839
18 สิงหาคม 2565
พาณิชย์ จับมือ ธ.ก.ส. และ กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ จ.อุบลฯชวนวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ
 

กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ ธ.ก.ส. และกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ให้ความรู้พร้อมเชิญชวนเกษตรกรและสมาชิกวิสาหกิจชุมชนนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ เตรียมพัฒนาพื้นที่ให้เป็น ‘ชุมชนไม้มีค่า’ ต่อยอดสร้างรายได้ให้ชุมชน เพื่อสร้างความอยู่ดีกินดีให้ครอบครัว ชุมชน และท้องถิ่น
 
นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาไม้ยืนต้นหลักประกันทางธุรกิจ ณ ชุมชนบ้านบัวเทิง หมู่ที่ 4 ตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี วันพุธที่ 17 สิงหาคม 2565 ว่า “วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ชุมชนบ้านบัวเทิง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ความรู้พร้อมเชิญชวนสมาชิกวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่นำไม้ยืนต้นที่ปลูกบนที่ดินกรรมสิทธิ์มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ

ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวเป็นนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสินิตย์ เลิศไกร) ที่ต้องการผลักดันให้กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจสามารถช่วยแก้ปัญหาด้านการเงิน/แหล่งเงินทุนให้แก่เกษตรกร สมาชิกวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และไมโครเอสเอ็มอี โดยใช้ไม้ยืนต้นที่ปลูกบนที่ดินกรรมสิทธิ์มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
 
เป้าหมายสำคัญของการลงพื้นที่ คือ ทำอย่างไรให้เกษตรกรและสมาชิกวิสาหกิจชุมชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจให้ได้มากที่สุด พร้อมสร้างแรงจูงใจให้ประชาชน ‘ปลูกไม้มีค่า’ ตามนโยบายของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้สร้างมูลค่าเพิ่มจากที่ดินทำกิน พัฒนาชุมชนให้เป็น ‘ชุมชนไม้มีค่า’ เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแก่ครอบครัว และชุมชน ช่วยลดปัญหาความยากจน/ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และใช้ประโยชน์จากไม้ยืนต้นที่ปลูกอย่างเต็มที่ เชื่อว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะท้ายที่สุดผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์โดยตรงก็คือคนในชุมชนนั่นเอง
 
นอกจากนี้ ยังได้มีการให้ความรู้ด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ ภายใต้โครงการสัมมนา ‘ไม้ยืนต้น หลักประกันทางธุรกิจ’ ซึ่งมีเกษตรกรและสมาชิกวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 70 ราย รวมทั้ง เสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรในการทำปุ๋ยเกษตรอินทรีย์ เพื่อลดต้นทุนการผลิต เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประชาชน ทั้งนี้ พบว่า ผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ มีความตื่นตัวและต้องการทราบรายละเอียดการนำไม้ยืนต้นที่ปลูกบนที่ดินกรรมสิทธิ์มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจเพื่อขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งตรงตามเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่ในครั้งนี้
 
ปัจจุบัน มีทรัพย์สินหลายประเภทที่สามารถนำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ เช่น กิจการ สิทธิเรียกร้อง สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ (เช่น สินค้า คงคลัง และวัตถุดิบ) ฯลฯ และได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 กำหนดให้ ‘ไม้ยืนต้น’ เป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันได้ ส่งผลดีทั้งต่อสถาบันการเงิน ภาคธุรกิจ เกษตรกร และประชาชนที่ต้องการใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอสินเชื่อโดยมีกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน
 
ข้อมูล ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2565 มีการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้ว จำนวน 146,282 ต้น มูลค่ารวมทั้งสิ้น 137 ล้านบาท แบ่งเป็น ธ.กรุงไทย จำนวน 23,000 ต้น มูลค่า 128 ล้านบาท ธ.ก.ส. จำนวน 318 ต้น มูลค่า 3 ล้านบาท สถาบันการเงินรายย่อย (พิโกไฟแนนซ์) จำนวน 122,964 ต้น มูลค่า 6 ล้านบาท รองอธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย
 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0 2547 4944 e-Mail : Stro@dbd.go.th สายด่วน 1570 www.dbd.go.th


อ้างอิงจาก  MGRonline.com
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,651
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,469
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,432
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
1,124
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
889
ธงไชยผัดไทย เปิดโครงกา..
826
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด