นางสาวสมจิตร ลิขิตสถาพร นายกสมาคมแฟรนไชส์ไทย กล่าวว่า จากกระแสความนิยมธุรกิจชานมไข่มุกในปัจจุบัน ทำให้มีธุรกิจแฟรนไชส์ชานมไข่มุกเกิดขึ้นจำนวนมากรวมกันนับร้อยราย มีทั้งผู้ประกอบการหน้าใหม่ และผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์อยู่แล้วได้แตกยอดทำแบรนด์ใหม่ หรือเสริมเมนูชานมไข่มุกเข้ากับธุรกิจเดิม
 

 

สำหรับสาเหตุความนิยมธุรกิจนี้น่าจะมาจากชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่ทันสมัย เข้ากับกระแสแฟชั่นคนรุ่นใหม่ มีความเป็นวาไรตีจากท็อปปิ้งที่มีให้เลือกหลากหลาย มีสีสันและความสนุกในการชง โดยกลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ในวัยทำงาน
 

 
 

นางสาวสมจิตรระบุว่า ก่อนหน้านี้ธุรกิจแฟรนไชส์ชานมไข่มุกเคยได้รับความนิยมอย่างสูงมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่กระแสตกไปอยู่ชั่วคราวก่อนจะกลับมาได้รับความนิยมอย่างสูงอีกครั้งในช่วง 1-2 ปีที่แล้ว ซึ่งเชื่อว่ากระแสความนิยมครั้งนี้จะต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3-5 ปี และหลังจากนั้นจะอยู่ในระดับเสมอตัว ไม่หวือหวา แต่ก็ไม่ถึงขั้นล้มหายตายจากไป คล้ายกับธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟในปัจจุบันที่สามารถรักษาความนิยมได้อยู่ตัวอย่างต่อเนื่อง
 

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ชานมไข่มุกนั้น สิ่งที่ควรจะพิจารณานอกจากเรื่องชื่อเสียงและประวัติความน่าเชื่อถือของแบรนด์แฟรนไชส์แล้ว ควรต้องให้ความสนใจในทำเลที่จะไปตั้งร้าน ควรจะเป็นทำเลที่ดีจริงๆ โดยเป็นจุดที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ย่านออฟฟิศ สถาบันการศึกษา เป็นต้น เนื่องจากธุรกิจประเภทนี้มีราคาขายต่อหน่วยไม่สูง ประมาณแก้วละ 25-40 บาท จำเป็นที่จะต้องขายให้ได้ปริมาณหน่วยมากๆ จึงจะประสบความสำเร็จ

 

นอกจากนั้น ก่อนที่จะลงทุนกับแฟรนไชส์รายใดนั้นควรจะไปปรึกษาแฟรนไชซีที่ลงทุนในธุรกิจที่เราสนใจไปก่อนแล้วว่าแฟรนไชซอร์ให้บริการดีตามที่ตกลงสัญญากันหรือไม่ รวมถึงธุรกิจประสบความสำเร็จจริงหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลจริงมากกว่าการถามจากตัวเจ้าของแฟรนไชส์

อ้างอิงจาก กับทีมงาน ผู้จัดการออนไลน์