โออิชิดัน 3 แบรนด์ใหม่เปิดแฟรนไชส์ 
 

โออิชิ สานต่อนโยบาย King of Japanese เตรียมดันร้านอาหารอีก 2-3 แบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นบุกไทย ล่าสุดเปิดแฟรนไชส์ร้าน MAIDO OOKINI SHOKUDO สาขาแรก เน้นความแตกต่างที่บริการตัวเองและราคาประหยัด พร้อมขยายเพิ่มอีก 3 แห่ง วาดเป้าสิ้นปีโต 17%

นายไพศาล อ่าวสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เพื่อเป็นการสานต่อนโยบายการก้าวขึ้นสู่ King of Japanese ในปี 2552 บริษัทมีแผนการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นอีก 2-3 แบรนด์ ซึ่งขั้นตอนรายละเอียดอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ และล่าสุดบริษัทได้เปิดร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ใหม่ชื่อ MAIDO OOKINI SHOKUDO สาขาแรกที่ชั้น 1 โรบินสัน ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซึ่งเป็นร้านแฟรนไชส์มาจากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ใช้เงินลงทุนประมาณ 7 ล้านบาท บนพื้นที่ให้บริการ 185 ตร.ม. โดยรูปแบบบริการจะเป็นการบริการตัวเอง มุ่งจับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนเริ่มทำงาน ซึ่งจากการทดลองเปิดร้านมาเป็นระยะเวลา 5 เดือน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เห็นได้จากการที่มีลูกค้าเข้าร้านในวันปกติ 200-300 คนต่อวัน ขณะที่วันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 400-500 คนต่อวัน

"จุดเด่นของร้าน MAIDO OOKINI SHOKUDO จะแตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปที่มีคนบริการเสิร์ฟอาหารถึงที่ แต่จะเป็นรูปแบบการให้บริการตัวเองตั้งแต่เลือกซื้อสินค้าและจ่ายเงิน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างพฤติกรรมแบบใหม่ให้กับลูกค้า นอกจากนี้จุดเด่นอีกด้านหนึ่งของสินค้า คือ ราคาประหยัด โดยมีราคาเมนูสินค้าเริ่มต้นตั้งแต่ 25 บาท และมีโปรโมชันพิเศษเมื่อลูกค้าสั่งซื้อเมนูหลักราคาประมาณ 75 บาท จะได้รับข้าวและซุปฟรี รวมทั้งสินค้ามีให้เลือกทั้งหมด 70 เมนู ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมมากสุดจะอยู่ในกลุ่มปิ้งย่างและกระทะร้อน และในอนาคตจะมีการเพิ่มเมนูแปลกใหม่อย่างต่อเนื่อง"

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการขยายสาขาร้าน MAIDO OOKINI SHOKUDO เพิ่มอีก 3 แห่งในปีนี้ โดยจะใช้พื้นที่ประมาณ 120 ตร.ม. เงินลงทุนประมาณ 5-8 ล้านบาทต่อแห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเช่าพื้นที่ที่ห้างเดอะมอลล์สาขาบางแค และเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน ส่วนอีก 1 แห่ง อยู่ระหว่างการคัดเลือกพื้นที่ว่าจะเป็นที่ใด แต่จะเน้นในเมืองเป็นหลัก ส่วนแผนการสร้างการรับรู้นั้น เนื่องจากสาขาการเปิดให้บริการยังไม่ครอบคลุม ดังนั้นคาดว่าในปีหน้า หากสามารถขยายสาขาได้เพิ่มเป็น 6-7 แห่ง จะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ใช้งบประมาณ 5% ของยอดขายรวม ขณะที่ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 2 ล้านบาทต่อสาขา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาพรวมตลาดร้านอาหารในช่วงไตรมาสแรกจะมีอัตราการเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ลดลงประมาณ 10-20% แต่บริษัทยังมีการเติบโตที่ดี โดยมีการเติบโตประมาณ 28% และมีผลกำไรเติบโต 56% ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดเติบโตนั้นมาจากการเพิ่มเมนูใหม่ในธุรกิจในเครือ ทั้งโออิชิ ชาบูชิ รวมถึงสินค้าที่ขายผ่าน 7-11 ทั้งเกี๊ยวซ่า และแซนด์วิช

นายไพศาล กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น ในปีนี้บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจอินแอนด์เอาต์เบเกอรี่ เข้าสู่ 7-11 เพิ่มขึ้นจาก 60 สาขา เป็น 180 สาขา และจะเพิ่มเป็น 500 สาขาในปี 2553 ซึ่งปีนี้บริษัทใช้งบการรุกตลาดในสินค้าทุกแบรนด์รวมประมาณ 200 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้เติบโต 17%

 





อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ