739
17 มกราคม 2567
ส่อง 5 Digital Trends มาแรงปีมังกร! สำหรับทำธุรกิจยุคใหม่
 

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิด 5 Digital Trends ที่มาแรง แนะผู้ประกอบการใช้เป็น "ตัวช่วย" สำหรับการทำธุรกิจยุคใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างโอกาสเข้าถึงลูกค้าทั่วทุกมุมโลก
 
ฝ่ายวิจัย EXIM BANK ระบุว่า เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ โดย World Bank และ Digital Cooperation Organization ประเมินว่า ปัจจุบัน Digital Economy มีสัดส่วนราว 15% ของ GDP โลก และคาดว่าจะแตะ 30% ในปี 2573 โดยเทคโนโลยีดิจิทัลถูกนำไปต่อยอดหรือประยุกต์ใช้ในหลายวงการ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ นับตั้งแต่การผลิตไปจนถึงส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้า รวมถึงบริการหลังการขายอีกด้วย
 
ภายใต้ความสำคัญดังกล่าว 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล ที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2567 ประกอบด้วย
 
1. Social Commerce ช่องทางการค้าใหม่มาแรง
 
ปัจจุบัน การค้าออนไลน์ก้าวขึ้นมาเป็นช่องทางการค้าสำคัญที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดย Oberlo ผู้ให้บริการ E-Commerce ชั้นนำของโลกประเมินว่า ในปี 2568 จำนวนนักชอปปิ้งออนไลน์ทั่วโลก จะเพิ่มเป็น 2.8 พันล้านคนหรือราว 1 ใน 3 ของประชากรโลก การค้าออนไลน์ผ่าน Social Media Platform เช่น Facebook, Instagram, WeChat และ TikTok เติบโตก้าวกระโดด เนื่องจากจุดแข็งที่ไม่เพียงมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ทำให้การต่อยอดสู่การขายสินค้าทำได้ง่าย

และเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ จากทั่วทุกมุมโลกแล้ว ยังมี Function ให้ผู้ขายสามารถใช้ทำการตลาดได้หลากหลาย เช่น การไลฟ์สดขายของ การโพสต์สินค้าใน Fanpage หรือ Marketplace เฉพาะกลุ่มสินค้า โดย Strategic Market Research คาดว่า รายได้ของ Social Commerce โลกจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 6.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 จาก 0.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 หรือขยายตัวเฉลี่ยปีละ 30.8%
 
2. Generative AI ตัวช่วยสำหรับธุรกิจยุคใหม่
 
Gen AI จะเน้นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ แตกต่างจาก AI แบบเดิม ที่เน้นการวิเคราะห์และคาดการณ์เป็นหลัก โดยภาคธุรกิจนิยมนำ Gen AI มาใช้ในหลายด้าน ทั้งการสร้าง Content ใหม่ ๆ การสร้างแคมเปญการตลาดให้โดนใจลูกค้า ตลอดจนการให้คำปรึกษา/แนะนำลูกค้า
 
Bloomberg คาดว่า รายได้จากการใช้งาน Gen AI ทั่วโลกจะขยายตัวก้าวกระโดดแตะระดับ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2575 หรือโตเฉลี่ยถึงปีละ 226% Gen AI ที่นิยม เช่น ChatGPT ช่วยสร้างงาน/คอนเทนต์ใหม่ ๆ รวมถึงช่วยคิดสโลแกนสินค้า หรือแคปชันโฆษณาได้ Midjourney ช่วยออกแบบโลโก้ของแบรนด์ง่าย ๆ เพียงใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการ
 
3. Augmented Reality (AR) เทคโนโลยีจำลองภาพเสมือนจริง
 
AR ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นวัตถุในรูปแบบ 3 มิติในพื้นที่จริง ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และถูกนำไปใช้ในภาคธุรกิจอย่างกว้างขวาง โดย ARtillery Intelligence บริษัทที่ปรึกษาด้าน AR ของสหรัฐฯ คาดว่ารายได้ของ AR โลกในปี 2567 จะแตะระดับ 21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือโตถึง 5.4 เท่าจาก 5 ปีก่อน
 
ปัจจุบันหลายบริษัทใช้ AR เป็นตัวช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เช่น IKEA ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ของสวีเดนใช้ AR ช่วยลูกค้าจำลองการวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้เสมือนจริง, Rayban ผู้ผลิตแว่นตาของสหรัฐฯ ใช้ AR ให้ลูกค้าทดลองเลือกแว่นที่เข้ากับใบหน้า
 
4. Big Data การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ขับเคลื่อนธุรกิจ
 
ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่ ภาคธุรกิจนำ Big Data มาวิเคราะห์เพื่อยกระดับองค์กรในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความเสี่ยง การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และการพัฒนากลยุทธ์การตลาด โดย International Data Corporation บริษัทที่ปรึกษาของสหรัฐฯ ประเมินว่า ในช่วงปี 2553-2568 ปริมาณข้อมูลในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 25%
 
ตัวอย่างของบริษัทที่นำ Big Data มาช่วยเพิ่มรายได้แก่บริษัท เช่น Amazon ผู้ให้บริการ E-Commerce ระดับโลกใช้ Big Data วิเคราะห์เพื่อแนะนำสินค้าให้ตรงกับความต้องการลูกค้ามากที่สุด ช่วยให้รายได้ของบริษัทฯ ในปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 35% Netflix ผู้ให้บริการ Streaming ของสหรัฐฯ นำ Big Data โดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรายการ/ซีรีส์ที่ดูบ่อย ความถี่และระยะเวลาที่รับชม มาวิเคราะห์และนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจลูกค้าให้มากที่สุด
 
5. Voice Assistant สุดยอดผู้ช่วยด้านเสียง
 
อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญยุคใหม่ เป็นการพัฒนา AI ให้สามารถสั่งการด้วยเสียง เพื่อนำมาใช้ในด้านต่าง ๆ ทั้งการค้นหาข้อมูล (Voice Search) รวมถึงเป็นตัวช่วยสั่งซื้อสินค้า เช่น 7-Eleven ในสหรัฐฯ ใช้งานระบบ Voice Assistant "7 Voice" สำหรับให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าและจัดส่งถึงบ้านด้วยเสียง ข้อดี คือ ลูกค้าซื้อสินค้าได้ง่าย รวมถึงระบบยังจดจำเสียงพร้อมที่อยู่ เพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า ทำให้อยากกลับมาซื้อซ้ำ
 
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า ตลาด Voice Assistant Shopping จะเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งคาดว่าในช่วงปี 2564-2569 จะโตเฉลี่ยปีละ 50.5% ตลาดสำคัญ ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย สำหรับ Voice Assistant ที่นิยม เช่น SIRI (Apple), Google Assistant และ Amazon Alexa
 
ภายใต้บริบทการค้าการลงทุนระหว่างประเทศยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยยกระดับธุรกิจให้ดีขึ้นในหลายด้าน EXIM BANK ตระหนักดีถึงประโยชน์ดังกล่าว จึงพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการให้ก้าวทันเทคโนโลยี และสามารถนำมาประยุกต์ในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ ทั้งการส่งออก และการลงทุนในต่างประเทศ
 
โดยเทคโนโลยีดิจิทัล จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยผู้ประกอบการให้เข้าถึงลูกค้าในทุกตลาด ทั่วทุกมุมโลกได้ง่ายและเร็วขึ้น (Easy) ช่วยบริหารธุรกิจ และจัดการต้นทุนโครงการลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (Efficient) และช่วยสร้างความโดดเด่น แตกต่าง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งบนเวทีโลก (Excellent)
 
ทั้งนี้ EXIM BANK พร้อมมุ่งมั่นพัฒนา และส่งเสริมธุรกิจไทยให้แข็งแรง และมีศักยภาพสูงขึ้น เพื่อเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน


ที่มา : www.ryt9.com
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,704
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,487
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,466
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
1,157
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
902
ธงไชยผัดไทย เปิดโครงกา..
861
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด