้ เล็งดึงแบรนด์กาแฟ-เบเกอรี่ คัดสรร และยูริ ตั้งเป็นสแตนด์อะโลน ยอมรับการแข่งขันสูงขึ้น เชื่อจะได้เห็นค้าปลีกอีกหลายแบรนด์ ดาหน้าเปิดรูปแบบคอนวีเนี่ยนสโตร์รุกชุมชน ตั้งแต่ตำบลยันหมู่บ้าน หวังเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น 

 

นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันร้านเซเว่นฯในไทยมีอยู่ประมาณ 4,300 สาขา หากเทียบกับประเทศญี่ปุ่นแล้วถือว่ายังน้อยกว่ามาก เพราะฉะนั้นบริษัทจึงมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาเพิ่ม ให้ได้ครึ่งหนึ่งของจำนวนสาขาในประเทศญี่ปุ่น โดยปัจจุบันในญี่ปุ่นมีสาขาอยู่ประมาณ 1.2 หมื่นสาขา เมืองไทยก็จะขยายให้ได้ประมาณ 5,000 สาขาภายในปีนี้ 

 

ส่วนเป้าหมายในอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไรนั้น คงยังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้ แต่เชื่อมั่นว่าจะได้เห็นตัวเลขที่ 7,000 สาขาอย่างแน่นอน 

 

 

พร้อมกันนี้ นายก่อศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ร้านสะดวกซื้อ ถูกมองว่าเข้าไปทำลายระบบโชห่วยหรือร้านค้าย่อยในชุมชนว่า ตนมั่นใจว่าเซ่เว่นฯไม่ได้มีส่วนทำให้ระบบโชห่วยตายลงไป เพราะสินค้าใน เซเว่นฯมีราคาแพงเมื่อเทียบกับร้านโชห่วย ประกอบกับปัจจุบันร้านค้าเหล่านี้มีทางเลือกใน การหาซื้อสินค้าเข้ามาจำหน่ายในร้านได้มากขึ้น อาทิ แม็คโคร หรือเทสโก้ โลตัส ซึ่งค้าปลีก รายใหญ่เหล่านี้เน้นขายสินค้าราคาถูก 

 

"สาเหตุหนึ่งที่โชห่วยจะหมดไป หลักๆ มาจากการสืบทอดกิจการมากกว่า เมื่อลูกหลานเรียนจบก็ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ การที่เซ่เว่นฯทำแฟรนไชส์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของร้านโชห่วย แบบดั้งเดิมที่จะปรับมาเป็นร้านสะดวกซื้อแบบใหม่ สามารถมีเวลาเป็นส่วนตัวได้ พูดง่ายๆ คือ ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ เปรียบบเสมือนเป็นการทดแทนกันมากกว่า" 

 

ด้านนายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองประธานกรรมการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในปีนี้ตนเชื่อมั่นว่าจะรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการขยายสาขา เพราะกับเทสโก้ โลตัส ที่อยู่ในรูปแบบ เอ็กซ์เพรสเองนั้นเชื่อว่าจะมีการขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับสาขาของเซเว่นฯ และคาดว่าในปีนี้จะได้เห็นแบรนด์อื่นๆ พยายามย่อไซซ์ลงมาอยู่ในรูปแบบของ คอนวีเนี่ยนสโตร์หรือร้านสะดวกซื้ออีกจำนวนไม่น้อย และเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นผู้ประกอบการ ก็จะเข้าไปตั้งเป็นร้านค้าในตำบลหรือว่าในหมู่บ้านให้มากขึ้น 

 

 

 

"ระหว่างโลตัส เอ็กซ์เพรส กับเซเว่นฯ รูปแบบในการเข้าถึงผู้บริโภคค่อนข้างต่างกัน เพราะเราเน้นความเป็นร้านสะดวกซื้อ สินค้าที่จำหน่ายอยู่จึงเป็นสินค้าที่ซื้อแล้วสามารถใช้ได้ทันที หรือหากเป็นของกินก็สามารถอุ่นที่ร้านแล้วรับประทานได้เลย ส่วนโลตัส เอ็กซ์เพรส สินค้าที่วางในร้านจะเน้นการขายให้กับครัวเรือนมากกว่าขายให้บุคคล โดยส่วนใหญ่เป็นเนื้อสัตว์ ผักสด ที่ต้องนำไปปรุงต่อ" 

 

 

เมื่อถามถึงการทดลองรูปแบบร้านค้าภายใต้ แบรนด์ คัดสรร และยูริ ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟและเบเกอรี่ นายสุวิทย์กล่าวว่า ตอนนี้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแต่เพื่อให้เกิดความแข็งแรง และมั่นคงมากขึ้นคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาทดลองตลาดไปอีกสักระยะ ส่วนที่มองกันว่าสินค้าของทั้งสอง แบรนด์จะซ้ำซ้อนกันนั้น คิดว่าคงไม่ซ้ำกัน

เนื่องจากแบรนด์ยูริที่เป็นเบเกอรี่นั้นจะเป็นการร่วมกับ เบเกอรี่ของญี่ปุ่น พัฒนาเบเกอรี่ขึ้นมา และมีแผนจะขยายร้านในรูปสแตนด์อะโลน เช่นเดียวกันกับแบรนด์คัดสรร ที่มีแนวโน้มที่จะขยายร้านออกมาอยู่ในรูปแบบสแตนด์อะโลนด้วยเช่นกัน ขณะที่ร้านเอ็กซ์ตร้า ร้านสเปเชี่ยลตี้ สโตร์ ที่ขายสินค้า เกี่ยวกับยา ความงามนั้น ขณะนี้ยังคงมีอยู่เพียงแห่งเดียวที่จรัญสนิทวงศ์ 

 

 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นโยบายการขยายสาขาของเซเว่นฯในปีนี้ หลักๆ จะเน้นไปที่การเปิดสาขาแถบชานเมืองทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมไปถึงพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะกับเมืองท่องเที่ยวในภาคต่างๆ อาทิ ภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี และตราด เป็นต้น ส่วนสาขาเดิมที่มีอยู่แล้ว ซีพี ออลล์ ก็จะทยอยรีโนเวตให้มีความทันสมัย การจัดวางสินค้าในร้ายจะเน้นความสะดวกสบายในการเดินเลือกซื้อสินค้า และสินค้าแต่ละรายการก็จำเป็นต้องสอดคล้อง กับความต้องการของลูกค้าในแต่ละย่านมากขึ้น 

 

 

แฟรนไชส์ ทิป จัดทำโดย ThaiFranchiseCenter.com

 

 

 

 

อ้างอิงจาก : ประชาชาติธุรกิจ