5.8K
7 มิถุนายน 2556
มะลิ ฟื้นผลิตย้ำผู้นำนมข้นหวาน ขยายแฟรนไชส์รถเข็นเท่าตัว-แตกไลน์กาแฟสด



 
นมมะลิฟื้นกำลังผลิต เดินเครื่องเต็มกำลังปีนี้หลังสินค้าขาดแคลนจากน้ำท่วมโรงงานปีที่แล้ว ย้ำผู้นำนมข้นหวาน เดินหน้าโครงการรถเข็นมะลิ เพิ่มแฟรนไชส์เท่าตัวปีนี้ เล็งแตกไลน์ "กาแฟสด" อัพเกรดเจาะกลุ่มออฟฟิศระดับบน เสริมแกร่งระบบรับลูกค้าเพิ่ม
 
นายกน จารุเศรนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิสเตอร์มิลค์ จำกัด ผู้บริหารโครงการ "รถเข็นมะลิ สร้างอาชีพ" ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด เจ้าของแบรนด์มะลิ เปิดเผยว่า โครงการ "รถเข็นมะลิ สร้างอาชีพ" ที่ดำเนินการมา 2 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าซึ่งเป็นระบบแฟรนไชส์กว่า 700 ราย และบริษัทตั้งเป้าเป็น 2 เท่า หรือไม่ต่ำกว่า 1,500 รายในปีนี้ โดยจะเน้นขยายไปยังต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น โดยใช้โลจิสติกส์ร่วมกับบริษัทแม่ ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าผ่านระบบเอเย่นต์ที่มีในทุกจังหวัด 
 
สำหรับโครงการนี้ใช้เงินลงทุนครั้งแรกในราคา 27,000 บาท หลังจากนั้นบริษัทจะสอนวิธีการชงกาแฟ รวมถึงซัพพลายสินค้าและวัตถุดิบสำหรับการชงกาแฟให้ตลอดเวลา โดยจุดประสงค์ของโครงการนี้ไม่ใช่เรื่องของกำไรเป็นหลัก แต่เป็นวิธีที่ทำให้แบรนด์มะลิเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งที่เป็นนมข้นหวานด้วยกัน

ขณะเดียวกันก็เป็นอีกช่องทางในการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์มะลิ ปัจจุบันนมข้นหวานมะลิยังเป็นอันดับ 1 ในตลาด และปัจจุบันสามารถกลับมาเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่ และทำให้ไม่มีปัญหาสินค้าขาดแคลนแล้ว หลังจากประสบปัญหาสินค้าขาดตลาดเมื่อปีที่แล้วจากน้ำท่วมโรงงานที่เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2554


 
ในส่วนของการแข่งขันในตลาดนมข้นหวานปัจจุบันเหลือผู้เล่นในตลาดเพียง 2-3 ราย นอกจากนมมะลิแล้วก็มีนมตราหมี ซึ่งเป็นระดับพรีเมี่ยม ดังนั้น ปัจจุบันผู้เล่นส่วนใหญ่ในตลาดนี้จะเป็น "ครีมเทียมข้นหวาน" ซึ่งมีราคาถูกกว่านมข้นหวาน ข้อดีคือเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะร้านค้าต่าง ๆ ที่คำนึงเรื่องราคาเป็นหลัก ดังนั้น โครงการรถเข็นมะลินี้จึงเน้นตอบโจทย์ร้านค้า และตอกย้ำรสชาติของนมข้นหวานที่แตกต่างจากครีมเทียมข้นหวาน 
 
นายกนกล่าวว่า ปัจจุบันรถเข็นกาแฟในตลาดส่วนใหญ่เป็นแบรนด์กาแฟ อาทิ เนสกาแฟ, เขาช่อง ฯลฯ บริษัทจึงต้องการสร้างความแตกต่างในตลาดนมข้นหวาน และในปีนี้เตรียมที่จะต่อยอด โครงการนี้ด้วยการเปิดตัว "รถเข็นมะลิ กาแฟสด" ในรูปแบบแฟรนไชส์เช่นเดียวกัน เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคในระดับพรีเมี่ยม สร้างโอกาสในขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ด้วยราคาขายต่อแก้วที่สูงกว่าประมาณ 40-50 บาท 
 
"ตอนนี้กำลังหาโซลูชั่นที่เหมาะสมสำหรับโครงการกาแฟสดนี้ เพราะการลงทุนจะสูงกว่าแฟรนไชส์รถเข็นมะลิ สร้างอาชีพ เพราะกาแฟก็ต้องแพงกว่าเพราะใช้เมล็ดกาแฟคั่วบด รวมถึงเครื่องใช้กาแฟซึ่งไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท โดยจะพยายามให้ไม่เกิน 4 หมื่นบาท เพราะถ้ามากกว่านี้อาจไม่จูงใจให้คนเข้ามาลงทุนมากนัก" 
 
 
 
ส่วนการต่อยอดในอนาคต เป็นไปได้ว่าจะทำธุรกิจร้านกาแฟสดเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจจะผ่านแฟรนไชส์ หรือบริษัทลงทุนด้วยตัวเอง ปัจจุบันบริษัทยังไม่มีโรงงานผลิตกาแฟของตัวเอง แต่ใช้วิธีซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์แล้วนำมาผสมเอง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกน จารุเศรนี ถือเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของผู้ก่อตั้งบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด โดยเป็นลูกชายของพลเอกณรงค์ จารุเศรนี ประธานกรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ในปัจจุบัน

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
933
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
636
“เติมพลังความรู้” กับ ..
591
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
562
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
552
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
515
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด