1.1K
7 มีนาคม 2560
อยากขายออนไลน์ต้องรีบ! สสว.อุ้มสินค้า SMEs 1 แสนรายการ ทะยานสู่ตลาดดิจิตอล

 
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัว "โครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ SMEs”

สสว.หนุนผู้ประกอบการขยายตลาดผ่าน E-commerce เปิดตัวโครงการ “SMEs Go Online” เติมความรู้ยุคดิจิตอล และนำสินค้าจากเอสเอ็มอีกว่า 1 แสนรายการส่งขายในตลาดนัดออนไลน์ชื่อดัง เช่น LAZADA, Weloveshopping และ TARAD.COM พร้อมช่วยโปรโมตให้เกิดผลสำเร็จขายได้จริง
       
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังงานแถลงข่าว “โครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ SMEs” ว่า ปัญหาสำคัญมากของเอสเอ็มอีไทยคือ ขาดช่องทางการขาย

ดังนั้น การขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์จะมาช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ทว่า เอสเอ็มอีที่จะขายสินค้าหรือบริการผ่านทาง E-commerce ให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในการทำตลาดออนไลน์ รวมถึงยังมีค่าใช้จ่ายเพื่อโปรโมตหรือประชาสัมพันธ์ให้สามารถขายสินค้าได้จริงอีกด้วย ประเด็นเหล่านี้เป็นข้อจำกัดของเอสเอ็มอี โดยเฉพาะรายจิ๋วๆ ที่จะประสบความสำเร็จในการทำตลาดออนไลน์
       
จากประเด็นดังกล่าว สสว.จึงได้จัดโครงการ E-commerce สำหรับเอสเอ็มอีขนาดย่อมขึ้นในปี 2560 ตั้งเป้าจะนำผู้ประกอบการกลุ่มนี้ จำนวน 65,000 ราย นำสินค้า/บริการไม่ต่ำกว่า 100,000 ผลิตภัณฑ์เข้าขายผ่านระบบออนไลน์ โดยมีขั้นตอนดังนี้คือ
       
ขั้นแรก สสว.จะจัดหาผู้เชี่ยวชาญฝึกอบรมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าใจวิธีการขายสินค้าในระบบ E-commerce และเข้าใจวิธีสร้าง Web page ของตนเองได้ โดยการฝึกอบรมผู้ประกอบการในเขต กทม.จะทำร่วมกับสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล กระทรวงพาณิชย์

ขั้นต่อมาคือ สสว.หาผู้เชี่ยวชาญถ่ายภาพสินค้าและช่วยเขียนคำบรรยายให้โดนใจผู้ซื้อ แล้วจึงนำสินค้าขึ้นขายผ่าน website หรือ market place ซึ่งเป็นที่นิยม เช่น LAZADA, Weloveshopping และ TARAD.COM เป็นต้น อีกทั้งช่วยทำการโปรโมตในรอบแรกเพื่อให้สินค้าสามารถขายได้จริง
       
“เอสเอ็มอีที่เข้าโครงการนี้จะไม่ต้องแบกรับภาระส่งเสริมการตลาดก่อนที่จะขายสินค้าได้จริง และเพื่อให้การโปรโมตทำได้ง่าย สสว.จะรวบรวมผลิตภัณฑ์ในโครงการของ สสว.ทั้งหมดไว้ภายใต้ชื่อเว็บ “SMEs Go Online” โดยชั้นต้นนั้นจะมุ่งเน้นการขายในประเทศก่อน เพราะเอสเอ็มอีขนาดย่อมยังไม่พร้อมที่จะขายสินค้าไปต่างประเทศ ยกเว้นจะขายปลีกจำนวนน้อยในลักษณะ B to C (Business to Consumer)” ผอ.สสว.กล่าว
       
ทั้งนี้ เนื่องจากสินค้าที่จะเข้าสู่ระบบมีจำนวนมากถึง 1 แสนผลิตภัณฑ์ สสว.จึงแบ่งโครงการออกเป็น 3 เฟส ได้แก่ เฟสแรกจะดำเนินการร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมุ่งเน้นผู้ประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนเพราะมีความพร้อมมากที่สุด ซึ่งในเบื้องต้นนี้มีเอสเอ็มอีสมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว 1,000 ราย จำนวน 9,578 ผลิตภัณฑ์ จากนั้นจะขยายโครงการในเฟสที่ 2 และ 3 ตามลำดับ โดยกระจายการให้บริการสู่เอสเอ็มอีในระดับท้องถิ่น
       
นอกจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในโครงการดังกล่าวแล้ว สสว.จะนำร้านประชารัฐสุขใจ ซึ่งขายสินค้าของวิสาหกิจชุมชนมีอยู่ 143 ร้านในทุกจังหวัด เข้าสู่ระบบ E-commerce ภายใต้ชื่อเว็บ “SMEs Go Online by ประชารัฐ” สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจจะนำสินค้าเข้าสู่ระบบ E-commerce ในโครงการนี้ สมัครได้ที่เว็บไซต์ http://www.sme.go.th หรือ โทร. 1301

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
5,493
PLAY Q by CST bright u..
1,065
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
940
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
931
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
783
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
755
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด