1.1K
1 พฤศจิกายน 2562
พาณิชย์รายงานจดทะเบียนธุรกิจ ไตรมาส 3 พบเลิกกิจการสูงถึงร้อยละ 56 เทียบปี 2561
 
 
 
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยตัวเลขการจดทะเบียนธุรกิจเดือนกันยายน 2562 พบว่ามีกิจการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จำนวน 6,954 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 981 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 ส่วนกิจการจดทะเบียนเลิกกิจการจำนวน 1,938 ราย เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 1,755 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 183 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 ธุรกิจที่เลิกกิจการ ไตรมาส 3/2562 มีจำนวน 5,287 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 จำนวน 3,379 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,908 ราย คิดเป็นร้อยละ 56
 
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าประจำเดือนกันยายน 2562 และไตรมาส 3/2562 พบว่าจำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 6,954 ราย เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 5,973 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 981 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 6,313 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 641 ราย คิดเป็นร้อยละ 10
 
สำหรับ ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 669 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 391 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 239 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในเดือนกันยายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 28,315 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 17,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 11,143 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 48,027 ล้านบาท ลดลงจำนวน 19,712 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41
 
ทั้งนี้ ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 5,035 ราย คิดเป็นร้อยละ 72.40 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,789 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.73 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 103 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.48 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 27 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.39
โดย จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศไตรมาส 3/2562 (ก.ค.-ก.ย.) จำนวน 19,386 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 (เม.ย.-มิ.ย.) จำนวน 17,472 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,914 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 18,723 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 663 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก

ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 1,812 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,065 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 622 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในไตรมาส 3/2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 68,353 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 จำนวน 65,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 2,988 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 97,614 ล้านบาท ลดลงจำนวน 29,261 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30
 
โดย ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 13,993 ราย คิดเป็นร้อยละ 72.18 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 5,008 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.83 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 328 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.69 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 57 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.30
 
ธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสม จำนวนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 62 มีจำนวน 57,608 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 61) จำนวน 56,271 ราย โดยเพิ่มขึ้นจำนวน 1,337 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 62 มีจำนวน 186,109 ล้านบาท ลดลง 54,377 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 61) จำนวน 240,486 ล้านบาท
 
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือนกันยายน มีจำนวน 1,938 ราย เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 1,755 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 183 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 1,899 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 39 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 158 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 127 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 44 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 ตามลำดับ
 
สำหรับมูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในเดือนกันยายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 15,361 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2562 จำนวน 28,933 ล้านบาท ลดลงจำนวน 13,572 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47 และเมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2561 จำนวน 6,555 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 8,806 ล้านบาท คิดเป็น 1.3 เท่า ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,395 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.98 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 446 ราย คิดเป็นร้อยละ 23.01 ลำดับถัดไปคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 88 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.54 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.47
 
ธุรกิจที่เลิกกิจการ ไตรมาส 3/2562 มีจำนวน 5,287 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 จำนวน 3,379 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,908 ราย คิดเป็นร้อยละ 56 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 5,327 ราย ลดลงจำนวน 40 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.8 ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ปกติที่จะมีแนวโน้มของการจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจในช่วงปลายปี ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 456 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 323 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 131 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 ตามลำดับ
ทั้งนี้ มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในไตรมาส 3/2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 52,573 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 จำนวน 12,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 40,232 ล้านบาท คิดเป็น 3.2 เท่า และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 จำนวน 22,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 29,580 ล้านบาท คิดเป็น 1.3 เท่า
 
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 3,700 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.98 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,305 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.68 ลำดับถัดไปคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 250 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.73 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 32 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.61
 
ธุรกิจเลิกสะสม จำนวนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 62 มีจำนวน 11,954 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 338 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 61) จำนวน 11,616 ราย มูลค่าทุน จดทะเบียนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 62 มีจำนวน 74,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,588 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 61) จำนวน 62,321 ล้านบาท
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
963
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
662
“เติมพลังความรู้” กับ ..
595
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
567
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
558
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
521
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด