แรงงานจัดอบรมรอบสอง 7 อาชีพยอดฮิต

นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิด โครงการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ชาวกทม.ครั้งที่ 2 ที่ลานกิจกรรม ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรีว่า โครงการสร้างอาชีพฯนำร่องที่เขตบางรักไปเมื่อเดือนก.ย. พบว่า มีผู้ผ่านการฝึกอาชีพที่ได้รับสินเชื่อจากธนาคารออมสินไปประกอบอาชีพอิสระแล้ว 10 ราย รวมทั้งมีประชาชนสนใจจะเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก ดังนั้นครั้งที่ 2 จึงจัดอบรม 7 สาขาอาชีพ

ได้แก่ การทำก๋วยเตี๋ยวหมู การทำอาหารญี่ปุ่น (ซูชิ) การทำทองม้วน การผสมเครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) การทำซาลาเปา การทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน การทำกาแฟโบราณ นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตการพิมพ์ภาพ การปักเลื่อม และการเพนต์ผ้า รวมทั้งการออกร้านแฟรนไชส์ ธนาคารออมสินพร้อมให้สินเชื่อไปลงทุนตั้งร้านรายละไม่เกิน 100,000 บาท โดยคิดดอกเบี้ยต่ำ จากการประเมินพบว่า มีแรงงานที่ว่างงานหรือต้องการเปลี่ยนอาชีพสนใจจำนวนมาก ไม่เฉพาะในกรุงเทพฯ แต่รวมถึงต่างจังหวัด กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะขยายโครงการสร้างอาชีพฯเข้าไปให้ถึงด้วย 

 
นายไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า ปี 2552 มีการคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าจะมีผู้ออกจากงานจำนวน 1-2 ล้านคน กระทรวงแรงงานจึงใช้นโยบาย 3 ลด 3 เพิ่ม คือลดค่าครองชีพ ลดค่าแรงงาน และลดการย้ายงาน ส่วน 3 เพิ่ม คือเพิ่มตำแหน่งงาน เพิ่มทางเลือกในการประกอบอาชีพ และเพิ่มทักษะฝีมือแรงงาน ทำให้พบว่าตัวเลขคนว่างงานเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คือ 400,000-500,000 คน

"นอกจากนี้ยังมีมาตรการรับมือแรงงานย้ายถิ่นในช่วงฤดูแล้ง เพื่อไม่ให้แรงงานทิ้งภาคเกษตร กระทรวงแรงงานจัดงบประมาณปกติจำนวน 300 ล้านบาท เพื่อตรึงแรงงานอยู่ในภาคเกษตร โดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือช่วงหน้าแล้ง 150 บาทต่อวัน แลกกับการทำงานสาธารณประโยชน์ เพื่อไม่ต้องเดินทางเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ" รมว.แรงงาน กล่าว


อ้างอิงจาก ข่าวสดรายวัน