3.2K
8 ตุลาคม 2556
เซ็นจูรี่ 21 คึกเปิดแฟรนไชส์ 100 สาขา

 
 
เซ็นจูรี่ 21 บิ๊กดีลเมคเกอร์ซื้อขายที่ดินชี้ธุรกิจอสังหาฯขาลง อารมณ์และความต้องการซื้อที่ดินของดีเวลอปเปอร์ลดต่ำตามภาวะของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค ฉุดยอดขายที่ดินบริษัทพลาดเป้า 1 หมื่นล้านบาท ปรับแผนปั้นแฟรนไชส์สร้างรายได้ วางแผนสิ้นปี 57 เปิดให้ได้ 100 สาขา
 
นายกิติพงษ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เข้าสู่ภาวะขาลง โดยยอดการซื้อขายที่ดินของบริษัทในปีนี้อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 1 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ช่วง 2 ปีก่อนแต่ละปีจะทำยอดขายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท ถือเป็นบริษัทนายหน้าขายที่ดินรายใหญ่อันดับ 1 ของตลาด ซึ่งให้บริการกับดีเวลอปเปอร์ชั้นนำ แต่ครึ่งปีแรกปีนี้ทำได้ประมาณ 6,000 ล้านบาท และขณะนี้เข้าสู่ไตรมาส 3 และ 4 คาดว่าถึงสิ้นปีนี้เฉพาะธุรกิจด้านการซื้อขายที่ดินของเซ็นจูรี่ 21 อาจทำยอดขายได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ส่อแววชะลอตัวมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพราะอารมณ์และความต้องการซื้อที่ดินของดีเวลอปเปอร์ลดลงตามภาวะของตลาดและความต้องการของผู้บริโภค ทั้งทำเลสำหรับพัฒนาคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ทั้งนี้ความต้องการที่ดินของบริษัทพัฒนาอสังหาฯในวันนี้ต้องการทำเลที่ดีเยี่ยมและตอบโจทย์ด้านการตลาดเท่านั้น เห็นได้ชัดจากที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ต้องการที่ดินติดสถานีรถไฟฟ้าเท่านั้น ไม่ต้องการทำเลตัวเลือกที่ใกล้เคียงกันมาพัฒนาเหมือนสมัยก่อนแล้ว
 
"ช่วงที่ตลาดอสังหาฯเติบโตอย่างมากเมื่อ 1-2 ปี เซ็นจูรี่ 21 ขายที่ดินได้ดี โดยเฉพาะที่ดินรอบแนวรถไฟฟ้า ซึ่งราคาซื้อขายเหมาะสม ดีเวลอปเปอร์สามารถพัฒนาคอนโดมิเนียมขายให้กับผู้บริโภคในราคาที่เหมาะสม ทำให้ตลาดมีดีมานด์มาก มาถึงวันนี้ที่ดินติดสถานีรถไฟฟ้าเริ่มหายาก และราคาสูงขึ้น ทำให้ยอดขายที่ดินติดสถานีรถไฟฟ้าค่อนข้างลดลงไปอย่างน่าใจหาย ประมาณ 60% จากยอดขายที่เราเคยทำได้"
 
 
 
จากปัจจัยราคาที่ดินที่แพงขึ้นอย่างมาก ทำให้ดีเวลอปเปอร์หันไปพัฒนาเซ็กเมนต์อื่นหรือโปรดักต์ตัวอื่นๆ อย่างเช่นขยับไปพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบๆชานเมือง อย่างไรก็ตาม เมื่อรายใหญ่เข้าไปราคาที่ดินก็วิ่งต่อไปอีก จนซื้อไม่ได้ เช่น บางใหญ่ บางบัวทอง ฉะนั้นเมื่อราคาที่ดินสูงขึ้นซัพพลายจะเริ่มต่ำลง เพราะดีเวลอปเปอร์ขึ้นราคาเพื่อให้ครอบคลุมต้นทุน แต่ผู้บริโภคก็อาจจะซื้อไม่ได้ นอกจากนี้ดีเวลอปเปอร์ยังประสบปัญหาแรงงานขาดแคลน ขณะเดียวกันมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างบางรายผันตัวเองมาเป็นดีเวลอปเปอร์เพราะกำไรดีกว่า จึงทำให้วงการอสังหาฯเกิดวิกฤติแรงงานโดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งปัจจัยแรงงานนี้จะผลักดันให้ซัพพลายน้อยลง เพราะหาผู้รับเหมายาก ต้นทุนแพง
 
ปัจจุบันความต้องการของดีเวลอปเปอร์ที่จะหาซื้อที่ดินส่วนใหญ่มีทิศทางไปในเรื่องของทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว มากกว่า ต่างจากเดิมที่หาที่ดินเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม 70-80%  พัฒนาบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 20-30% แต่วันนี้กลับมาพัฒนาทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว 60% กับ 40% หรือ 70% กับ 30% ที่ดินที่สามารถพัฒนาทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว สามารถถือรอได้เป็นปี พัฒนาเป็นเฟส ถ้าเปรียบเทียบกับที่ดินพัฒนาคอนโดมิเนียม เพราะราคาต่อตารางวากับต่อไร่ ต่างกันเป็น 100 เท่า ทำเลยอดนิยมที่ดีเวลอปเปอร์สนใจมี ราชพฤกษ์ เลียบทางด่วนรามอินทรา-ลาดพร้าว พระราม 2  บางนา
 
นายกิติศักดิ์กล่าวต่อไปถึงแผนธุรกิจเพื่อรองรับการชะลอตัวของภาคอสังหาฯว่า ขณะนี้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งให้บริการด้านที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็น ซื้อ ขาย เช่า บ้าน คอนโดมิเนียม หรือที่ดิน โดยสิ้นปีนี้ตั้งเป้าจะเปิดให้ได้ 50 สาขา และปีหน้าวางแผนจะมี 100 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รองรับจำนวนห้องชุดของโครงการต่างๆที่มีจำนวนมากทั่วกรุงเทพฯ และชานเมือง รวมทุกโครงการคาดว่ามีประมาณ 5-10%  ซึ่งคาดว่าเมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเปิดขึ้นก็จะมีความต้องการทั้งขายและเช่าที่อยู่อาศัยค่อนข้างมาก

 
 
 
นอกจากนี้บริษัท ยังจัดตั้งสถาบัน TSA (Thailand Sales Academy) ขึ้น เพื่อให้องค์ความรู้ และการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ เพื่อเอื้อต่อการทำธุรกิจ กับเอเยนต์ของเราในเครือข่าย และผู้ที่สนใจในธุรกิจนี้อีกด้วย โดยบริษัทมีความมุ่งหวังจะผลักดันให้ดีเวลอปเปอร์และผู้บริโภคเข้ามาซื้อขายบ้านผ่านแฟรนไชส์ของเซ็นจูรี่ 21

อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,151
PLAY Q by CST bright u..
1,319
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
943
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
792
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด