บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
4.7K
2 นาที
19 มีนาคม 2561
7 เทคนิคสู่ความสำเร็จของ ยาคูลท์
 

ยาคูลท์เริ่มเข้าสู่ตลาดไทยเมื่อประมาณ 49 ปีที่ผ่านมา โดย คุณประพันธ์ เหตระกูล ผู้ก่อตั้งบริษัท ยาคูลท์ ประเทศไทย และถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดนมเปรี้ยวแลตโตบาซิลัสในไทยปัจจุบันมี คุณกนกพรรณ เหตระกูล สืบทอดธุรกิจต่อจากรุ่นพ่อ

ซึ่งตลาดนมเปรี้วพร้อมดื่มในเมืองไทยนั้นมีมูลค่ากว่า 22,300 ล้านบาท และยาคูลท์แชร์ตลาดนี้ได้กว่า 19% แม้จะไม่ขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งในทางการตลาดแต่ในความรู้สึกคนไทยแล้ว ยาคูลท์ นั้นทรงอิทธิพลทางความคิดเป็นอย่างมาก 
 
www.ThaiFranchiseCenter.com รวบรวมเอา7เทคนิคมาชี้ให้ชัดว่าทำไมยาคูลท์ถึงเป็นสินค้าสุดแกร่งมายาวนานหลายสิบปี
 
1.สินค้าที่มีเรื่องราวในตัวเอง
 

ภาพจาก www.facebook.com/yakultthailand

น่าแปลกที่ยาคูลท์เป็นผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวเป็นแบรนด์ที่เราไม่เคยเห็นการโหมกระหน่ำโฆษณา ที่สำคัญตลอดระยะเวลากว่า 49 ปีในเมืองไทย ยาคูลท์มีสินค้าเพียงตัวเดียวมาโดยตลอด จุดเด่นประเด็นหลักที่ทำให้สินค้านี้อยู่ได้นั้นคือเรื่องราวของยาคูลท์เองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกจนคนเชื่อมั่นในศักยภาพของแบรนด์นี้
 
ดร.มิโนรุ ชิโรต้า จากญี่ปุ่นคือผู้ที่คิดค้นผลิตยาคูลท์ ดร.มิโนรุสนใจเรื่องเกี่ยวกับจุลินทรีย์มานาน หลังจากเรียนจบก็ยังค้นคว้าเรื่องนี้ต่อจนนำมาสู่การทำจุลินทรีย์กรดนมที่ทนต่อสภาวะกรดและด่างในร่างกายคนเราได้

เขาตั้งชื่อว่า “แลคโตบางซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ชิโรต้า” และพัฒนามาเป็นเครื่องดื่มที่เรียกว่า “ยาคูลท์” ที่ความหมายว่า “อายุยืนยาว”  โดยยาคูลท์ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงญี่ปุ่นแพ้สงคราม บริษัทของ ดร.มิโนรุ เองก็ได้รับผลกระทบหลังจากการฟื้นฟูและยกระดับสินค้าใหม่ ยาคูลท์ก็กลายเป็น Global Brand ดังเช่นทุกวันนี้
 
2.ใช้ระบบการขายแบบ Direct Sale
 
ภาพจาก www.facebook.com/yakultthailand

เชื่อว่าเรารู้จักยาคูลท์จากการขายตรงที่มี “สาวยาคูลท์” เป็นเอกลักษณ์ ถึงขนาดที่สมัยหนึ่งมีคำพูดติดปากว่าอยากรู้อะไรถามสาวยาคูลท์ดูซิ!  ปัจจุบันมี “สาวยาคูลท์” มากกว่า 80,000 คนทั่วโลก ทำหน้าที่สร้าง Engagement กับผู้บริโภค ทั้งการส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภค การให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง รวมไปถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้คน ด้วยอัธยาศัยยิ้มแย้ม และยังทำหน้าที่ขยายฐานลูกค้าใหม่ด้วยเช่นกัน

3.เป็นแบรนด์แรกที่เปิดตลาดนมเปรี้ยวในไทย
 

ภาพจาก www.facebook.com/yakultthailand

คนไทยเป็นชนชาติที่มักจดจำอะไรแรกๆไว้ในใจเสมอ ดูจากผงซักฟอกทุกวันนี้เรายังเรียกผงซักฟอกทุกอย่างว่า แฟ้บ ซึ่งยาคูลท์ก็เช่นกันหากมีใครบอกว่าให้ไปซื้อนมเปรี้ยวกิน

ส่วนใหญ่ก็จะพูดว่า ไปซื้อยาคูลท์ซิ นั้นหมายความว่าแบรนด์ยาคูลท์ได้ถูกฝังรากลึกในใจคนไทยด้วยความที่เป็นแบรนด์แรกที่เข้ามาตีตลาด ยังไม่รวมการจัดกิจกรรมที่เน้นไปตามโรงเรียนต่างๆ ก็ยิ่งสร้างภาพจดจำให้คนแบบรุ่นต่อรุ่นได้

4.การขายสินค้าที่มีคุณภาพแท้จริง
 
ภาพจาก goo.gl/FCo6gk

สินค้าที่ซื้อใจลูกค้าได้ในระยะยาวคุณภาพเป็นสิ่งที่ลูกค้ามองอันดับแรก นั้นคือเหตุผลว่าทำไมยาคูลท์ขวดเล็กนิดเดียว ยกดื่มทีเดียวก็หมดขวดคนถึงนิยมมากมาย

ด้วยการยืนยันคอนเซปตัวเองในการเป็นนมเปรี้ยวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ ที่ไม่ว่ากี่ปีๆ ยาคูลท์ก็ไม่เคยหลุดไปจากเอกลักษณ์ของตัวเองแม้คู่แข่งจะเกิดขึ้นตามมามากมายแต่สุดท้ายหลายแบรนด์ก็ยังต้องเดินตามยาคูลท์ดูจากส่วนแบ่งการตลาดที่ยาคูลท์อยู่ในอันดับที่ 2 มีส่วนแบ่งการตลาด 19% เป็นรองแค่ดัชมิลล์เท่านั้น

5.ยาคูลท์เข้ามาทำตลาดในยุคที่ร้านโชห่วยเฟื่องฟู
 
ภาพจาก goo.gl/7Q3MXi

สมัยก่อนตลาดค้าปลีกโดยเฉพาะร้านโชห่วยนั้นเฟื่องฟูสุดฤทธิ์ ซึ่งยาคูลท์ที่เข้ามาเปิดตลาดในยุคนั้นถือว่าแจ็กพ็อตเพราะอกจากสาวยาคูลท์ ส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภคแล้ว ยังถือเป็นหน่วยกระจายสินค้าเข้า “ร้านโชห่วย” โดยร้านค้าจะซื้อตรงกับสาวยาคูลท์ เพื่อนำมาวางขายในตู้แช่ ในราคาบวกเพิ่มขึ้นมาประมาณ 1 – 2 บาท 

แม้ยุคสมัยเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค “Modern Trade” และเริ่มมีคู่แข่งเข้ามาในตลาดนมเปรี้ยวแต่ผลจากการลงทุนสร้างระบบการขายตรงผ่านสาวยาคูลท์ ทำให้แบรนด์นมเปรี้ยวขวดจิ๋วนี้ ยังคงเข้าถึงผู้บริโภคทุกหนแห่ง

6. มี Brand Ambassador ที่ไม่ต้องลงทุนของตัวเอง

 

ภาพจาก www.facebook.com/yakultthailand

Brand Ambassador ของยาคูลท์ไม่ใช่ดารา หรือคนมีชื่อเสียงสังเกตว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นพรีเซนเตอร์ของยาคูลท์มากนัก แต่ Brand Ambassador ของยาคูลท์ที่คนจดจำคือ สาวยาคูลท์ ที่นอกจากการเป็นนักขาย ยังสามารถสร้าง ปฏิสัมพันธ์กับคนที่เป็นลูกค้าสั่งซื้อประจำ และคนทั่วไป ทำให้เกิดความคุ้นเคยกัน และมีโอกาสต่อยอดไปสู่การเป็นลูกค้าใหม่ได้ในอนาคต

7.มีประสบการณ์ที่สุดแกร่ง
 

ภาพจาก www.facebook.com/yakultthailand

เรียกว่าเป็นเทคนิคที่ต้องใช้เวลาในการเพาะบ่มตัวเองผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านปัญหามานานาประการจนก้าวมาสู่แถวหน้าในวงการนี้ มีหลายแบรนด์ที่พยายามทำตามยาคูลท์อย่างเช่นดัชมิลค์เองที่แม้ปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดจะนำหน้ายาคูลท์อยู่แต่ดัชมิลค์ก็ใช้ยาคูลท์เป็นต้นแบบในการทำธุรกิจตัวเอง

มีการพัฒนาระบบการขายที่ผสมผสานระหว่างกระจายเข้าช่องทางค้าปลีก และขายตรง หรือแม้แต่ “บีทาเก้น” ที่เปิดรับสมัครสาวบีทาเก้น เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในจุดนี้ยาคูลท์ถือว่าอยู่ในจุดนำและทำให้เกิดอิมเมจที่ดีอย่างมาก
 
ในอนาคตยาคูลท์เองก็น่าจะยังเป็น Brand Loveของใครหลายคนด้วยเทคนิคที่สามารถรักษา Brand Loyalty ในตัวเองได้ในทุกยุคสมัยจากรุ่นสู่รุ่นที่คงไม่มีใครเลียนแบบได้ง่ายๆ ซึ่งการที่สินค้าจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ถ้าใครทำได้ก็เรียกว่าติดลมบนกันไปยาวๆเหมือนกัน


SMEs Tips
  1. สินค้าที่มีเรื่องราวในตัวเอง
  2. ใช้ระบบการขายแบบ Direct Sale
  3. เป็นแบรนด์แรกที่เปิดตลาดนมเปรี้ยวในไทย
  4. การขายสินค้าที่มีคุณภาพแท้จริง
  5. ยาคูลท์เข้ามาทำตลาดในยุคที่ร้านโชห่วยเฟื่องฟู
  6. มี Brand Ambassador ที่ไม่ต้องลงทุนของตัวเอง
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
517
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
438
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
432
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
406
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
397
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
387
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด