บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
291
2 นาที
4 มิถุนายน 2568
สัดส่วนของธุรกิจแฟรนไชส์บอกอะไร เราได้บ้าง
 
 
ปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์หลายๆ แบรนด์ในประเทศไทย มีจำนวนสาขาที่บริษัทบริหารเองมากกว่าสาขาแฟรนไชส์ รวมถึงมีสาขาบริษัทบริหารเองน้อยกว่าสาขาแฟรนไชส์ สะท้อนถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจและแนวคิดการเติบโตของแบรนด์นั้นๆ 
 
มาดูกันว่า สัดส่วนของธุรกิจแฟรนไชส์แต่ละแบรนด์ สามารถบอกอะไรของแต่ละแบรนด์ได้บ้าง 
 
ยกตัวอย่าง
 
1.7-Eleven แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้ออันดับ 1 ของไทย


อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ปัจจับันมีจำนวนสาขาในไทย 15,430 สาขา (เปิดใหม่ในไตรมาส 1/2568 จำนวน 185 สาขา)
  • จำนวนสาขาในต่างประเทศ กัมพูชา 116 สาขา, ลาว 15 สาขา 
  • สาขาบริษัท 51%, สาขาแฟรนไชส์หรือ Store Business Partner 49% 
ดูจากสัดส่วนแฟรนไชส์มีความใกล้เคียงกัน แต่บริษัทเปิดสาขาและบริการเองมากกว่าเล็กน้อย การที่บริษัทถือสัดส่วน 51% เพราะยังต้องการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการไส้เป็นหลัก ในณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนร่วมเป็น Store Business Partner ช่วยขยายสาขาในพื้นที่ที่บริษัทไม่เชี่ยวชาญในตลาดท้องถิ่น 
 
7-Eleven ใช้ทั้ง Company-owned และ Franchise ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการบริหารธุรกิจ และบริษัทยังสามารถทดลองสินค้า บริการ เทคโนโลยีใหม่ๆ กับสาขาบริษัทก่อน แล้วจึงขยายต่อไปยังสาขาแฟรนไชส์
 
7-Eleven ยังสามารถควบคุมต้นแบบได้ง่าย เช่น เรื่องการเปลี่ยนระบบ POS, การทำ logistics, การฝึกอบรม ฯลฯ ที่สำคัญมีพื้นที่ในการทดลองกลยุทธ์ใหม่ๆ โดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากแฟรนไชส์ซี
 
2. แฟรนไชส์กาแฟ "คาเฟ่ อเมซอน"
 

อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีจำนวนสาขา 4,507 แห่งทั่วโลก วางเป้าหมายเปิดให้ครบ 5,800 แห่งในปี 2568 
 
คาเฟ่ อเมซอน มีสัดส่วนแฟรนไชส์อยู่ที่บริษัทบริหารเอง 15% สาขาแฟรนไชส์ 85% หากวิเคราะห์สัดส่วนแฟรนไชส์ของคาเฟ่ อเมซอน บ่งบอกถึง
 
ใช้โมเดลแฟรนไชส์ในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ดูจากการขยายแฟรนไชส์ถึง 85% แสดงว่า OR มุ่งเน้นการเติบโตผ่าน นักลงทุนท้องถิ่น หรือแฟรนไชส์ซีมากกว่าใช้เงินทุนของตนเอง สามารถทำให้ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนการเปิดร้านเอง
 
ขยายสาขาได้เร็ว ต้นทุนต่ำ โดย OR ลงทุนในระบบสนับสนุนหลังบ้าน เช่น supply chain, ระบบฝึกอบรม, ควบคุมคุณภาพ เพื่อให้แฟรนไชส์สามารถบริหารงานได้ ที่สำคัญด้วยต้นทุนการขยายต่ำ ทำให้ OR สามารถขยายสาขาไปในพื้นที่ใหม่ๆ ได้สะดวกและรวดเร็ว
 
OR มีบทบาทควบคุมคุณภาพมาตรฐานมากกว่าการบริหารจัดการสาขาแฟรนไชส์ สนับสนุนและดูแลภาพรวมทางการตลาด เหมือนกรณีแฟรนไชส์ไก่ทอด KFC ในไทย โดยมีบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เป็นเจ้าของแบรนด์ และเป็นผู้ดูแลแบรนด์ KFC ในไทย ส่วนหน้าที่การขยายสาขาเป็นของแฟรนไชซีทั้งหมด 3 ราย คือ CRG, RD, QSR. 
 
3.แฟรนไชส์ไก่ห้าดาว (Five Star Chicken)
 

ในเครือซีพี มีสาขากว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ ใช้โมเดลระบบแฟรนไชส์ 100% เต็ม ไม่มีสาขาของบริษัท ถือว่าเป็นแนวทางขยายธุรกิจที่ “เบาแรง” ของบริษัทแม่ 
  1. โมเดลแฟรนไชส์เต็มรูปแบบ บริษัทแม่ไม่เปิดสาขาเองเลย แต่เน้นให้นักลงทุนรายย่อยเป็นเจ้าของและบริหารร้านเอง ซีพีทำหน้าที่ผลิตและกระจายวัตถุดิบ จัดระบบฝึกอบรม สร้างมาตรฐานสินค้าและบริการ วางแผนกลยุทธ์การตลาด รวมถึงสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง
  2. ขยายได้ไว ใช้งบบริษัทน้อย เป็นโมเดลที่เหมาะกับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดและพื้นที่แหล่งชุมชน ที่สำคัญบริษัทแม่ไม่ต้องลงทุนเปิดหน้าร้าน เพียงแค่ใช้ระบบแฟรนไชส์ในการขยายสาขาอย่างกว้างขวาง
4.ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว แฟรนไชส์สตรีทฟู้ดอันดับ 1 ของไทย


ปัจจุบันมาจำนวนสาขา 4,500 แห่งทั่วประเทศ มีสัดส่วนสาขาแฟรนไชส์ 98% และสาขาบริษัทเพียง 2% บ่งชี้ว่าเป็นแบรนด์ที่เน้น แฟรนไชส์เป็นหัวใจหลักของการเติบโต คล้ายกับ “ไก่ห้าดาว” แต่ยังคงมีสาขาบริษัทบ้าง สัดส่วนแฟรนไชส์ "ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว" บ่งบอกถึง
  1. ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวใช้โมเดลแฟรนไชส์เป็นแกนหลักเกือบ 100% เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถลงทุนเปิดร้านได้ สร้างงานสร้างอาชีพให้คนไทย สามารถสร้างการเติบโตให้ธุรกิจชายสี่บะหมี่เกี๊ยวได้รวดเร็ว
  2. สัดส่วน 2% ที่บริษัทเปิดสาขาเอง อาจใช้เพื่อเป็นการทดสอบเมนูใหม่ๆ รวมถึงใช้ในการฝึกอบรมพนักงานและแฟรนไชส์ซี เพื่อรักษา “มาตรฐาน” ตามที่บริษัทต้องการ
ขอยกตัวอย่างจากแบรนด์ดังๆ ของโลกอย่าง 
  • McDonald's มีสาขาแฟรนไชส์มากกว่าสาขาบริษัท เพราะต้องการขยายเร็ว
  • Starbucks มีสาขาบริษัทมาก เพราะเน้นควบคุมคุณภาพ 
เปรียบสัดส่วนของ “สาขาบริษัท vs สาขาแฟรนไชส์” 


1.สาขาบริษัทมากกว่าแฟรนไชส์ (บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารเองเยอะ)
  1. ควบคุมคุณภาพและมาตรฐานได้ดี บริษัทสามารถสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้โดยตรง 
  2. กำไรมากกว่า บริษัทเก็บกำไรเต็มๆ ไม่ต้องแบ่งกับแฟรนไชส์ซี
  3. ทดสอบตลาดและสินค้าใหม่ๆ ได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถใช้สาขาของตัวเองเป็นสนามทดลอง
  4. แบรนด์ยังไม่พร้อมขยายผ่านแฟรนไชส์ เช่น ยังไม่มีระบบอบรมหรือคู่มือการบริหารที่ดีพอ 
ความท้าทาย
  1. ใช้เงินทุนสูง
  2. ขยายได้ช้า เพราะต้องลงทุนเองทุกสาขา

2.สาขาแฟรนไชส์มากกว่าสาขาบริษัท (เน้นขายแฟรนไชส์)
  1. ขยายตลาดได้เร็ว เพราะแฟรนไชส์ซีลงทุนเอง ทำให้ขยายได้หลายพื้นที่พร้อมๆ กันได้ 
  2. ลดความเสี่ยงด้านเงินทุน บริษัทไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่ และยังได้ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ ค่าสิทธิ์ และส่วนแบ่งรายได้
  3. แฟรนไชส์ตั้งใจบริหารร้านมากขึ้น เพราะเป็นเงินของเขาเอง แฟรนไชส์ซีมักบริหารร้านได้ดีในท้องถิ่นของตัวเอง 
ความท้าทาย
  1. ควบคุมคุณภาพมาตรฐานได้ยากขึ้น
  2. อาจเจอแฟรนไชส์ซีที่บริหารไม่ดี ทำให้แบรนด์เสียชื่อ
  3. ต้องมีระบบสนับสนุนและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานที่มีความเข้มแข็ง
สรุป สัดส่วน "สาขาบริษัท" และ "สาขาแฟรนไชส์" จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางธุรกิจของแต่ละแบรนด์ กลยุทธ์ทางการเงิน และการควบคุมคุณภาพมาตรฐานแฟรนไชส์ หากแบรนด์ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่มั่นคงและยั่งยืน ส่วนใหญ่จะเปิดสาขาของบริษัทก่อน แล้วค่อยขายแฟรนไชส์เมื่อระบบพร้อม ส่วนแบรนด์ที่เน้นโตเร็ว ขยายทั่วประเทศ มักใช้โมเดลแฟรนไชส์  

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
4 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนพฤษภาคม 2568
1,481
แฟรนไชส์จะไม่ปัง ถ้ายังไม่รู้ 5 เทคนิคปั้นเพจให้..
472
ถอดสูตรบริหารแฟรนไชส์ by The Pizza Company
470
แฟรนไชส์ไก่ทอด Zhengxin Chicken Steak ถึงบุกช้า ..
455
รวม 5 โปรโมชั่นจัดหนัก! แฟรนไชส์ ขายดี ทั้งลดทั้..
404
สมรภูมิไก่ทอดเดือด! แฟรนไชส์จีน-เกาหลี-ไต้หวัน บ..
397
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด