คุณรัตน์ดา แดงสมดี

 

ด้วยคุณประโยชน์ของแมลงทอด ทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจกับเมนูนี้ และจากแมลงทอดที่ขายริมทาง กลายมาเป็นแมลงทอดที่บรรจุซอง พร้อมจำหน่าย เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง ที่อาจจะรู้สึกว่าแมลงทอดขายข้างทางมีฝุ่นไม่สะอาด ประกอบกับแนวโน้มของตลาดแมลงทอดที่จะกำลังจะมาในอนาคตอันใกล้นี้ ทำให้สาว คนนี้”วรัตน์ดา แดงสมดี“ ตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ทำแมลงคั่วสมุนไพร บรรจุถุง ภายใต้แบรนด์ IZAP โดยแมลงที่เลือกใช้เป็น แมงสะดิ้ง และ จิ้งหรีด

 

“วรัตน์ดา” เล่าว่า เลือกใช้แมลงทั้งสองชนิด เพราะเดิมพื้นที่แถวบ้านของเธอนิยมเลี้ยงแมลงทั้งสองชนิดมาก่อน แต่เนื่องจากมีการเลี้ยงกันมาก และไม่มีตลาด ก็เลยเลิกเลี้ยงกันไปบ้าง และเมื่อกลับมาบ้าน อยากจะช่วยคนที่ยังเลี้ยงอยู่ได้มีรายได้ และเห็นว่า แมลงเป็นเมนูที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักของคนไทยและต่างประเทศ และแมลงยังเป็นเมนูของคนรักสุขภาพ

ครั้งนี้ “วรัตน์ดา” เลือกทำแบบคั่ว แทนการทอด ซึ่งต้องใช้น้ำมัน และไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ และเพิ่มรสชาติด้วยการเติมสมุนไพรไทย ซึ่งเขาต้องการจะเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะมีผลงานวิจัยทางด้านอาหารได้ค้นพบว่าการรับประทานแมลงจะได้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า เนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ หลายคนหันมาให้ความสนใจกับเมนูแมลงกันมากขึ้น และจากเมนูที่หลายคนรู้สึกกลัว และขยะแขยง กลายมาเป็นเมนูโปรด และราคาสูง แต่ปัญหา คือ แมลงทอด แมลงที่ขายตามท้องตลาดใช้น้ำมันทอดไม่ปลอดภัย และวางขาย โดยไม่มีอะไรปิดมิดชิด ดังนั้น เราจึงเลือกนำมาบรรจุถุง และคั่วสมุนไพร เป็นทางเลือกให้กับคนรักสุขภาพ 
 

 

วรัตน์ดา เล่าว่า ได้เริ่มทำแมลงคั่วสมุนไพร ออกมาได้ประมาณ 5-6 เดือน ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ซึ่งช่องทางจำหน่ายก็ยังอยู่ในวงแคบ ในกลุ่มของคนรู้จัก ซึ่ง โดยส่วนตัวก่อนที่จะมาทำแมลงคั่วสมุนไพร ตนเอง ทำอาชีพขายตรงมาก่อน และพอเลิกทำก็อาศัยเครือข่ายจากธุรกิจขายตรง ให้นำสินค้าไปจำหน่าย และโชคดี ที่เพือนทำทัวร์จีน ก็นำไปขายกลุ่มทัวร์จีน ซึ่งรู้จัก แมลงทอดเมืองไทย เป็นอย่างดี และหลายคนชื่นชอบ เราเลยได้อานิสงส์ ทำสินค้าส่งให้กับเพื่อนที่ทำทัวร์

และจากทัวร์จีน ตรงนี้แหละทำให้เราได้ต่อยอดในการทำตลาดส่งออก ในอนาคตด้วย ปัจจุบันมีออเดอร์ไม่เยอะเพียงเดือนละ 1,000 ถึง 1,500 ซอง จำหน่ายในราคาซองละ 25 บาท น้ำหนัก 30 กรัม ในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มรสชาติ แต่ยังคงเน้นรสชาติแบบไทย เช่น คั่วกลิ้ง กระเพรา ต้มยำ ลาบ และรสดั้งเดิม เป็นรสสมุนไพร ซึ่งสมุนไพรที่นำมาใช้ ได้แก่ ตะไคร้ ใบมะกูด และใบเตย ปรุงรสด้วยเกลือ 

ในส่วนของการพัฒนารสชาติ คือ การต้องการสื่อให้ต่างชาติได้รู้จักอาหาร ถ้ามีโอกาสได้นำสินค้าไปขายต่างประเทศ โดยการปรุงรสชาติ ในตอนนี้ ได้รับการช่วยเหลือจากสถาบันอาหาร เข้ามาช่วย คาดว่าน่าจะได้รสชาติใหม่ออกมาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตอนนี้ เป็นการทำแบบครัวเรือน ยังไม่ได้ซื้อหรือนำอุปกรณ์อะไรเข้ามาช่วย ในด้านการผลิต ทำให้การขอมาตรฐาน ต่างๆ จึงยังทำไม่ได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการขอเงินกู้ จากสถาบันการเงิน และได้เข้าอบรมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป็นการสร้างเครือข่าย และขอคำแนะนำ

สำหรับจุดเริ่มต้น ของ แมลงคั่วสมุนไพร ครั้งนี้ ได้มาจากการไปอบรม ขอความรู้ และได้รับความกรุณาจาก หน่วยงานร่วม คือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ส่วนแนวทางการตลาดได้ความรู้จาก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และ กระทรวงพาณิชย์ 

“วรัตน์ดา” เล่าว่า เนื่องจากต้องการเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องเริ่มจากวัตถุดิบ คือ แมลงที่นำมาใช้ก็เป็นแมลงที่เลี้ยงด้วยวิธีทางธรรมชาติ ซึ่งเราเองก็ต้องทำคอนแทคกับเกษตรกรผู้เลี้ยง ให้เขาเลี้ยงให้เราโดยเฉพาะ แบบไม่มีสารเร่ง หรือ อาหารเร่ง แต่เป็นแมลงที่กินผักผลไม้ ตามธรรมชาติ ซึ่งตอนนี้ เรามีออเดอร์ไม่เยอะ จึงมีเกษตรกรที่ร่วมทำงานกับเรา เพียงไม่กี่ราย ส่วนใหญ่จะเป็นคนแก่ ซึ่งอยู่บ้าน ไม่ได้ทำอะไร และเขาเคยเลี้ยงอาจจะเลิกไป เราก็ไปขอให้เขาเลี้ยงให้กับเรา แต่ถ้าในอนาคตมีออเดอร์มากขึ้น ก็คงจะมีเกษตรกรรายอื่นๆ ยอมที่จะทำคอนแทคฟาร์ม กับเรามากขึ้น

“ความตั้งใจของเรา ไม่ได้แค่เราขายของได้ และมีรายได้ แต่สิ่งสำคัญอยากเห็นเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงแมลง ได้มีรายได้ เพื่อช่วยจุนเจื้อ ครอบครัว และ ตัวเราเองได้กลับมาดูแลพ่อ แม่ ที่อายุมาก เป็นการสร้างงานให้กับคนในชุมชน ทำให้เขาไม่ต้องเดินทางไปทำงานพื้นที่อื่นๆ แต่มาช่วยกันพัฒนาบ้านเกิดให้เจริญ แต่ทุกอย่างวันนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก และเราก็ฝันว่าจะทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้ในอนาคต” วรัตน์ดา กล่าวในที่สุด โทร. 08-3738-8667

 

อ้างอิงจาก : ผู้จัดการ Online