|
|
|
|
22 มิถุนายน 2555 |
ทัมเอ็นทัมส์ ตั้งไทยคุมทัพอาเซียน ปูพรมร้านกาแฟพรีเมี่ยมเกาหลีเทียบสตาร์บัคส์
ทัม เอ็น ทัมส์ ร้านกาแฟพรีเมี่ยม สัญชาติเกาหลี เอาจริง หอบเงินกว่า 300 ล. ทุ่มเปิด 150 สาขา ใน 3 ปี ทั้งกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด มั่นใจสู้ "สตาร์บัคส์" ได้ ทำตลาดเกาะกระแสเค-ป๊อปในไทย หวังปั้นไทยเป็นฮับอาเซียน-เอเชีย-แปซิฟิก
นายวิวัฒน์ เด่นดีวณิช กรรมการ บริษัท ทัม เอ็น ทัมส์ โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะรุกทำตลาดอย่างเต็มที่ หลังจากปัญหาแฟรนไชส์ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2552 สรุปลงตัว หลังจากบริษัทแม่ที่เกาหลีเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการสาขาทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทยด้วยตัวเอง ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
ทำให้ปัจจุบัน มีสาขาทัม เอ็น ทัมส์ (Tom n Toms) 3 สาขา เป็นการบริหารผ่านแฟรนไชส์ 1 สาขา ที่เค-วิลเลจ ที่เหลืออีก 2 สาขา บริษัทลงทุนดัวยตัวเอง คือสยามเซ็นเตอร์ และที่พัฒน์พงศ์เป็นแฟลก ชิปสโตร์ เป็นโมเดลคล้ายสาขาที่เกาหลี เน้นบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองทุกกลุ่ม อาทิ ห้องประชุม, ที่นั่งโอเพ่นแอร์, เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ฯลฯ
ปีนี้มีเป้าหมายเปิดสาขาให้ครบ 15 สาขา และในปี 2558 มีแผนเปิดสาขาให้ได้ถึง 150 สาขา เพื่อปั้นไทยให้เป็นฮับของตลาดอาเซียน และเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีการเตรียมงบประมาณในการเปิดสาขาปีนี้ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 30 ล้านบาท ส่วนระยะยาวเตรียมงบฯลงทุนไว้ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยคีย์หลักจะเน้นที่โลเกชั่น ที่เปิดกว้างในศูนย์การค้า, คอมมิวนิตี้มอลล์ และสแตนด์อะโลน ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งวันนี้มองว่าพฤติกรรมคนต่างจังหวัดก็หันมานิยมกาแฟคั่วบดระดับพรีเมี่ยม มากขึ้น
นายวิวัฒน์กล่าวว่า ปีนี้สาขาที่เปิด อาทิ ดิจิตัล เกตเวย์ เอกมัย, เดอะพาลาเดี่ยม ปทุมวัน, โคโลเนตมอลล์ หัวหิน, โพรมีนาดา และสตาร์แอฟเวอร์นิว ที่เชียงใหม่ พัทยา และฉะเชิงเทรา เป็นต้น ทั้งนี้ นอกจากธุรกิจร้านกาแฟแล้ว ยังมีนโยบายต่อยอดธุรกิจด้วยการขยายการลงทุนในไร่กาแฟ และก่อตั้งโรงเรียนสอนบา ริสต้า
หลังจากเปิดสาขาได้ครบ 15 สาขา เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสรุปรูปแบบว่าจะเป็นคอนแท็กต์ฟาร์มมิ่งกับเกษตรผู้ปลูก กาแฟในไทย หรือเป็นเจ้าของฟาร์มเอง นอกจากนี้ ยังใช้ไทยเป็นฐานในการปลูกสตรอว์เบอร์รี่ โดยนำพันธุ์เข้ามาจากเกาหลี เพื่อเป็นวัตถุดิบในการทำเครื่องดื่มสมูทตี้
"อนาคต เราจะทำคอนแท็กต์ฟาร์มมิ่ง รวมถึงตั้งโรงงานทำน้ำผลไม้เข้มข้น และโรงคั่วกาแฟ ซึ่งโครงการทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายใน 3 ปีข้างหน้า" นายวิวัฒน์กล่าวและว่า
สำหรับการแข่งขันในตลาดร้านกาแฟคั่วบดระดับ พรีเมี่ยม ยังมองว่ามีช่องว่างและโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยร้านทัม เอ็น ทัมส์ วางตำแหน่งเดียวกับ "สตาร์บัคส์" ในราคาใกล้เคียงกัน อยู่ที่ 80-145 บาท แต่จุดต่างสำคัญ คือเมนูอื่น ๆ ที่ไม่ใช่กาแฟ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทัม เอ็น ทัมส์ อาทิ เพรทเซล, แซนด์วิช, ขนมปังอบ ฯลฯ การทำตลาดในไทยยังคงใช้กระแส "เค-ป๊อป" ในการดึงดูดผู้บริโภค รวมถึงการจัดโปรโมชั่นต่อเนื่อง ทั้งนี้ มั่นใจว่าสามารถสู้กับสตาร์บัคส์ได้
ปัจจุบันมีสาขาที่เกาหลี 350 สาขา ใกล้เคียงกับสตาร์บัคส์ เช่นเดียวกับความนิยมของผู้บริโภค แม้จะเปิดหลังสตาร์บัคส์ 1 ปีก็ตาม ทั้งนี้ นอกจากในเกาหลีและไทย ทัม เอ็น ทัมส์ ยังมีเปิดสาขาที่สหรัฐอเมริกา 9 สาขา สิงคโปร์และออสเตรเลีย อย่างละ 1 สาขา แผนการขยายตัวจากนี้ มองไปที่อินโดจีน และขยับไปที่อาเซียน ซึ่งจะใช้ไทยเป็นฐานในการทำตลาดและบริหารจัดการ
"อนาคตสาขาในไทยจะ เน้นเปิดแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนแฟรนไชส์ 80% เป็นไปตามโมเดลที่เกาหลี ซึ่งจะช่วยในการขยายตัวอย่างรวดเร็ว" นายวิวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
