7.4K
4 พฤษภาคม 2552

"ไอ-โมบาย"ปรับแผนรุกโมเดิร์นเทรด


"ไอ-โมบาย" ปรับแผนช่องทางจำหน่าย รุกหนัก "โมเดิร์นเทรด" ชูกลยุทธ์ "เอ็กคลูซีฟโมเดล" ขายยกลอตให้โลตัส-บิ๊กซี-คาร์ฟูร์ หวังโกยยอดขายเพิ่ม พร้อมเปิดบริการขายมือถือดีลิเวอรี่ส่งตรงถึงบ้าน วางแผนปูพรมสินค้า 30 รุ่นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกลยุทธ์ใหม่เน้นเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม หวังดันมาร์จิ้น หลบปัญหาตัดราคารุนแรง ตั้งเป้ายอดขายทั่วโลก 5 ล้านเครื่อง
 



นายธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันสัดส่วนการขายมือถือไอ-โมบายจะเป็นการขายผ่านไอ-โมบายช็อป และร้านแฟรนไชส์ 20% โมเดิร์นเทรด 20% นอกจากนั้นมาจากร้านดีลเลอร์ทั่วไป แต่ในปีนี้จะเพิ่มสัดส่วนการขายในช่องทางโมเดิร์นเทรด อย่างโลตัส บิ๊กซี และคาร์ฟูร์มากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่ขายสินค้าได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ และมีการซื้อสินค้าเป็นลอตใหญ่ทำให้มียอดขายเป็นจำนวนมากๆ โดยมือถือที่จำหน่ายในโมเดิร์นเทรดแต่ละแห่งจะมีความแตกต่างกัน เป็นสินค้าคนละรุ่น เช่น โลตัสจะเน้นสินค้าราคาถูก แต่คาร์ฟูร์จะมีราคาสูงกว่า เป็นต้น

"ปีนี้ ไอ-โมบายจะเปิดตัวมือถือใหม่ 25-30 รุ่น จากปีที่ผ่านมาไม่ถึง 20 รุ่น โดยเน้นมือถือดูทีวี และมือถือ 2 ซิม ประมาณ 70-80% เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น ถือว่าเป็นการเปิดตัวมือถือมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมกับการปรับกลยุทธ์การทำตลาด จากเดิมที่มีจำนวนรุ่นน้อย เน้นยอดขายในเชิงปริมาณ ครั้งนี้รุ่นเยอะขึ้น แต่บางรุ่นจะทำตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือทำตลาดบางประเทศเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้ราคาสินค้าไม่ลงแรง ดึงมาร์จิ้นต่อเครื่องให้สูงขึ้น คู่ค้ามีกำไรมากขึ้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 5 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 2.7 ล้านเครื่อง และต่างประเทศ 2.3 ล้านเครื่อง"
 

ล่าสุด ไอ-โมบายเปิดตัวมือถือ 8 รุ่น ทั้งมือถือ 2 ซิม 2 ระบบ คือ CDMA และ GSM, มือถือ 2 ซิม คุยพร้อมกันได้ 2 สาย และมือถือทัชสกรีน ราคาตั้งแต่ 1-5 พันบาท เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น

นายธนานันท์กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดมือถือปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตในแง่จำนวนเครื่องไม่มาก เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คาดว่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 9 ล้านเครื่อง โดยราคาเฉลี่ยของตลาดอยู่ที่ประมาณ 2-3 พันบาท และสินค้าราคาต่ำกว่า 3 พันบาท ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม มีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 70-80% เพราะปัจจัยด้านเศรษฐกิจและฟีเจอร์สินค้าดีขึ้นในราคาถูกลง

สำหรับไตรมาสแรก บริษัทมียอดขายในไทยประมาณ 2-3 แสนเครื่องต่อเดือน ราคาสินค้าที่ขายดี ประมาณ 2.5-3.5 พันบาท แต่คาดว่าไตรมาส 2 จะดีขึ้น เพราะมีสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ปัจจุบันไอ-โมบายมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 27-30%
 

ด้านนายจง ดิลกสมบัติ กรรมการผู้อำนวยการบริษัทเดียวกัน กล่าวว่า ขณะนี้ไอ-โมบายขยายเข้าไปในตลาดโมเดิร์นเทรดมากขึ้น เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคปัจจุบันนิยมซื้อสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรด โดยปัจจุบันอยู่ในช่วงการประสานงาน จัดตารางสินค้าที่เหมาะสม ขณะเดียวกันจะมีโมเดลรุ่นพิเศษ หรือเอ็กคลูซีฟโมเดลสำหรับแต่ละโมเดิร์นเทรดด้วย โดยคาดว่าช่องทางนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับไอ-โมบายมากขึ้น

และปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทำโปรโมชั่นผ่านทางแค็ตตาล็อกร่วมกับองค์กรหลายแห่ง เช่น ธนาคารกรุงไทย เช่น ผ่อน 0% หรือการซื้อสินค้าผ่าน 7-11 แค็ตตาล็อก เป็นต้น เพื่อเป็นการขยายช่องทางจำหน่ายให้มากขึ้น
 

"ปีนี้จะเห็นจำนวนรุ่นของไอ-โมบายอยู่ในโมเดิร์นเทรดมากขึ้น จากเดิมไอ-โมบายใช้ลักษณะการฝากขาย มีพนักงานขายของเรา เมื่อขายได้แบ่งกำไรกับโมเดิร์นเทรดนั้น แต่ต่อไปจะดีลตรง เป็นการขายยกลอตให้กับโมเดิร์นเทรดแต่ละแห่ง จุดเด่นด้านราคา เพราะการขายสินค้าเป็นวอลุ่มทำให้สามารถทำราคาได้ดี พร้อมกับมีการทำกิจกรรมร่วมกัน" นายจงกล่าวและว่า

เดือนที่ผ่านมา ไอ-โมบายได้เปิดบริการสั่งซื้อมือถือผ่านคอลเซ็นเตอร์ 02-975-5555 เพื่อเพิ่มช่องทางขายและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า แม้ว่าลูกค้าจะสั่งเพียง 1 เครื่อง โดยลูกค้ามีสิทธิเลือกที่จะไปรับเครื่องที่ร้านตัวแทนจำหน่าย หรือบริการส่งถึงที่ได้
 

ทั้งนี้ ปัจจุบันไอ-โมบายมีจุดขายหน้าร้านประมาณ 3,000 แห่ง จากทั้งหมด ทั่วประเทศประมาณ 5,000 แห่ง แบ่งเป็นร้านไอ-โมบาย บาย สามารถ 80 แห่ง แฟรนไชส์ประมาณ 100 แห่ง และร้านค้าตัวแทนจำหน่าย รวมถึงโมเดิร์นเทรด

ขณะที่นายทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ-โมบาย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายมือถือในตลาดต่างประเทศ 1.2 ล้านเครื่อง จาก 7 ประเทศ โดยปีนี้จะรุกหนักประเทศอินเดียและอินโดนีเซียมากขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นประเทศที่มียอดขายมากที่สุดแล้ว ยังมีโอกาสทางการตลาดสูง เพราะจำนวนประชากรที่มีมาก สัดส่วนประชากรที่มีมือถือยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ และไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมากนัก

นอกจากนี้ มีแผนขยายไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยจะเปิดสำนักงานที่ดูไบ เพื่อเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาค เช่น อิยิปต์ อิหร่าน และแอฟริกาใต้ เป็นต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.นี้ รวมถึงบริษัทผู้ผลิตไอ-โมบายได้ขยายโรงงานผลิตไปตั้งที่บราซิล ทำให้ไอ-โมบายมีความได้เปรียบเรื่องต้นทุนในการผลิตและการจัดส่งสินค้าด้วย โดยปีนี้จะใช้งบฯในการลงทุนขยายตลาดต่างประเทศประมาณ 7-8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ














อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ

 

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด..
906
สตาร์แมท จินตคณิต เตรี..
836
งาน มอบรางวัลธุรกิจแฟร..
688
YONNY ปลาต้มผักกาดดอง ..
563
ฮิปสเตอร์ สเต็ก เปิดสา..
561
ธงไชยผัดไทย พร้อมให้บร..
559
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด