บสย.รุกโครงการ PGS8 ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี ช่วยเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวในงานสัมมนา "มหกรรมคลินิกหมอหนี้ บสย. กรุงเทพฯ" ถึงโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 8 หรือ PGS8 ว่า ปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวน 5.2 ล้านราย แต่มีเพียง 10% เท่านั้นที่เข้าถึงแหล่งทุนได้ ดังนั้น บสย.ในฐานะหน่วยงานของภาครัฐฯ ภายใต้กระทรวงการคลัง มีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งทุนให้มากที่สุด
โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ภาคธุรกิจชะลอตัว จากสถิติตัวเลขการเติบโตเมื่อปี 61 อยู่ที่ 4.6% ขณะที่ปี 62 ใน 2 ไตรมาสที่ผ่านมาอัตราการเติบโตของภาคธุรกิจลดน้อยลงเพียง 1.5% เท่านั้น ดังนั้นภาครัฐฯ ต้องเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ภาคธุรกิจเติบโต และผ่านช่วงวิกฤตนี้ไปได้
โครงการ PGS8 มั่นใจว่าจะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกกลุ่มเป้าหมาย ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายได้ โดยเฉพาะการฟรีค่าธรรมเนียมจากเดิม 1 ปี ก็เพิ่มเป็น 2 ปี โดยมีวงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 100 ล้านบาท (รวมทุกสถาบันการเงิน) จากเดิม 40 ล้านบาท โดยการขอให้ค้ำประกันขั้นต่ำครั้งละไม่น้อยกว่า 200,000 บาาท อายุการค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี และระยะเวลารับคำขอค้ำประกันจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งค่าธรรมเนียมค้ำประกันปีที่ 3-4 อยู่ที่ 1% ส่วนปีที่ 5 ขึ้นไป อยู่ที่ 1.5%
"สำหรับโครงการ PGS8 ที่ได้เพิ่มในส่วนของการฟรีค่าธรรมเนียมเป็นเวลา 2 ปี จากเดิมเพียง 1 ปีเท่านั้น ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งรายเก่าและใหม่ เพราะเป็นช่วงที่ธุรกิจเพิ่งเริ่มต้นต้องใช้เวลา รวมถึงฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงนี้สำหรับลูกค้าเก่า เพราะฉะนั้นเวลา 2 ปีจึงเป็นช่วงที่ธุรกิจเริ่มตั้งตัวได้แล้ว ดังนั้น ทั้ง บสย.และผู้ประกอบการก็พร้อมเดินไปด้วยกัน ลดความเสี่ยงเรื่องเอ็นพีแอล และช่วยฟื้นเศรษฐกิจของประเทศได้" กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย.กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 จะช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ได้รับสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 4.3 หมื่นราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินไม่ต่ำกว่า 2.25 แสนล้านบาท และก่อเกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 6.87 แสนล้านบาท และภายในสิ้นปี 62 ตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อถึง 1 แสนล้านบาทตามเป้า จากธนาคารพันธมิตร 18 แห่ง ได้แก่
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
อ้างอิงจาก : MGROnline.com