636
5 กรกฎาคม 2565
กรมพัฒน์ฯ จับมือ Biz Club Thailand และ ม.มหิดล ลงนาม MOU ต่อยอดงานวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ส่งออก งาน MOC Market by Biz Club
 
 

นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ Biz Club Thailand และ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนาม MOU นำนวัตกรรมงานวิจัยมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มสมาชิกเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club เพื่อยกระดับความสามารถทางการแข่งขัน เกิดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ เพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างรายได้เข้าประเทศ พร้อมจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า MOC Market by Biz Club @สนามบินน้ำ วันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2565 ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ แสดงศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อย กว่า 70 ราย สินค้ารวมมากกว่า 200 รายการ คาด!!!สร้างรายได้ตลอดงานไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
 
นางรวีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2565) นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มอบหมายให้มาเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างคณะกรรมการบริหารเครือข่าย Biz Club Thailand และ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้านการนำนวัตกรรมงานวิจัยมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์สมาชิกเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันส่งสินค้าไปจำหน่ายตลาดต่างประเทศ เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า และสร้างรายได้เข้าประเทศ เบื้องต้นนำร่องผลิตภัณฑ์สมาชิกเครือข่ายฯ 5 รายการ

ได้แก่ กระเจี๊ยบกรอบ กุ้งก้ามกราม น้ำแกงส้มสำเร็จรูป กาแฟบัวบางแก้ว และ ข้าวเกรียบปากหม้อพร้อมไส้ มาทำการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เกิดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ สร้างความโดดเด่นและความแตกต่างให้สินค้าไทย โดยนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์ให้เกิดความยั่งยืนแก่ผลิตภัณฑ์นำไปสู่การส่งออกจำหน่ายในตลาดต่างประเทศนอกจากนี้ ได้เป็นประธานเปิดงาน MOC Market by Biz Club @สนามบินน้ำ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2565 ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี

โดยนำผู้ประกอบการเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club กว่า 70 ธุรกิจ ที่กระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุนส่งเสริม ร่วมออกงานแสดงและจำหน่ายสินค้ากว่า 200 รายการ ประกอบด้วย เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย อาหาร เครื่องดื่ม และผลไม้ ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก และเครื่องประดับ ฯลฯ รวมทั้ง ได้ประสานสถาบันการเงิน 3 แห่ง คือ ธ.ออมสิน SME D Bank และ บสย.ร่วมออกบูธ เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจอีกด้วย
 
ภายในงานยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการ MOC Biz Club ที่ออกงาน เพื่อสร้างโอกาสและเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ต่อยอดและขยายธุรกิจร่วมกัน โดยผู้ประกอบการสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และแผนการร่วมลงทุนกับนักลงทุน

ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ Biz Club Thailand และเครือข่ายพันธมิตร ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ MOC Biz Club และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ และต่อยอดขายโดยรวม

โดยเน้นให้ผู้ประกอบการขยายตลาดให้มีความหลากหลาย เปิดมุมมองและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ รวมทั้ง ทดลองตลาดตามสถานที่ต่างๆ นอกเหนือจากร้านค้าที่เปิดอยู่และการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงและเข้าใจความต้องการสินค้าและบริการของผู้บริโภคได้โดยตรง นำความต้องการนั้นมาพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการของตลาดมากที่สุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ ขณะที่ผู้บริโภคก็จะได้รับสินค้าและบริการที่ตรงตามความต้องการของตนเองจริงๆ
 
ขอเชิญชวนประชาชนร่วมซื้อสินค้าราคาพิเศษจากกลุ่มผู้ประกอบการ MOC Biz Club ที่มีให้เลือกสรรอย่างมากมาย รวมทั้ง นักธุรกิจที่ต้องการหาพันธมิตรทางการค้าเพื่อร่วมลงทุนและต่อยอดธุรกิจ โดยพบกันที่ งาน MOC Market by Biz Club @สนามบินน้ำ ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2565
ทั้งนี้ คาดว่าการจัดงานฯ ตลอดทั้ง 4 วัน จะสามารถสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท เป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประกอบการรายย่อยให้มีพลังในการพัฒนาสินค้าและสร้างความมั่นคงแข็งแกร่งแก่ธุรกิจต่อไป
 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธุรกิจภูมิภาคและชุมชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร : 0 2547 4445 สายด่วน 1570 และ e-Mail : dcrprov@dbd.go.th และ www.dbd.go.th
 
ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีผู้ประกอบการเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ทั่วประเทศ จำนวน 13,260 ราย แบ่งออกเป็น 12 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มอาหาร 4,141 ราย (ร้อยละ 31.23) กลุ่มผ้า/เครื่องแต่งกาย 2,298 ราย (ร้อยละ 17.33) กลุ่มบริการ 1,853 ราย (ร้อยละ 13.98) กลุ่มสุขภาพและความงาม 1,086 ราย (ร้อยละ 8.19) กลุ่มของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก 1,046 ราย (ร้อยละ 7.89)

กลุ่มเครื่องดื่ม 751 ราย (ร้อยละ 5.66) กลุ่มสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 642 ราย (ร้อยละ 4.84) กลุ่มการเกษตร 447 ราย (ร้อยละ 3.37) กลุ่มอุตสาหกรรม 406 ราย (ร้อยละ 3.06) กลุ่มท่องเที่ยว 348 ราย (ร้อยละ 2.62) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 213 ราย (ร้อยละ 1.61) และอื่นๆ 29 ราย (ร้อยละ 0.22)
 
แบ่งผู้ประกอบการออกเป็นรายภูมิภาค ได้ดังนี้ ภาคกลาง (18 จังหวัด) 3,995 ราย (ร้อยละ 30.13) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (20 จังหวัด) 3,568 ราย (ร้อยละ 26.91) ภาคเหนือ (17 จังหวัด) 3,025 ราย (ร้อยละ 22.81) ภาคใต้ (14 จังหวัด) 1,440 ราย (ร้อยละ 10.86) และภาคตะวันออก (8 จังหวัด) 1,232 ราย (ร้อยละ 9.29)แบ่งตามประเภทธุรกิจ ประกอบด้วย นิติบุคคล 2,124 ราย (ร้อยละ 16.02) ทะเบียนพาณิชย์ 1,736 ราย (ร้อยละ 13.09) และ บุคคลธรรมดา 9,400 ราย (ร้อยละ 70.89)
#PoweredByDBD


ที่มา : MGRonline.com
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
5,440
PLAY Q by CST bright u..
1,062
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
940
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
931
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
780
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
754
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด