5.8K
1 มกราคม 2553

“ไซเบอร์แพลนเนต” เปิดโรงเรียนอิเล็กทรอนิกส์ “informatic plus”


 



ชนินทร์เดช-ชนินทร์ วานิชวงศ์ สองพี่น้องแห่ง บริษัท ไซเบอร์แพลนเนต อินเตอร์แอคทีฟ ใน ฐานะประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ ทั้งคู่มีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนม.ค. 2552 จากเป้าหมายเดิมไตรมาส 4 ปี 2552 แต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย


บริษัทแห่งนี้ก่อตั้งโดย “ชนินทร์เดช” พี่ชาย ที่ปัจจุบันเป็นทั้งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โดยตั้งขึ้นมาภายหลังวิกฤตปี 2540 หรือปี 2543 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์เกม

ความที่เขาจบปริญญาตรีวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านการตลาด

เมื่อเรียนจบปริญญาตรีได้พัฒนาซอฟต์แวร์และจดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อจัดจำหน่ายโซลูชันในไทย จนกระทั่งปี 2543 พัฒนาซอฟต์แวร์เป็นซอฟต์แวร์เกม และจัดตั้งบริษัทดังกล่าว
 

จัดตั้งบริษัทได้ 1 ปี ในปี 2544 น้องชายคือ “ชนินทร์” จบปริญญาโทจาก ศศินทร์ มาช่วยงาน

“ผมช่วยงานพี่ตั้งแต่จบปริญญาตรี โดยช่วยทำซอฟต์แวร์ที่เขาคิดค้นได้ เป็นจอมัลติมีเดียเพื่อเป็นสื่อโฆษณา โดยช่วยทำการตลาด และทำมาเรื่อยๆ จนจบปริญญาโทกลับมาช่วยที่บริษัท”

“ไซเบอร์แพลนเนต” เปลี่ยนจากโครงการซอฟต์แวร์เดิมที่ จดลิขสิทธิ์ไว้มาเป็นแผ่นสำเร็จรูปส่งออกทั่วโลก ทำการวิจัยใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง มีการสร้างแบรนด์ และส่งออกไปทั่วโลกทั้งสหรัฐ และยุโรปซึ่งเป็นตลาด ที่กฎหมายลิขสิทธิ์เข้มงวด

จนกระทั่งปัจจุบันบริษัทนี้ส่งออกเพียงแค่ 70% จากปี 2549 ส่งออกทั้งหมด จากเกมเดียวที่ใช้เวลาสร้างซอฟต์แวร์นานนับปีจนท้อ พัฒนาเป็น 40-50 เกม เพื่อขายให้เด็ก 6 ขวบ จนถึงรุ่นคุณปู่คุณย่า ได้รับรางวัลกว่า 30 รางวัล ในฐานะแบรนด์ไทยคุณภาพชนะเกมเอเชีย

“เรามีจุดขาย คือ ต้นทุนการผลิตต่ำเพราะอยู่ในไทยใช้โปรแกรมเมอร์คนไทยทั้งหมด ทำให้ผลิตถูกกว่าคู่แข่ง 5-10 เท่าในคุณภาพเท่ากันทำให้ได้เปรียบในการแข่งขัน”

ธุรกิจนี้มีอัตรากำไร ขั้นต้น 60-70% อัตรากำไรสุทธิ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ นับว่าเป็นอัตรากำไรที่สูงมาก

“ผมใช้เวลาพัฒนากว่า 1 ปี ในงบประมาณไม่กี่ล้านบาทสำหรับเกม Magic Chronicle เทียบเกมแรกใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท ใช้เวลาสามปีคิด ปรับปรุง สามปีแรกของการก่อตั้งบริษัทไม่มีรายได้จากเกมเข้ามาเลยจนกระทั่งพัฒนาสำเร็จและขายเกมแรกในปี 2546”

“ชนินทร์” ยกความสำเร็จนี้ให้พี่ชายทั้งหมดเพราะเป็นคนกล้าคิด และรอคอยจนสำเร็จ
 

 
ลูกค้ารายแรกของ “ไซเบอร์แพลนเนต” ที่ซื้อซอฟต์แวร์ไปใช้คือ ฮิวเลท แพคการ์ด บริษัทชั้นนำของสหรัฐที่มีสาขาทั่วโลกภายใต้แบรนด์ HP หรือชื่อเกม คอมแพ็ค

“เขาสั่งซื้อ 4-5 หมื่นกล่องได้ดีล 70% เกือบคุ้มทุน ที่เหลือขายปลีกให้ผู้จัดจำหน่ายเกม เรียกได้ว่าเกิดเพราะลูกค้ารายนี้ทันทีในปีที่เขาซื้อ ทำให้เรากลายเป็นบริษัทผลิตเกมรายแรกในประเทศไทย”

ช่วงแรก “ไซเบอร์แพลนเนต” ผลิต 3 ปีต่อเกม จากนั้น 1 ปี 1 เกม และหลังปี 2546 ออกเกมหลากหลายแนวทางมากขึ้น จนกระทั่งปัจจุบันใช้เวลาคิดค้นและผลิตเพียง 6 เดือนเท่านั้น

บริษัทนี้ไม่ธรรมดาเพราะมีกองทุนเอเชีย อิควิตี้ เวนเจอร์ ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ ถือหุ้นด้วยตั้งแต่ต้น

“เราเป็นซอฟต์แวร์รายแรกที่บลจ.วรรณ ถือหุ้น เพราะผู้ใหญ่แนะนำมา”

จากจุดเริ่มต้นของตระกูลวานิชวงศ์ ที่ไม่ใช่ตระกูล นักธุรกิจ แต่บิดาและมารดาของทั้งคู่เป็นเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ ในไทย

“พี่ชายผมเป็นนักคิด นักประดิษฐ์ ส่วนผมเป็นคนมีระบบ รูปแบบ จึงนำข้อดีของทั้งคู่มาช่วยกันบริหารบริษัท”

ขณะนี้ “ไซเบอร์แพลนเนต” เปิดโรงเรียนอิเล็กทรอนิกส์ “informatic plus” สอนหลักสูตรเสริมภาษาอังกฤษชั้น ป1.-ป.6 สาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม โดยใช้สื่อการสอนเป็นเกมเสริมทักษะและประสบความสำเร็จ เป็นอย่างดี จากเป้าหมายนักเรียน 100 คน ใน 1 ปี ขณะนี้ได้ 80 กว่าคนแล้ว และมีแผนจะขยายสาขาและขายแฟรนไชส์ด้วย

ชนินทร์เดช เป็นบุตรคนกลาง ขณะที่ชนินทร์ เป็นคน สุดท้องที่ช่วยพี่ชายมาตั้งแต่แรก ทั้งคู่ใช้ชีวิตคนละบ้านกัน เพราะแต่งงานมีครอบครัวของตนเองแล้ว โดยชนินทร์เพิ่งแต่งงานเมื่อไม่นานมานี้ 
 


อ้างอิงจาก โพสต์ทูเดย์
 

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
963
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
664
“เติมพลังความรู้” กับ ..
597
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
567
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
558
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
522
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด