ไอศกรีมไผ่ทองเริ่มต้นจาก คุณปู่กิมเช็ง แซ่ซี ชาวจีนอพยพโพ้นทะเล หนีความอดอยาก และความลำบากในครั้งกาลก่อนนั้น เพื่อชีวิตที่ดีกว่า การผจญภัยจึงเริ่มต้นในดินแดนสยามแห่งนี้  จากคนขายไอศกรีมแท่งจนๆ ธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่รู้หนังสือสักตัว เพราะความอดอยาก และความจนไม่เคยเอื้อเฟื้อใคร

คุณปู่เริ่มสังเกตว่าไอศกรีมแท่งที่ตนเองขายอยู่นั้นรสชาติไม่เหมือนกันในแต่ละวัน และไม่มีคุณภาพ เปรียบเสมือนการที่เราไม่ซื่อสัตย์กับลูกค้า จึงได้บอกเถ้าแก่ที่ไปรับไอศกรีมมาให้ทราบถึงปัญหาที่ตนเองพบ ในเรื่องคุณภาพของไอศกรีม แต่เถ้าแก่ท่านนั้นกลับไม่ยี่หระต่อสิ่งที่คุณปู่แนะนำ หรือคิดที่แก้ไขปรับปรุง แต่กลับไล่คุณปู่ให้ไปผลิตไอศกรีมขายเอง พร้อมกับคำสบประมาท และเสียงหัวเราะเยาะ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจไอศกรีมไผ่ทองที่สืบทอดมาจนถึงยุคปัจจุบัน

น้ำกะทิ และส่วนผสมต่างๆ ถังแล้วถังเล่าถูกเททิ้งเพื่อให้ได้ส่วนผสมที่ดีที่สุด และรสชาติที่ถูกปากลูกค้าของคุณปู่ ทุกๆ นาทีแห่งการเรียนรู้ และความอดทน ตัวแปรมากมาย และเงินทุนอันจำกัด ความพยายาม การสังเกต ความใส่ใจต่อผู้บริโภคของตนเอง เป็นหัวใจหลักของการทำงานของคุณปู่กิมเช็ง

ในที่สุดโรงงานผลิตไอศกรีมไผ่ทองแห่งแรกจึงเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2490 ในชื่อไอศกรีม "หมีบิน" (ซึ่งในสมัยโบราณชื่อแนวนี้เป็นที่นิยมในการทำการค้า ไม่ว่าจะเป็นกระต่ายบิน ช้างบิน) จากตึกแถวเช่า ห้องเล็กๆ บริเวณตรอกโรงเลี้ยงเด็ก ซอยนาคบำรุง เป็นที่ผลิตไอศกรีมตักมีส่วนผสมหลัก คือ น้ำกะทิ น้ำใบเตย และน้ำตาล ออกขาย  ซึ่งมีจุดประสงค์หลัก คือ คุณภาพไอศกรีม และรสชาติต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน จนสามารถสร้างก้าวเล็กๆ เข้ามาในหัวใจของนักชิม และเด็กๆ ทั่วไปในกรุงเทพ และฝั่งธนบุรี

จนเมื่อคุณปู่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง จึงได้ขยายการผลิตโดยสร้างโรงงานใหม่ที่บริเวณตรอกขี้เถ้า ย่านมหานาค ในปี พ.ศ. 2506 และปี พ.ศ. 2515 เปิดโรงงานผลิตไอศกรีมอีกแห่ง และเป็นจุดจำหน่ายขึ้นบริเวณถนนเจริญรัถ ย่านวงเวียนใหญ่  หากลองดูนึกดูผู้ชายธรรมดาที่แสนจะจนทั้งเงินทอง และความรู้ แต่มีสิ่งที่ยึดมั่น นั่นคือ "ความซื่อตรงในการทำการค้า" ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "ไผ่ทอง"

ในปี พ.ศ. 2527 คุณปู่ได้เปลี่ยนชื่อไอศกรีมจาก"หมีบิน" เป็น “ไผ่ทอง” จากคำว่า กิมเต็ก แปลว่า คนที่มีคุณธรรมดั่งทอง ซึ่งเราถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ คือ ความซื่อสัตย์กับลูกค้า โดย เต็ก แปลว่า คุณธรรม ซึ่งหมายถึง ต้นไผ่ที่มีความเข็มแข็งแต่อ่อนโยน และ กิม แปลว่า ทอง นั่นคือที่มาของคำว่า "ไผ่ทอง"

ปี พ.ศ. 2541 ได้ขยายกิจการอีกครั้ง โดยย้ายไปตั้งโรงงานที่พุทธมณฑลสาย 5 ซึ่งดำเนินกิจการมาจนถึงปัจจุบัน เราขยายตัวแทนจำหน่ายจากเดิมที่มีเพียงกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ทั้งปริมณฑล และทั่วทุกภาคในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 110 ศูนย์ทั่วประเทศ

กว่า 70 ปี ที่ดำเนินกิจการมาทางไผ่ทองไอศกรีมยังคงผลิตไอศกรีมด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และดำเนินกิจการด้วยความซื่อสัตย์ มีคุณธรรมดั่งทอง อันเป็นความหมายที่แท้จริงของ "ไผ่ทอง"