5.4K
4 กันยายน 2554
“บอดี้เชพ”ลดเสี่ยงศูนย์ลดอ้วนลุยดิสทริบิวเตอร์ทุ่ม100ล.ตั้งรง.


   

“บอดี้เชพ” ปรับยุทธศาสตร์รอบ 18 ปี ขยายฐานธุรกิจสู่ดิสทริบิวเตอร์ ลดเสี่ยงบริการศูนย์ความงามอย่างเดียว พร้อมขยายฐานกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้น เล็งลงทุนตั้งโรงงานทุ่มงบขั้นต่ำ 100 ล้านบาท
      
นายภูพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับยุทธศาสตร์การดำเนินงาน ใหม่ในรอบ 18 ปี ซึ่งได้เริ่มทยอยทำมาแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่จากนี้จะมีความ ชัดเจนมากขึ้น ด้วยการขยายธุรกิจจากเดิมที่เป็นธุรกิจบริการศูนย์ความงามบอดี้เชพและคริสตี้ฟรองซ์ สู่ธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าด้านความงามและสุขภาพ
      
ซึ่งถือเป็นการลดความเสี่ยงทางธุรกิจด้วย ตั้งเป้าหมาย 3 ปีจากนี้สัดส่วนรายได้จากด้านบริการศูนย์ความงาม 65% และการจัดจำหน่ายสินค้า 35% จากปัจจุบัน ด้านบริการอยู่ที่ 80% และจำหน่ายสินค้า 20% รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าเป้าหมายของบอดี้เชพไปสู่กลุ่มวัยรุ่นและคนเริ่มต้นทำงานอายุ 20 ปีขึ้นไป จากเดิมกลุ่มลูกค้าหลักของบอดี้เชพจะมีอายุ 28 ปีขึ้นไป โดยมีฐานสมาชิกมากกว่า 150,000 คน

      
โดยธุรกิจศูนย์ความางามนั้นมี 2 แบรนด์หลักคือ บอดี้เชพมี 32 สาขา ล่าสุดเปิดสาขาที่เดอะไนน์พระรามเก้า และรีโนเวทที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ส่วนปีหน้าจะเปิดที่เมกะบานา ยอมรับว่าปีนี้เปิดเพียงสาขาเดียว ส่วนแบรนด์คริสตี้ฟร็องซ์ มี 40 สาขา รวมแล้วทั้งกลุ่มแชร์ 35% จากตลาดรวม 3,000 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจนี้ก็ยังเติบโตดีต่อเนื่อง
      
ขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายมี 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มแบรนด์บอดี้เชพเองเช่น กาแฟ อาหารเสริม เป็นต้น รวมกว่า 11 รายการ 2.กลุ่มนำเข้าจากต่างประเทศมีแล้ว 3 แบรนด์คือ เรโนคินชุดดูแลเส้นผมจากเกาหลีเริ่มทำตลาดปีนี้ แบรดน์อัลพาย ซิล ชุดบำรุงผิวจากนิวซีแลนด์และแบรนด์อิริคสันแลบบอราทอรี่จากฝรั่งเศส ซึ่ง 2 แบรนด์หลังเริ้มจำหน่ายแล้วแต่จะเริ่มทำตลาดปีหน้า ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนสินค้าที่ผลิตเองในไทยด้วยการว่าจ้างโรงงานอื่นผลิตมีประมาณ 70% และเป็นสินค้านำเข้าประมาณ 30% แต่ในอนาคตจะปรับสัดส่วนเป็นสินค้าผลิตเองเหลือ 40% และนำเข้าเพิ่มเป็น 60%
      
นายภูพงษ์ กล่าวว่า แบรนด์เรโนคิน เป็นชุดดูแลเส้นผม นำเข้าจากเกาหลี วางงบตลาดไว้ที่ 60 ล้านบาท วางจำหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตค่ายเดอะมอลล์ เซ็นทรัล แมกซ์แวลู ราคาแชมพู ราคา 390 บาท คอนดิชั่นเนอร์ 450 บาท และโซลูชั่น 1,850 บาท ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 10,000 ขวดต่อเดือนหรือประมาณ 390 ล้านบาทในช่วงปีแรก หรือมีส่วนแบ่ง 3% โดยใช้วงซิงกูล่าร์เป็นพรีเซ้นเตอร์ สร้างความแตกต่างเพราะตลาดส่วนใหญ่ใช้ผู้หญิงเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่ของเราใช้ผู้ชาย และวงนี้มีแฟนเพจมากถึง 498,000 คน อีกด้วย


      
สำหรับตลาดรวมผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมปัจจุบันนี้มีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มความงาม 9,380 ล้านบาท หรือ 72% กลุ่มขจัดรังแค 2,970 ล้านบาท หรือ 23% กลุ่มเด็ก 650 ล้านบาท หรือ 5% หากแยกเป็นกลุ่มแชมพูประมาณ 9,400 ล้านบาทหรือ 72% กลุ่มครีมนวด 3,600 ล้านบาทหรือ 23% กลุ่มเด็ก 5%
      
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีช่องทางอื่นที่เป็นร้านค้าปลีกของตัวเอง ที่จำหน่ายสินค้าได้เช่น ร้านบอดี้เชพไลฟ์สไตล์ มี 10 สาขา ล่าสุดจะเปิดโฉมใหม่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว โดยส่วนใหญ่สาขาจะตั้งอยู่ในโมเดิร์นเทรดเช่น บิ๊กซี เทสโก้โลตัส, ร้านบอดี้เชฟคาเฟ่ มี 10 สาขา เป็นร้านกาแฟสดและขายแฟรนไชส์ด้วย
      
นายภูพงษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตสินค้าของตัวเองรองรับการเติบโตที่ปทุมธานี อยู่ระหว่างเจรจากับญี่ปุ่นที่มีเทคโนโลยีการผลิตและเครื่องจักรอยู่แล้วที่จะถ่ายทอดให้ โดยมีแผนจะผลิตสินค้าสุขภาพและความงามและขวดพลาสติก คาดสรุปได้เร็วๆนี้ ลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของบริษัทฯโดยรวมมีอัตราการเติบโตประมาณ 15% และมั่นใจว่าทั้งปีนี้จะมีการเติบโตรวมที่ 15% เช่นกัน


อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
960
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
659
“เติมพลังความรู้” กับ ..
594
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
564
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
557
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
519
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด