783
31 พฤษภาคม 2565
กรมพัฒน์ฯ นำเทคโนโลยีบริการและอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจและประชาชนแจง ปี ‘65 เร่งฟื้นฟูและสร้างความเข้มแข็งภาคธุรกิจ
 
 
 
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งนำเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ/อำนวยความสะดวกภาคธุรกิจและประชาชน กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีที่ต้องเร่งฟื้นฟูและสร้างความเข้มแข็งภาคธุรกิจ พร้อมสร้างโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการชุมชน เน้นหลักเข้มแข็ง เติบโต มั่นคง เชื่อภาคธุรกิจเป็นกลไกสำคัญในการสร้างการเติบโตภาคเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยมีภาครัฐให้การส่งเสริมสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น
 
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสินิตย์ เลิศไกร) ให้ความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจและประชาชน โดยกำหนดให้หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งนำเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดการให้บริการ โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม
 
กรมฯ จึงได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการด้านต่างๆ แบบครบวงจร และได้กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีที่ต้องเร่งฟื้นฟู ช่วยเหลือ และสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคธุรกิจ พร้อมสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการชุมชน ภายใต้นโยบาย Powered by DBD : เสริมพลังผู้ประกอบการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้สอดคล้องกับภารกิจหลัก 3 ด้าน คือ 1) การจดทะเบียนธุรกิจและบริการข้อมูลธุรกิจ 2) การส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ และ 3) การสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ
 
1) ด้านการจดทะเบียนธุรกิจและบริการข้อมูลธุรกิจ
  • นำเทคโนโลย AI มาใช้ในการจองชื่อนิติบุคคลออนไลน์ ทำให้ลดระยะเวลาทราบผลจาก 2 วัน เป็นทราบผลทันที (ณ มกราคม-เมษายน 2565 อนุมัติชื่อแล้ว 105,235 รายชื่อ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 59)
  • ปรับระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ให้เป็นระบบดิจิทัลแบบ End to End Process เช่น การพัฒนาระบบยืนยันตัวตนผ่านระบบ e-KYC และการออกใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์
  • การพัฒนาต่อยอดคลังข้อมูลธุรกิจ DBD Data Warehouse+ โดยเชื่อมโยงข้อมูลการขอใบอนุญาตต่างๆ กับระบบศูนย์กลางบริการภาครัฐ หรือ Biz Portal ของสำนักงาน ก.พ.ร. รวมถึงการสร้างระบบ Chat Bot เพื่อการให้คำปรึกษาแนะนำการใช้บริการตลอด 24 ชม. ซึ่ง ณ มกราคม-เมษายน 2565 มีผู้ใช้บริการถึง 4,162,956 ครั้ง และ
  • การพัฒนาระบบจดทะเบียนบริษัทมหาชนทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้สามารถยื่นจดทะเบียนผ่านระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งถึงแม้ปริมาณการจดทะเบียนนิติบุคคลในรูปแบบบริษัทมหาชนจะมีปริมาณไม่มาก (ณ เมษายน 2565 จำนวน 1,342 ราย) แต่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่มีมูลค่าการลงทุนสูง (ณ เมษายน 2565 มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 5.218 ล้านล้านบาท) การอำนวยความสะดวกดังกล่าว จะนำไปสู่การเป็นประเทศที่ง่ายต่อการประกอบธุรกิจ สร้างบรรยากาศที่ดีต่อการลงทุนของประเทศมากยิ่งขึ้น
2) ด้านการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ กรมฯ เน้นเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการไทยทุกระดับผ่านการบูรณาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการไทย รองรับการทำธุรกิจในยุควิถีใหม่ สามารถปรับตัวเข้าสู่ตลาด มีรายได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • การเสริมทักษะการประกอบธุรกิจที่จำเป็นต่อการปรับตัวในยุควิถีใหม่ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการประกอบธุรกิจในธุรกิจโชวห่วย ธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ธุรกิจสำนักงานบัญชี รวมถึง การจับคู่เชื่อมโยงกลุ่มผู้ประกอบการ SME กับ ธุรกิจ Startup ทั้งในรูปแบบการให้ความรู้แบบ On-site และผ่านระบบ e-Learning ปัจจุบันกรมฯ ได้มีการพัฒนาและปรับหลักสูตรให้ทันสมัยถึง 7 หลักสูตร 33 วิชา โดยในครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2565 มีผู้ผ่านการอบรมแล้วกว่า 29,000 ราย
  • การสร้างโอกาสทางการตลาด โดยส่งเสริมให้นำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) มาใช้ และมีการสร้างชุมชนต้นแบบ Digital Village by DBD ผลักดันสินค้าชุมชนที่มีอัตลักษณ์ให้สามารถสร้างมูลค่าทั้งในด้านบรรจุภัณฑ์ คุณภาพ การบริหารจัดการ การตลาด และต่อยอดเข้าสู่ช่องทางการค้าออนไลน์ ที่ผ่านมาได้พัฒนาไปแล้ว 34 ชุมชน สามารถสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการชุมชน เพิ่มขึ้นกว่า ร้อยละ 12 โดยในปีงบประมาณ 2565 นี้ กรมมีเป้าหมายที่จะดำเนินการเพิ่มเติมอีก 20 ชุมชน
นอกจากนี้ ยังได้ผลักดันการยกระดับการสร้างมูลค่าสินค้าพื้นถิ่น ด้วยแนวคิด SMART Local by DBD ประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก คือ SMART Local Shop by DBD, SMART LOCAL BCG, SMART LOCAL Trader และ SMART LOCAL HERB โดยสามารถสร้างมูลค่าทางการค้าแล้ว 68 ล้านบาท รวมถึงกระตุ้นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ธุรกิจแฟรนไชส์ไทย

ซึ่งปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์ไทยกว่า 609 แบรนด์ ภายใต้โครงการแฟรนไชส์สร้างอาชีพ โดยได้นำแฟรนไชส์ที่ผ่านการส่งเสริมจากกรมฯ ไปจัดแสดงธุรกิจในส่วนภูมิภาค 15 จังหวัดทั่วประเทศ และกิจกรรม MOC แฟรนไชส์สร้างอาชีพ 2021 เพื่อเป็นทางเลือกในการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้มีผู้สนใจเข้าร่วมเจรจาธุรกิจ 5,800 ราย สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 1,375 ล้านบาท
 
3) ด้านการสร้างธรรมาภิบาลภาคธุรกิจ
  • ยกระดับธรรมาภิบาลธุรกิจไทยด้วยการให้ความรู้เพื่อการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมาย และสร้างต้นแบบธรรมาภิบาลธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพกว่า ๑๘๕ ธุรกิ
  • พัฒนาสภาพแวดล้อมส่งเสริมธรรมาภิบาลภาคธุรกิจ ผ่านสำนักงานบัญชีคุณภาพ ๑๖๙ ราย ผู้ทำบัญชี และผู้สอบบัญชี เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ธุรกิจมีการจัดทำบัญชีและงบการเงินที่ถูกต้อง และโปร่งใส เพื่อนำไปสู่ความน่าเชื่อถือและการเติบโตอย่างยั่งยืนของภาคธุรกิจไทย
ผลการดำเนินงานทั้งหมดที่ผ่านมาของกรมฯ เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมพลังสร้างความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการไทย ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น เกิดจากความร่วมมืออย่างเหนียวแน่นระหว่างกรมฯ กับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ สถาบันการเงิน และสถาบันการศึกษาต่างๆ รวมถึง สื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงในการสร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจทุกภารกิจการดำเนินงานของกรมฯ แก่สาธารณชนเป็นอย่างดี” อธิบดีกล่าวทิ้งท้าย
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
937
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
638
“เติมพลังความรู้” กับ ..
591
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
562
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
553
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
516
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด