“ภิญญดา สมุนไพร” เลือกสวยได้ตามใจคุณ 

 

นอกจากคุณแจน จะผลิตสินค้ามากมายกว่า 20 รายการ ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งใบหน้า เส้นผม ผิวพรรณ ซึ่งล้วนสกัดจากพืชสมุนไพรธรรมชาติ จนได้รับเครื่องหมายรับรอง จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. ที่สำคัญขณะนี้เธอบอกว่า ยินดีรับผลิตสินค้าตามคำสั่ง หรือOEM ตลอดจนตัวแทนจำหน่าย และแฟรนไชส์ เมื่อผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผม ส่งผลต่อบุคลิกภาพ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ทั้งชายและหญิงจะยอมจ่ายเงินไปกับสิ่งเหล่านี้มากมาย และทั้ง ๆ ที่รู้ ว่าถ้าเลือกใช้สารเคมีเป็นเวลานาน  ๆ จะก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง อาทิ ผมแห้ง ผมเสีย ผมร่วง ลุกลามกระทั่งศรีษะล้าน จนกลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบไปถึงความเชื่อมั่นทางจิตใจ และรูปลักษณ์ที่ตามมา


เฉกเช่นเดียวกับ คุณ ภิญญดา ภูริโภคิน  ผู้ที่เคยประสบปัญหาสภาพผมเสีย ผมแห้งแตกปลาย ผมร่วง  และผมหงอกก่อนวัยอันควร แต่วันนี้เธอหาหนทางแก้ไขได้ด้วยตนเองจนสำเร็จ และพร้อมที่จะพาบรรดาผู้ที่ประสบปัญหาเส้นผม ให้ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง ในแบบที่เธอเคยก้าวผ่านมาก่อน


จากปัญหาส่วนตัว กลายมาเป็นธุรกิจ

คุณภิญญดา หรือ คุณแจน ปัจจุบันอายุ 30 ปี เป็นเจ้าของร้านเสริมความงามครบวงจร ที่สามารถเลือกสวยได้ตั้งแต่เส้นผมไปจรดปลายเท้า สำหรับประวัติของคุณแจนนั้น จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นเซลล์บริษัทแห่งหนึ่ง ด้วยความที่อยากมีกิจการส่วนตัว เธอจึงลาออกมาเปิดร้านเสริมสวย กระทั่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักในนามภิญญดา สมุนไพร


“เมื่อเรียนจบ ก็เข้าทำงานตามแบบฉบับนักศึกษาทั่วไป แต่ด้วยความไม่ชอบงานขาย จึงตัดสินใจนำเงินเก็บหลายหมื่นบาท ไปเปิดกิจการที่เกี่ยวกับความสวย ความงาม ตามที่ใฝ่ฝันไว้ จากนั้นประสบความสำเร็จด้วยดีมาตลอด” ร้านเสริมสวยที่เกิดจากใจรักของหญิงสาวดังกล่าว ก่อตั้งขึ้นปี 2547 บริเวณที่พักอาศัยย่านพระราม 2 พร้อมกันนั้นยังมีพนักงานในร้านอีก 3 คน สำหรับบริการจะเหมือนกับร้านเสริมสวยทั่วไป อาทิ ตัดผม ยืดผม ย้อมสีผม ทำเล็บ ขัดผิว นวดหน้า นวดตัว นวดเท้า สปา ฯลฯ  แต่ด้วยฐานะเจ้าของร้านที่ต้องดูดีอยู่เสมอ ทำให้คุณแจนเอาใส่ใจบุคลิกภาพ โดยเฉพาะเส้นผมมากเป็นพิเศษ 


“ส่วนตัวชอบทำไฮไลท์ และย้อมสีผม สาเหตุเพราะมีปัญหาผมขาวตั้งแต่อายุ 14 ปี พอมาเป็นเจ้าของร้านเสริมสวย ยิ่งต้องดูดีเป็นสองเท่า ฉะนั้นเส้นผมเลยยิ่งแห้งเสีย เปราะบาง นานวันเกิดปัญหารุนแรงถึงขั้นผมร่วง จุดนี้เลยเริ่มมองหาตัวช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผม” คุณแจน ระบุถึงปัญหาที่พบ และอธิบายเพิ่มเติมว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าสารเคมียิ่งใช้ ยิ่งมีแต่ผลเสีย ดังนั้นจะลองหันมาพึ่งสมุนไพรไทยแทน  


เมื่อปัญหาผมร่วง สร้างความหนักใจให้คุณแจนแทบทนไม่ไหว เธอระบุว่า ช่วงเวลานั้นเสาะแสวงหาวิธีฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมทุกวิถีทาง แต่จะหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีทุกชนิด จนในที่สุดได้มาพบผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม และหันมาศึกษาสมุนไพรไทยอย่างจริงจัง “แม่สามีแนะนำให้รู้จักกับอาจารย์ท่านหนึ่ง อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ แม้ท่านจะอายุมากถึง 70 ปี  แต่น่าอัศจรรย์ที่สุขภาพผมดีมาก ทั้งสลวย ดกดำ และเงางาม จากการสอบถามเคล็ดลับ ได้ความว่า ท่านเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพรมาตลอด” 

จากการที่มีผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาเป็นที่ปรึกษา รวมถึงถ่ายทอดสรรพคุณสมุนไพรให้ คุณแจน ระบุว่า ช่วยสร้างความเชื่อมั่น และกล้าที่จะศึกษา ค้นคว้าสมุนไพรอย่างจริงจัง กระทั่งสามารถนำความรู้มาใช้ทำผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาเส้นผมวางจำหน่าย   “ตักตวงวิชาความรู้ด้านสมุนไพรจากผู้เชี่ยวชาญเส้นผมอยู่พักใหญ่ จากนั้นทดลองทำผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแล รักษาเส้นผมนานกว่าครึ่งปี แจกจ่ายคนในครอบครัว และญาติสนิทให้ทดลองใช้ กระทั่งแน่ใจว่า มีคุณสมบัติที่ดีพร้อม สุดท้ายเลยตัดสินใจวางจำหน่าย”

ขยายสาขา แล้วรุ่ง เผยที่มาอาการผมร่วง

สมุนไพรที่ผ่านการทดลองใช้ และการันตีคุณภาพ จากคนใกล้ตัว ถูกนำมาวางจำหน่ายภายในร้าน แต่ทว่ากลับไม่ได้การยอมรับเท่าที่ควร  สาเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เจ้าของร้านตอบว่า ด้วยราคาที่สูง อีกทั้งทำเลดังกล่าวเป็นย่านคนงาน เลยทำให้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร จำหน่ายไม่ได้ตามป้าหมายที่วางไว้ ด้วยเหตุนี้จึงคิดขยายสาขา “สมุนไพรที่วางจำหน่ายช่วงแรก มีสรรพคุณรักษาอาการผมร่วง และปิดผมขาว แต่เนื่องจากราคาค่าบริการต่อครั้งค่อนข้างสูงเฉลี่ย 400 – 500 บาท อีกทั้งทำเลย่านพระราม 2 ส่วนใหญ่เป็นคนงาน กำลังซื้อน้อย เลยไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่มีบางส่วนที่ยอมรับ และกลายเป็นลูกค้าประจำ”

เมื่อราคาสินค้าไม่สอดรับกับเงินในกระเป๋าลูกค้า แต่ขณะเดียวกันก็มีส่วนหนึ่งยอมรับ ดังนั้นคุณแจน เลยใช้วิธีแยกไปเปิดอีกสาขา แถวถนนประชาอุทิศ และครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า เพราะเวลาเพียง 1 เดือน ทำกำไรสูงถึง 40,000 บาท “หากอยู่ทำเลเดิมต่อไป ยอดขายคงไม่ขยับเขยื่อน ในปี 2549 เลยเสี่ยงไปเปิดอีกหนึ่งสาขา สำหรับสาเหตุที่เลือกละแวกประชาอุทิศ เนื่องจากตอนมาสำรวจ บริเวณดังกล่าวไม่มีร้านให้บริการด้านเส้นผม อีกทั้งอยู่ละแวกชุมชน และตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าจัสโก้ สาขาประชาอุทิศ” คุณแจนว่าอย่างนั้น  


สำหรับสาขาที่ 2 คุณแจนจะเน้นให้บริการรักษาผมร่วง และปิดผมขาวโดยเฉพาะ และช่วงแรกของการประชาสัมพันธ์กิจการ เธอใช้วิธีแจกใบปลิว ประกอบกับจัดทำเว็บไซต์ ซึ่งผลตอบรับกลับมาดีเกินคาด เนื่องจากระยะเวลาภายใน 1 เดือน สามารถสร้างกำไรให้คุณแจนสูงถึง 40,000 บาท “รู้สึกโชคดีมาก ที่ลูกค้าให้การยอมรับ และบอกต่อ เลยทำให้มีกำลังใจสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพต่อไป”

ถามถึงรายละเอียดการรักษาอาการผมร่วง และวิธีปกปิดผมขาว เจ้าของร้าน ระบุว่า ครั้งแรกจะเช็คสภาพหนังศรีษะว่า สาเหตุผมร่วงเกิดจากสิ่งใด จากนั้นจะหมักสมุนไพรชนิดหนึ่งที่คิดค้นขึ้นเป็นพิเศษ ให้ความรู้สึกเย็น ทั่วศรีษะประมาณ 30 – 40 นาที หลังจากนั้นลูกค้าสามารถกลับบ้านได้ แต่ห้ามล้างออก ให้คง

สภาพนั้นไว้ ต่อเนื่องไปอีก 5 ชั่วโมง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากอยากเห็นผลเร็ว ควรใช้คู่กับแชมพูสมุนไพร ทำเช่นนี้ซ้ำ 12 ครั้ง หนังศรีษะจะเริ่มมีเส้นผมใหม่งอกออกมา ส่วนผมขาว ทางร้านจะใช้ผงสมุนไพรผสมกับน้ำ แล้วป้ายให้ทั่วหนังศรีษะ ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงจากนั้นเส้นผมจะดำเงาขึ้น แต่ควรทำซ้ำทุก ๆ 1 เดือน 
ถึงตรงนี้ คุณแจนช่วยไขข้อข้องใจพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผมร่วงมีหลายประการ อาทิ สระผมทุกวัน ไม่เช็ดผมไม่แห้ง เข้าร้านทำผมที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้สารเคมีบ่อยครั้ง และพันธุกรรม “การสระผมทุกวัน แชมพูจะไปกระตุ้นต่อมน้ำมัน ทำให้ผลิตน้ำมันออกมามาก ฉะนั้นเมื่อหนังศรีษะมัน จะยิ่งสระผมบ่อยครั้ง การทำเช่นนี้สารเมีจากแชมพูจะเกิดการสะสม ส่วนการปล่อยให้เส้นผมหรือหนังศรีษะชื้น ตรงนี้จะเกิดเชื้อรา ทำให้มีอาการคัน บางรายเกาจนหนังศรีษะถลอก หรือแม้กระทั่งการเข้าร้านทำผมที่ใช้สินค้าไม่มีคุณภาพจะส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนัง”      
 

สำหรับเงินลงทุน และอุปกรณ์ที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับ นั่นคือ ชุดเก้าอี้ + กระจก  2 ชุด เตียงสระผม  1 ตัว ไดร์เป่าผม 1 ตัว รถเข็นใส่อุปกรณ์ทำผม 1 ชุด ทั้งหมดในราคา 25,000 บาท ซึ่งคุณภิญญดา ระบุว่า หากตั้งใจบริหารร้านอย่างจริงจัง ประกอบอยู่ในทำเลดี ย่านคนมีกำลังซื้อ เวลาไม่นานก็สามารถคืนทุน “หากสนใจเปิดร้านเสริมสวย ควรมีเงินลงทุนอย่างน้อย 60,000 บาท แม้ตัวเลขดังกล่าวจะดูสูง แต่กำไรย่อมสูงตามไปด้วย อีกทั้งร้านเสริมสวยเฉพาะทางแบบนี้ หายาก คิดว่าน่าจะได้การตอบรับที่ดี”


ในส่วนของปัญหา และอุปสรรคการดำเนินธุรกิจความสวย ความงาม คุณภิญญดา ย้ำว่า สิ่งสำคัญ เจ้าของร้านต้องรู้สรรพคุณสมุนไพรอย่างละเอียดลึกซึ้ง และสามารถนำไปถ่ายทอดให้ลูกค้าทราบได้ ตรงนี้นอกจากจะช่วยสร้างความเชื่อถือให้กับร้าน ยังเป็นการเผยแพร่ความรู้แก่ลูกค้า

หากใครสนใจร่วมธุรกิจ หรือถ้ายังลังเล เชิญปรึกษาคุณภิญญดาก่อนได้ ที่ 825 / 366 ซอยประชาอุทิศ 58 แขวง ทุ่งครุ กรุงเทพ ฯ เบอร์โทรศัพท์( 087) 1060 - 448 

เว็บไซต์ www.nicehairandface.com

ฝ่ายการตลาด ภิญญดาสมุนไพร และนิตยสารเส้นทางเศรษฐี