'แมทเนเซียม'โต นักลงทุนแห่สมัคร แฟรนไชซีเพียบ 


"แมทเนเซียม" แฟรนไชส์คณิตศาสตร์ชื่อดังเมืองมะกัน มั่นใจแผนขยายสาขาเข้าเป้า หลังครึ่งปีแรก ฝ่ากระแสเศรษฐกิจซบยอดแฟรนไชซียังแน่น ขณะที่ยอดนักเรียนยังเพิ่ม โอดพิษ ไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำปิดโรงเรียนยาว ส่งผลกระทบต้องปิดโรงเรียนยาว สบช่องจัดเวิร์กช็อปพนักงานแทน

นายอนุชา เข็มทอง มาสเตอร์แฟรนไชส์ แมทเนเซียม สถาบันเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า หลังประสบความสำเร็จจากการนำแบรนด์แมทเนเซียม สถาบันเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็ก จากประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ามาเปิดให้บริการในเมืองไทย และมีผู้สนใจเข้ามาร่วมรับสิทธิบริหารต่อในรูปแบบของแฟรนไชส์ จนปัจจุบันมีแฟรนไชซีรวม 18 ราย จากจำนวนสาขาทั้งสิ้น 25 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ระยอง ฯลฯ ทำให้โรงเรียนยังเดินหน้าที่จะขยายสาขาเพิ่มเพื่อให้มีสาขารองรับกับความต้องการของเด็กและผู้ปกครองในจังหวัดต่างๆ

โดยจนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขาทั้งสิ้น 30 สาขา ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งที่ผ่านมาแม้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศจะไม่ค่อยดีนัก แต่พบว่าครึ่งปีแรกบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยพบว่ามีผู้สนใจติดต่อขอเป็นแฟรนไชซีแมทเนเซียมเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อน ทั้งนี้คาดการณ์ว่าความเบื่อหน่ายจากการทำงานประจำหรือเป็นลูกจ้าง และมีเงินเก็บในระดับหนึ่งจึงออกจากงานมาลงทุนในธุรกิจของตนเอง นอกจากนี้ด้วยคุณภาพและชื่อเสียงของสถาบัน ที่เกิดจากกระแสบอกต่อแบบปากต่อปาก จากผู้ปกครองและนักเรียนเอง ทำให้มีผู้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนตามไปด้วย

สำหรับการลงทุนของแมทเนเซียมในรูปแบบของแฟรนไชส์จะใช้เงินลงทุนกว่า 1 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าแฟรนไชส์ฟี 6.8 แสนบาทสำหรับสาขาในกรุงเทพฯ และ 5.5 แสนบาทสำหรับสาขาในต่างจังหวัด และค่าตกแต่งศูนย์อีกประมาณ 6 แสนบาท

"ที่นี่จะมุ่งสร้างทัศนคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และมุ่งสร้างความเข้าใจในระยะยาว อีกจุดเด่นของแมทเนเซียม คือ มีรูปแบบที่แตกต่างจากสถาบันอื่น โดยเปิดสอนทั้งหลักสูตรภาษาไทย และหลักสูตร 2 ภาษา โดยผู้เรียนสามารถมาเรียนได้ตลอดเวลา ไม่จำกัดวัน เวลา ในการเรียน และไม่มีการบ้านให้เด็กต้องทำ แต่จะเน้นให้ฝึกฝนทักษะต่างๆ ได้อย่างเต็มที่"

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ปัญหาที่พบขณะนี้คือ เรื่องของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่รัฐบาลประกาศให้ปิดโรงเรียนกวดวิชาเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งส่งผลให้โรงเรียนต้องปิดทำการไปด้วย โดยสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อนักเรียน ทำให้ไม่สามารถเรียนได้ตามกำหนด และโรงเรียนต้องจัดสอนชดเชยในภายหลัง ขณะที่โรงเรียนเองต้องสูญเสียรายได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดีการปิดทำการดังกล่าว ทางโรงเรียนจึงใช้เป็นโอกาสในการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ในทุกๆสาขา พร้อมทำเวิร์กช็อป เสริมทักษะในด้านต่างๆ ด้วย

 
 อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ