1.0K
29 พฤศจิกายน 2561
“ลาซาด้า” แผนปั้นผู้ค้าออนไลน์ และกลุ่มแม่บ้าน 8 ล้านคนทั่วอาเซียน ปี 2030
 
 
 
ลาซาด้า ประกาศสนับสนุนผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ (eCommerce) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตั้งเป้าจำนวน 8 ล้านรายทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใน 2030 เน้นสร้างระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซ แบบครบวงจร พร้อมสนับสนุนโครงสร้างเทคโนโลยีและโลจิสติกส์ และเตรียมขยายโครงการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการกลุ่มผู้หญิง-แม่บ้าน
 
มร.เจมส์ ตง (James Dong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า 
ในฐานะที่ลาซาด้านั้นเป็นแพลตฟอร์มของการช็อปปิ้งและจำหน่ายสินค้าออนไลน์ชั้นนำของภูมิภาค ลาซาด้าจึงมุ่งมั่นในการสร้างอีคอมเมิร์ซให้เป็นธุรกิจชั้นแนวหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดยลาซาด้าเชื่อว่า SMEs ที่แข็งแกร่งนั้นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับอีคอมเมิร์ซทั้งระบบ โดยลาซาด้า ยังให้การสนับสนุนให้ผู้ค้าในธุรกิจ SMEs เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยได้พัฒนาความคิดริเริ่ม รวมไปถึงเครื่องมือต่างๆ ที่เน้นการฝึกอบรวมและส่งเสริมให้ผู้ค้าสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและปิดการขายได้มากขึ้น
 
“ในปัจจุบันผู้ค้ายุคใหม่ไม่ได้มองอีคอมเมิร์ซเป็นเพียงแค่ส่วนเสริมของธุรกิจเท่านั้น แต่มองว่าอีคอมเมิร์ซคือสิ่งจำเป็นในการผลักดันความสำเร็จของธุรกิจ โดยผู้นำในด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้า สามารถเป็นคู่ค้าสำหรับผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นในการสร้างธุรกิจให้เติบโตแบบมืออาชีพ ซึ่งการเติบโตของธุรกิจเหล่านี้จะผลักดันระบบนิเวศทางธุรกิจทั้งระบบ” มร.ตง กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการ SMEs ในหลายๆ ประเทศยังคงเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น การพัฒนาการรองรับการชำระเงินออนไลน์ หรืออี-เพย์เม้นท์ (e-payment) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเข้าถึงบริการด้านการเงินและการสนับสนุนด้านอื่นๆ แต่สำหรับในประเทศไทย ลาซาด้าได้ก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดดังกล่าว โดยได้จับมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ นำร่องปล่อยสินเชื่อออนไลน์ (Digital Lending) ให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีที่เป็นผู้ขายบนลาซาด้าเป็นที่เรียบร้อย ด้วยการนำเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ที่พัฒนาโดยบริษัท เอสซีบี อบาคัส มาใช้พิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจบน e-commerce เป็นแห่งแรกในประเทศไทย
 
นอกจากนี้ “โลจิสติกส์” ยังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยข้อจำกัดในด้านผู้ให้บริการซึ่งดำเนินธุรกิจขนาดเล็กและไม่สามารถตอบโจทย์ในทั้งระบบ และยังมีความแตกต่างทางโครงสร้างด้านการคมนาคมขนส่งภายในภูมิภาคอีกด้วย ทั้งนี้ จากการวิจัยของ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจ้นท์ ยูนิต ประจำภูมิภาคเอเชีย หรือ อีไอยู (Economist Intelligence Unit : EIU) พบว่า โลจิสติกส์ นั้นถือเป็นหนึ่งในความท้าทายของผู้ประกอบการฯ โดยเฉพาะในประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นแบบหมู่เกาะ ดังเช่นอินโดนิเซีย และฟิลิปปินส์ โดยผลการวิจัยระบุว่า เครือข่ายถนน ไปจนถึงเครือข่ายค้าปลีกและการกระจายสินค้า เป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับบริษัทผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
 
ทั้งนี้ การใช้เครือข่ายโลจิสติกส์ของลาซาด้าจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจในด้านการเคลื่อนย้ายสินค้าในแต่ละประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถเข้าถึงและส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ในทุกที่ โดยเทคโนโลยีของลาซาด้าที่ใช้ระบบสถิติและข้อมูลเชิงลึก สามารถจะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กเชื่อมต่อกับผู้ซื้อสินค้าผ่านเครือข่าย สร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ
 
มร.ตง กล่าวยังต่อไปว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ นั้นสามารถเปิดโอกาสให้กับชุมชนและผู้ที่มีความสามารถพิเศษในด้านต่างๆ มากมาย ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือกลุ่มผู้หญิงหันมาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซมากขึ้น โดยสามารถดูแลธุรกิจไปพร้อมๆ กับการดูแลครอบครัวที่บ้านได้ในเวลาเดียวกัน 
 
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนกลุ่มสตรีในภูมิภาค ลาซาด้าได้พัฒนาความคิดริเริ่ม อาทิ โครงการ “Mompreneurs” ซึ่งเป็นโปรแกรมฝึกอบรมที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย ช่วยให้สุภาพสตรีที่เป็นแม่บ้านสามารถทำธุรกิจร้านค้าออนไลน์ได้ในขณะที่ยังคงดูแลครอบครัวไปด้วย โดยโปรแกรมนี้ได้ดำเนินการแล้วในประเทศฟิลิปปินส์ และคาดว่าจะขยายสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ต่อไป

อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,214
PLAY Q by CST bright u..
1,329
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
947
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
945
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
794
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
770
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด