นายชัยสิทธิ์ สุทธิขจรกิจการกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรูไลฟ์สไตล์ รีเทล จำกัดผู้บริหารร้านกาแฟ "ทรูคอฟฟี่" กล่าวว่าปีนี้ทรูคอฟฟี่มีแผนรุกตลาดร้านกาแฟพรีเมี่ยม 8,000 ล้านบาทด้วยการเพิ่มความหลากหลายของเมนูอาหารในร้านให้มากขึ้นเสริมจากกลุ่มเครื่องดื่มที่มีเมนูเครื่องดื่มพิเศษต่าง ๆ หมุนเวียนอยู่เป็นระยะเพื่อรองรับความต้องการบริโภคในทุกช่วงเวลา โดยจะมีเมนูมื้อเช้า แซนด์วิชอาหารพร้อมทานในราคาเริ่มต้นที่ 69 บาท รวมทั้งเบเกอรี่ "ฮอกไกโด เบค"

 

พร้อมกันนี้ จะจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดต่อเนื่องอาทิ พัฒนาอาหาร เครื่องดื่ม มีโปรโมชั่นแนะนำเมนูใหม่ ฯลฯรวมทั้งต่อยอดแอปพลิเคชั่นของทรูคอฟฟี่พัฒนาระบบให้สามารถซื้อสินค้าภายในร้านโดยสามารถจ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟนได้ทันทีโดยทุกการใช้จ่ายผ่านแอป 25 บาท จะได้รับคะแนน 1 บีนพอยต์เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น รับเครื่องดื่มฟรี หรือกิจกรรมพิเศษอื่น ๆที่ทรูคอฟฟี่จัดขึ้น ย้ำภาพการนำเทคโนโลยีมาสร้างความแตกต่างให้กับร้านภายใต้กลยุทธ์"ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ คาเฟ่"
 

 

ด้วยแนวทางเหล่านี้คาดว่าจะช่วยให้ยอดขายของทรูคอฟฟี่เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 20%จากปีที่ผ่านมาทำยอดขายกว่า 530 ล้านบาท เติบโต 16% จากการขยายสาขาการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย กระตุ้นตลาดด้วยเมนูเครื่องดื่มพิเศษต่าง ๆรวมทั้งการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของทรูภายในร้านทรูคอฟฟี่

 

ซึ่งช่วงไตรมาส 3นี้มีแผนขยายผลไปในสาขาของทรูคอฟฟี่ให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่เริ่มนำร่อง 13สาขาแรก ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ ดิ เอ็มควอเทียร์, สยามสแควร์,เอ็มไพร์ ทาวเวอร์, บลูพอร์ท หัวหิน ฯลฯ ควบคู่กับการเปิดร้านใหม่อีก40 สาขา จากปัจจุบัน 234 สาขาทั่วประเทศ เน้นทำเลในอาคารสำนักงาน และมหาวิทยาลัยที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของทรูคอฟฟี่
 

 

ก่อนหน้านี้กลุ่มซีพี โดยซีพีออลล์ยังเปิดเกมรุกเพิ่มรายได้นอกเซเว่นฯผ่านธุรกิจร้านกาแฟ ภายใต้แบรนด์"มวลชน" กาแฟสร้างอาชีพ เพื่อสังคมและชุมชน บายซีพี รีเทลลิงค์และพรีเมี่ยมแบรนด์ "เบลลินี เบค แอนด์ บรู บาย ซีพีออลล์" (Belinee′s Bake&Brew) ซึ่งต่างเร่งสปีดสาขาเต็มที่
 

ปัจจุบันร้านกาแฟมวลชนมีกว่า 120 แห่ง ปีนี้มีเป้าหมายจะเปิด 1,000 สาขา โดยแฟรนไชส์มี 3แบบ คือ S, M, Lค่าแรกเข้าตั้งแต่ 5.5 หมื่นบาทถึงกว่า 1แสนบาท งบฯลงทุนอุปกรณ์และวัตถุดิบตั้งแต่ 4 แสนบาทถึงกว่า 3 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพัฒนาแบรนด์ใหม่ ๆโดยต้นปีนี้ได้เริ่มทดลองร้านกาแฟและเบเกอรี่แบรนด์ใหม่ที่มีความพรีเมี่ยมมากขึ้นจับกลุ่มลูกค้าบีบวกชื่อ "จังเกิ้ล คาเฟ่" (Junglecafe) สาขาแรกอยู่ที่ทรู ทาวเวอร์ รัชดา และ "อาราบิเทีย คาเฟ่" (Arabitia cafe) สาขาแรกอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งเปิดขายแฟรนไชส์ด้วย

 

สำหรับร้านกาแฟ "มวลชน"ดำเนินงานภายใต้การดูแลของซีพี รีเทลลิงค์ ซึ่งธุรกิจหลักเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์สำหรับร้านสะดวกซื้อภัตตาคาร โรงแรม ร้านกาแฟ อาทิ เครื่องจ่ายเครื่องดื่มร้อนและเย็น เครื่องชงกาแฟเครื่องเมล็ดกาแฟ เครื่องปั่นสมูทตี้ ฯลฯต่อมาได้พัฒนาโครงการกาแฟสร้างอาชีพเพื่อสังคมและชุมชนส่งเสริมสร้างอาชีพให้ผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจร้านกาแฟพร้อมพัฒนาร้านต้นแบบ"รีเทลลิงค์ คอฟฟี่" นอกจากนี้ยังเป็นผู้พัฒนามุมกาแฟ"ออลล์คาเฟ่" ในเซเว่นฯ
 

 

ขณะที่ "เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู" (Bellinee"s Bake&Brew By CPAll) เพิ่งเข้ามาในตลาดได้4 ปีภายใต้การดูแลของหน่วยงานคัดสรร ซึ่งเป็นมุมขายกาแฟ เครื่องดื่มและเบเกอรี่ในเซเว่นฯโดยตั้งแต่ปีที่แล้วได้หันมารุกขยายแฟรนไชส์มากขึ้น โดยวันพฤหัสบดีนี้ (23 ก.พ.)จะจัดสัมมนาแฟรนไชส์เป็นครั้งที่ 2ส่วนแผนลงทุนปี 2560จะเปิดร้านใหม่ 30สาขา จากปีก่อนเปิดไป 9สาขา ถึงสิ้นปีนี้มี 50สาขา ขณะที่มุมเครื่องดื่มและเบเกอรี่ "คัดสรร"ในร้านเซเว่นฯจะเปิดเพิ่มอีก 100จุด จากสิ้นปีก่อนมีประมาณ 400 จุด

 

ปัจจุบันร้านกาแฟมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท โต 4-7%แบ่งเป็นร้านกาแฟเครือข่าย 28% โต 6-9% กลุ่มน็อน-เชนโต3-6% โดยส่วนแบ่งตลาดร้านกาแฟระดับกลางเป็นตลาดใหญ่40% และโตต่อเนื่องเพราะคนไทยบริโภคกาแฟเฉลี่ย 200แก้วต่อคนต่อปีจึงยังมีโอกาสอีกมากโดยเฉพาะร้านกาแฟตามปั๊มน้ำมันและต่างจังหวัด

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ

ขอบคุณรูปภาพจาก  facebook.com/bellinee