6.4K
16 เมษายน 2555
พีดีเฮ้าส์ ฟุ้ง เดินสายทัวร์เปิดสาขาแฟรนไชส์ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์


   
“พีดีเฮ้าส์” ฟุ้ง เดินสายทัวร์เปิดสาขา “ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์” กทม.และเชียงรายอีก 2 แห่ง พร้อมตัวสาขาแบรนด์น้องใหม่ “เอคิวโฮม” ในไตรมาสที่ 2 รวดเดียว 2สาขา เผยไตรมาสแรกยอดขายสาขาต่างจังหวัด ส่งสัญญาณฟื้นตัวช่วงท้ายไตรมาสชัดเจน ขณะที่ยอดขายกทม. และปริมณฑลพลาดเป้า ส่งผลยอดขายรวมจาก 26 สาขาทั่วประเทศทำได้แค่ 267 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 11% คาดตลาดกทม.-ปริมณฑลยังซึมต่อ ย้ำปัญหาแรงงานเป็นอุปสรรคสำคัญ อุตสาหกรรมก่อสร้าง หากส่งมอบงานช้าอาจกระทบรายได้ปี 55 นี้


นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้าน “พีดีเฮ้าส์” และ “เอคิวโฮม” เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 2 นี้ บริษัทมีแผนการขยายสาขาแฟรนไชส์พีดีเฮ้าส์ เพิ่มอีก 2 แห่งได้แก่ สาขาถนนพระราม 2 และสาขาจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้า และขยายพื้นที่ให้บริการสร้างบ้านให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น

รวมทั้งเตรียมเปิดศูนย์รับสร้างบ้านเอคิวโฮม พร้อมๆ กันอีก 2 สาขาคือ สาขานครปฐม และนครราชสีมา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท คาดว่าการขยายสาขาจะช่วยเพิ่มยอดขายให้เติบโต ตามแผนการตลาดที่บริษัทฯ วางไว้ปี 2555 นี้
      
ทั้งนี้ ตลาดรับสร้างบ้าน และยอดขายของกลุ่มบริษัทฯ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลช่วงไตรมาสแรก พบว่า ความต้องการสร้างบ้าน และกำลังซื้อยังซึมต่อเนื่องจากช่วงน้ำท่วมใหญ่ ทำให้ยอดขายในช่วง 3 เดือนแรกต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ ขณะที่กำลังซื้อจากสาขาในต่างจังหวัดกลับฟื้นตัวชัดเจน ส่งผลให้สาขาในพื้นที่ภาคอีสานได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี สุรินทร์ สกลนคร และสาขาในภาคเหนือ เช่น นครสวรรค์ พิษณุโลก ต่างมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นทุกแห่ง



โดยปัจจัยสำคัญๆ ที่ผู้บริโภคเลือกใช้บริการกับพีดีเฮ้าส์ เป็นเพราะ 1.ภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ และ 2.ความต้องการสร้างบ้านอนุรักษ์พลังงานหรือบ้านที่ก่อสร้างด้วยวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
      
โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัท ตั้งเป้ายอดขายไว้ 300 ล้านบาท ในขณะทุกสาขาของ พีดีเฮ้าส์ ทั่วประเทศสามารถทำยอดขายรวมได้เพียง 267 ล้านบาท หรือต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 11% แต่เมื่อพิจารณาจากตลาดรวมรับสร้างบ้านที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวก็ถือว่ายอมรับได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ ประเมินว่าความเชื่อมั่น และกำลังซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าไตรมาสแรก เพราะความกังวลเรื่องปัญหาน้ำท่วมคลายลงมากแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำยอดขายเพิ่มได้อีก


      
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมใช้งบการตลาดจำนวน 5 ล้านบาท ผ่านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และกิจกรรมต่างๆ เช่น โฆษณาหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ป้ายบิลบอร์ด เว็บไซต์ เคเบิลทีวี และร่วมออกบูทในงาน Build Tech’ 12 ระหว่างวันที่ 5-8 เมษายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมไบเทคบางนา โดยไตรมาส 2 นี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 340-360 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนประมาณ 30% จากเป้ายอดขายตลอดทั้งปีตั้งไว้ 1,400 ล้านบาท
      
นายพิศาล กล่าวว่า สำหรับปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้คือ ปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทรับสร้างบ้านทั้งรายเล็ก รายใหญ่ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต่างเผชิญกับปัญหาดังกล่าวเหมือนๆ กัน

ในส่วนของบริษัทฯ เองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ยังสามารถแก้ไขสถานการณ์เอาไว้ได้ในระดับหนึ่ง โดยนำระบบเสาคานสำเร็จรูปที่เรียกว่า Multi-Joint Lock System ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีแรงงานจำนวนมาก มาใช้แทนวิธีก่อสร้างบ้านแบบเดิมๆ รวมทั้งปีนี้ลูกค้าของบริษัทฯ กว่าร้อยละ 70% สร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งยังสามารถหาแรงงานก่อสร้างฝีมือเข้ามาร่วมงานได้เพียงพอกับปริมาณงานสร้างบ้านที่มีอยู่ในปัจจุบัน

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
alls BUBBLE TEA แฟรนไช..
1,116
ยู้ฮู หวานเย็นเปิดสาขา..
1,002
รสเด็ดก๋วยเตี๋ยวกระทุ่..
909
สัมมนาลงทุน แฟรนไชส์คุ..
748
ยินดีต้อนรับ “ครอบครัว..
672
DOCTOR COSMETICS ACADE..
598
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด