899
23 มิถุนายน 2565
สวทช. ขยายงานวิจัยสู่โมเดลธุรกิจใหม่ “9 ดีปเทคสตาร์ทอัป”
 

สวทช. ขยายงานวิจัยสู่โมเดลธุรกิจใหม่ “9 ดีปเทคสตาร์ทอัป” พร้อมเปิดตัว 9 NSTDA Startup : Deep-tech Startup เพื่อขยายงานวิจัยสู่โมเดลธุรกิจใหม่ สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและยกระดับเศรษฐกิจด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม นอกจากนี้ยังมี กระจกตาชีวภาพ แบบใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอผู้บริจาคออกแบบให้เหมาะกับค่าสายตาคนไข้ เข็มขนาดไมโคร ในรูปแบบแผ่นแปะช่วยส่งสารสำคัญผ่านผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างจาก นาสท์ด้า สตาร์ตอัป NSTDA Startup เพื่อขยายงานวิจัยจากหิ้ง สู่โมเดลธุรกิจใหม่
 
 
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในด้านการวิจัยและพัฒนาที่สร้างคุณค่าและต่อยอดให้กับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) และให้ความสำคัญในการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ เสริมศักยภาพและยกระดับผู้ประกอบการนักลงทุน รวมถึงสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการขับเคลื่อนและต่อยอดผลงาน วทน. จากหิ้งสู่ห้างเพื่อเชื่อมโยงให้เอกชนเข้าถึงได้ง่าย

ทั้งนี้การวิจัยและพัฒนาที่รับโจทย์เพื่อทำวิจัยแล้วถ่ายทอดสิทธิ (Licensing) แบบเดิม อาจไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เนื่องจากเทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกลและส่งผลกระทบต่อหลายสาขาอาชีพมากขึ้น
 
ดังนั้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการส่งผ่านงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์ ในรูปแบบธุรกิจใหม่ สวทช. จึง ขยายงานวิจัยสู่โมเดลธุรกิจใหม่ ภายใต้กลไกการส่งเสริมและผลักดันผลงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์อีกรูปแบบหนึ่งของ สวทช. หรือที่เรียกว่า นาสท์ด้า สตาร์ตอัป NSTDA Startup ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา เพื่อผลักดันผลงานวิจัยนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ และยังช่วยตอกย้ำศักยภาพงานวิจัยสู่การตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรม

โดยการแถลงข่าวครั้งนี้มีสตาร์ตอัป ที่ได้รับการอนุมัติจาก สวทช. จำนวน 9 ผลงาน ซึ่งกลไกของ NSTDA Startup นี้จะช่วยตอบโจทย์การเร่งให้เกิดการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ของผลงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม(RDI) ให้เร็วยิ่งขึ้น โดยหลักคือจะมีกลุ่มนักวิจัยเข้าร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนและ/หรือ สวทช. ในการปั้นโมเดลธุรกิจ (Business Model) จากผลงานวิจัยของสวทช. เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเป็นแผนธุรกิจ (Business Plan) อย่างเป็นรูปธรรม แล้วก้าวไปสู่การร่วมจัดตั้งเป็นบริษัทสตาร์ตอัป
 
นอกจากนี้ NSTDA Startup มีนักวิจัยและบุคลากรวิจัยไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ได้ประยุกต์ใช้องค์ความรู้หลายศาสตร์ และพัฒนาตนเองสู่การเป็นผู้ประกอบสตาร์ตอัป ที่ต่อยอดธุรกิจจากงานวิจัยและพัฒนาจากองค์กรวิจัยระดับประเทศมากถึง 9 ราย ซึ่งพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกสู่สาธารณชนแล้ว โดยจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่างๆ หากมาร่วมผลักดันธุรกิจเทคโนโลยีกับ NSTDA Startup และถือเป็นการเปิดโลกการลงทุนใหม่ เพื่องานวิจัยจากแหล่งการลงทุนใหม่ของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศต่อไป

โดยในปัจจุบันจดทะเบียนบริษัทแล้วจำนวน 7 บริษัท และอยู่ระหว่างเตรียมจดทะเบียนอีก 2 ผลงาน (หนึ่งในนั้นจะจดทะเบียนในเร็วๆ นี้) สตาร์ตอัป ของ สวทช. เป็น Deep-tech Startup ที่ครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรม ประกอบด้วยสตาร์ตอัป ด้าน Biotechnology & BIO Service สตาร์ตอัป ด้าน Digital สตาร์ตอัป ด้าน Aging Society/Quality of Life และสตาร์ตอัปด้าน ความงามและอาหารเสริม เป็นต้น
 
สำหรับ 9 NSTDA Startup : Deep-tech Startup เพื่อขยายงานวิจัยสู่โมเดลธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย ด้านอุตสาหกรรม Biotechnology & BIO Service ได้แก่ บริษัท ไบโอเทค โกลเบิ้ล อินโนเวชั่น จำกัด ให้บริการแพลตฟอร์มด้าน Biotechnology และ Life Science ที่ครบวงจรรายแรกของประเทศที่ครอบคลุมครบถ้วนทั้งทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเครือข่ายธุรกิจ
 
ด้านอุตสาหกรรม Digital ได้แก่ บริษัท เอไอไนน์ จำกัด (AI9) เป็นแพลตฟอร์ม AI ของบริษัทไทยรายแรกที่ให้บริการการถอดเสียงการประชุมโดยใช้เทคโนโลยี AI บริษัท ดาร์วินเทค โซลูชันส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการจัดอาหารและดูแลสุขภาพในสถานศึกษาแบบครบวงจร บริษัท บิ๊กโก อนาไลติกส์ จำกัด ให้บริการแพลตฟอร์มเพื่อพัฒนาระบบจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data / Data Analytic) ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยต้นทุนที่ลดลง
 
ด้านอุตสาหกรรม Aging Society/Quality of Life ได้แก่ โครงการ รีไลฟ์ (อยู่ระหว่างเตรียมจดทะเบียนในนามบริษัท รีไลฟ์ จำกัด) ผลิตกระจกตาชีวภาพที่ไม่ต้องรอบริจาคจากผู้อื่น สามารถใช้ได้เลย สามารถออกแบบค่าสายตาให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคน ไม่มีความเสี่ยงจากการใช้กระจกตาจากผู้อื่นหรือวัสดุเทียม บริษัท เบรนนิฟิต จำกัด ให้บริการแพลตฟอร์ม Game-based neurofeedback system ช่วยฟื้นฟูศักยภาพการเรียนรู้ได้ถึง 5 ด้าน และวัดผลได้อย่างแม่นยำ
 
ด้านอุตสาหกรรมด้านความงามและอาหารเสริม ได้แก่ บริษัท สไปก์ อาร์ชิ เทคโทนิคส์ จำกัด ผลิตเข็มขนาดไมโคร (Microneedle) ในรูปแบบแผ่นแปะเทคโนโลยี Microspike ที่มีลักษณะพิเศษความเฉพาะที่สามารถดีไซน์ได้ตามต้องการของลูกค้าที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้สามารถนำส่งสารสำคัญผ่านผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัท ควอนตัม ไบโอเทค จำกัด ใช้ประโยน์จากเทคโนโลยีชีวภาพ นำเทคโนโลยีด้านไบโอรีไฟเนอรี่และไฮบริดมาผลิตสารออกฤทธิ์มูลค่าสูงจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร และ โครงการ KANTRUS การผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุออกฤทธิ์สำหรับเครื่องสำอางและการแพทย์ เช่น โปรตีนอีจีเอฟ ที่มีความบริสุทธิ์และความสามารถในการออกฤทธิ์สูง ในราคาที่เข้าถึงได้

ที่มา :  MGRonline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
937
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
638
“เติมพลังความรู้” กับ ..
591
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
562
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
553
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
516
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด