17K
9 เมษายน 2555
เอสแอนด์พี โต2เท่าใน5ปี ลุยเพิ่มแบรนด์-โมเดลใหม่



เอสแอนด์พีปรับแผนเชิงรุก ตั้งเป้าเพิ่มแบรนด์ใหม่ปีละ 1 แบรนด์ ขยายพอร์ตโฟลิโอรุกกลุ่มลูกค้าใหม่ หวังร้านอาหารแบรนด์อื่นเพิ่มเป็น 50% อีก 5 ปีข้างหน้า ปัจจุบันอยู่แค่ 5% พร้อมดับเบิลธุรกิจ 2 เท่าใน 5 ปี ทะลุ 12,000 ล. เดินหน้าปรับโลโก้ ดีไซน์ อิมเมจร้าน ชูความทันสมัย พร้อมทุ่มอีก 400 ล.ขยายกำลังผลิตรองรับการเติบโตอีก 5 ปี

นายวิทูร ศิลาอ่อน รองผู้จัดการใหญ่สายพัฒนาธุรกิจและการตลาดร้านอาหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปีนี้บริษัทจะดำเนินธุรกิจเชิงรุกเพื่อสร้างการเติบโต โดยเฉพาะการเพิ่มแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่และสร้างความหลากหลายให้กับบริษัท จากปัจจุบันสัดส่วนยอดขาย 95% มาจากแบรนด์เอสแอนด์พี อีก 5% เป็นแบรนด์อื่น ๆ อาทิ บลูคัพ, วานิลลา, พาทิโอ เป็นต้น แต่ตั้งเป้าว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้ของแบรนด์อื่น ๆ จะเพิ่มเป็น 50% ขณะที่รายได้จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว คิดเป็นไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท จากสิ้นปีนี้ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 6,000 ล้านบาท โดยจะมีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% เฉพาะปีนี้เติบโตเป็นพิเศษที่ 17%


เพื่อไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มแบรนด์ปีละ 1 แบรนด์ จากปีที่แล้วมีการเปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โตเกียว ที่เน้นอาหารจานเดี่ยวภายใต้แบรนด์ "โตเกียว โชคุโด" ซึ่งพัฒนาขึ้นเอง และปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคมปีนี้

นอกจากนี้ตั้งแต่ปีก่อนก็ได้ทดลองแยกเปิด ร้านกาแฟ "บลูคัพ" ซึ่งเดิมเป็นคอร์เนอร์อยู่ในร้านเอสแอนด์พี ออกมาเป็นร้านกาแฟต่างหากที่อาคารเอสซีบีปาร์ค ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตสูง และเป็นการขยายฐานของเอสแอนด์พีไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่, คนเริ่มทำงาน จากเดิมกลุ่มลูกค้าหลักของเอสแอนด์พีคือกลุ่มครอบครัว

นายวิทูรกล่าวว่า แนวทางการขยายแบรนด์จะเปิดกว้างกับอาหารทุกประเภท ทั้งไทย ญี่ปุ่น หรือแนวตะวันตก โดยปีนี้คาดว่าจะมีการเปิดร้านสำหรับแบรนด์ที่ไม่ใช่เอสแอนด์พี อยู่ที่ประมาณ 3-5 สาขา เพื่อทดลองตลาด จากปัจจุบันมีสาขารวม 11 สาขา ขณะที่แบรนด์


เอสแอนด์พีมีทั้งสิ้น 382 สาขา แบ่งเป็นร้านอาหาร 98 สาขา และเบเกอรี่ช็อป 284 สาขา โดยปีนี้มีแผนเปิดอีกกว่า 30 สาขา แบ่งเป็นร้านอาหาร 7 สาขา

ที่เหลือเป็นเบเกอรี่ช็อป ซึ่งจะโฟกัสไปที่ต่างจังหวัดโดยมีแผนเปิดถึง 20 สาขา ตามจำนวนของห้างและศูนย์การค้าที่เพิ่มขึ้น และเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น โดยปีนี้ใช้งบฯลงทุนสำหรับเปิดสาขาใหม่และรีโนเวตสาขาเดิม 200 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้ารีโนเวต 50 สาขา เพื่อปรับร้านให้เป็นรูปแบบเดียวกันที่มีความทันสมัย

รวมถึงเปลี่ยนป้ายโลโก้ใหม่ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งจะทำให้แบรนด์อิมเมจของเอสแอนด์พีปีนี้ชัดเจนขึ้น โดยปีนี้มีแผนใช้งบฯตลาด 200 ล้านบาท เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคในเชิงรุกมากขึ้น


ตั้งแต่ต้นปีบริษัทยังได้ทดลองโมเดลธุรกิจใหม่ ได้แก่ รถโมบาย หรือร้านเอสแอนด์พีเคลื่อนที่ เพื่อเข้าถึงลูกค้า
โดยเป็นรถที่ขับไปจอดขายสินค้าของเอสแอนด์พีตามสถานที่ต่าง ๆ โดยปีนี้คาดว่าจะมีทั้งสิ้น 4-5 คัน ถือเป็นการปรับตัวที่ชัดเจนอย่างหนึ่งของบริษัท เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต บริษัทยังได้ทุ่มงบฯ 400 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิตทั้ง 3 โรงงาน ได้แก่ สุขุมวิท 62, บางนา กม.23 และลาดกระบัง ในแง่ของเครื่องจักรใหม่ ๆ ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี

การปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนค่าแรงทั้งระบบปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ซึ่งบริษัทยังสามารถบริหารจัดการได้
ในส่วนของวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนด้านอื่น ๆ จากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับขึ้น บริษัทได้บริหารจัดการเพื่อลดต้นทุน อาทิ ทำสัญญาวัตถุดิบระยะยาว, การสต๊อกสินค้าไว้ล่วงหน้า


อย่างไรก็ตามยอมรับว่าต้องมีการปรับขึ้นราคาสินค้าจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ต้องดูสถานการณ์และคู่แข่ง โดยมีแผนจะปรับขึ้นสินค้าบางรายการเฉลี่ย 4% อาทิ กลุ่มเบเกอรี่ได้ปรับขึ้นแล้วในเดือนนี้ ส่วนกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มจะขึ้นในช่วงไตรมาส 3

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
1,190
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
799
“เติมพลังความรู้” กับ ..
633
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
612
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
606
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
548
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด