|
|
|
|
31 พฤษภาคม 2555 |
อินเด็กซ์ฯซูคอนเซ็ปต์มู้ดแอนด์โทน
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ประกาศทุ่มงบ 1,000 ล้าน ขยายสาขาปีละ 1-2 แห่ง พร้อมเปิดแนวรบใหม่สู่ธุรกิจคอมมิวนิตี มอลล์ในชื่อ"เดอะวอล์ค" เผยธุรกิจศูนย์เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้านแข่งขันรุนแรงแต่ไม่กระทบยอดขาย ปีนี้ตั้งเป้า 8,600 ล้าน
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่ากลยุทธ์รุกตลาดของบริษัทในปีนี้มุ่งไปที่ธุรกิจคอมมิวนิตี มอลล์ภายใต้ชื่อ"เดอะวอล์ค" ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี โดยโครงการเดอะวอล์คสาขาแรกอยู่ที่ถนนราชพฤกษ์ สำหรับเป้าหมายการเปิดจะเปิดปีละ 1-2 โครงการ และจะมีศูนย์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เป็นแม็กเนตหนึ่งของโครงการ
ปัจจุบันอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีทั้งสิ้น 18 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 9 สาขา และต่างจังหวัด 9 สาขา โดยส่วนใหญ่จะเป็นศูนย์เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้านขนาดกลางคือ พื้นที่ประมาณ 10,000-12,000 ตารางเมตร ส่วนศูนย์ขนาดใหญ่มีสาขาบางนา และฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขนาดพื้นที่ 15,000-20,000 ตารางเมตร และขนาดเล็ก พื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตชุมชนหรือเขตธุรกิจที่มีปัญหาเรื่องการซื้อพื้นที่ และเร็วๆนี้เปิดสาขาใหม่ เกษตรฯ-นวมินทร์ ตั้งอยู่หัวมุมถนนตัดกับรามอินทรา
"บริษัทมีนโยบายขยายสาขาอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์เพิ่มทุกปีปีละ 1-2 สาขา ไม่จำกัดในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ขึ้นกับแผนรุกตลาดของบริษัท โดยแต่ละสาขาใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท สำหรับในกรุงเทพฯยังเปิดได้อีก 4-5 สาขา นอกเหนือจากนั้นคงต้องขยายไปในต่างจังหวัด ปัจจุบันสาขาที่มียอดขายสูงที่สุดคือสาขาบางนา"
นอกจากนี้ยังมีการขยายเครือข่ายในรูปของแฟรนไชส์ ยังมีการขยายอย่างต่อเนื่อง โดยพยายามจะบุกไปเปิดตลาดในประเทศใหม่ๆ ทั้งติดต่อหาคู่ค้าในประเทศเป้าหมายที่มองว่ามีศักยภาพจะเปิดอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ได้ และอีกส่วนจะเป็นลูกค้าที่สนใจอยากจะเปิดเพราะเคยสัมผัสร้านอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในต่างประเทศ ซึ่งเร็วๆนี้จะเปิดที่เนปาล นอกจากนี้มีการเซ็นสัญญากับอีกรายแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ คาดว่าจะเปิดในปีหน้า โดยสรุปปัจจุบันอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ในต่างประเทศมีดูไบ ไซปรัสเหนือ และเวียดนาม สำหรับสาขาของแฟรนไชส์มี 3 ขนาดเหมือนในไทยโดยกำหนดพื้นที่ขั้นต่ำ 5,000 ตารางเมตร แต่บางประเทศอาจจะมีปัญหาพื้นที่มีราคาแพงทำให้ต้องเปิดร้านขนาดเล็ก
นางกฤษชนกกล่าวถึงจุดเด่นของอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ว่า เป็นศูนย์รวมสินค้าเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร สินค้ามีความหลากหลาย ครบทุกสไตล์ ที่สำคัญสินค้าคุณภาพดีราคาที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ ประกอบกับคอนเซ็ปต์การตกแต่งภายในศูนย์ ที่มีมู้ดแอนด์โทน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟรนไชซี จึงติดต่อซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดในประเทศของเขาโดยเชื่อมั่นว่าด้วยคอนเซ็ปต์ของอินเด็กซ์จะไม่มีคู่แข่งในตลาด
สำหรับยอดขายปีนี้ตั้งเป้า 8,600 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าโครงการประมาณ 10% ที่เหลือจะเป็นลูกค้าทั่วไป โดยสัดส่วนลูกค้าโครงการคงที่ต่อเนื่องมา 3 ปี เนื่องจากกำลังการผลิตค่อนข้างจำกัด ในปีนี้จะลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเพื่อรองรับงานไม้ งานปาร์ติเคิลบอร์ด ซึ่งความต้องการในตลาดสูง ขณะเดียวกันก็ลดเครื่องจักรงานเหล็ก โดยเฉพาะในส่วนของโต๊ะ และ เก้าอี้เหล็ก ลงทุนส่วนนี้ประมาณ 100 ล้านบาท ปัจจุบันอินเด็กซ์มีโรงงาน 3 แห่ง ได้แก่ เอกชัย มหาชัย และระยอง
"ขณะนี้การแข่งขันของธุรกิจศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านแม้จะมีรายใหญ่เพียง 4 ราย แต่การแข่งขันรุนแรงมาก ถึงแม้แต่ละรายจะมีแนวทางการทำธุรกิจไม่ทับซ้อนกันรวมถึงการที่มีบริษัทต่างชาติเข้ามาเปิด อย่างไรก็ตามทำให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น" นางสาวกฤษชนกกล่าวและเสริมอีกว่า"จริงๆแล้วธุรกิจเฟอร์นิเจอร์มีการจัดรายการส่งเสริมการขายแข่งขันกันตลอดเวลา แต่สงครามราคาไม่รุนแรงกว่าที่ผ่านมา เพราะมีวิธีการและลูกเล่นให้เลือกใช้"
สำหรับอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาบางนา ยอดขายไม่กระทบแม้จะมีศูนย์เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ต่างชาติอย่างอิเกียมาเปิดในย่านเดียวกันก็ตาม แถมยอดขายเฉพาะสาขานี้กลับเพิ่มสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หมายความว่ากลุ่มลูกค้าคนละกลุ่ม นอกจากนี้มองว่าการเข้ามาของต่างชาติรายนี้ทำให้ตลาดขยายตัวขึ้นด้วยการกระตุ้นให้คนไทยหันมาสนใจตกแต่งบ้านมากขึ้น
อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|
