นายพงศ์ ศกุนตนาค รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าวว่า ตลาดร้านสะดวกซื้อยังมีช่องทางการเติบโตอีกมาก เพราะปัจจุบันลูกค้าให้ความสำคัญกับความสะดวก ความหลากหลาย และคุณภาพของสินค้าในการบริโภคควบคู่กันไป

แฟมิลี่มาร์ทจึงเน้นการขยายสาขาให้เข้าถึงพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และหัวเมืองสำคัญ โดยภายในสิ้นปี 2559 คาดว่าจะเปิดสาขาใหม่รวมกว่า 60 สาขา ซึ่งปัจจุบันแฟมิลี่มาร์ทมีสาขารวมทั้งหมด 1,130 สาขา

 

นอกจากนี้ แฟมิลี่มาร์ทยังเปิดให้บริการในสถานีบริการเติมน้ำมัน รวมทั้งคอนโดมิเนียม และโรงพยาบาล ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้น โดยเฉพาะสาขาแฟมิลี่มาร์ทที่อยู่ในกลุ่มคอนโดมิเนียม

โดยบริษัทได้เลือกสินค้าที่มีความหลากหลายและแตกต่างกันตามความต้องการในแต่ละพื้นที่ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม สินค้าอาหารสดประเภทผักและผลไม้ เพื่อความสะดวกให้กับลูกค้าที่พักที่คอนโดฯและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเชื่อว่าจากแนวโน้มขนาดครอบครัวในปัจจุบันที่มีขนาดเล็กลง ลูกค้าจึงเน้นซื้อสินค้าในปริมาณที่จำเป็น 

 

"เราคิดว่าร้านสะดวกซื้อตามคอนโดฯตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้อย่างดี และเราจำเป็นต้องรักษามาตรฐานการบริการและสินค้า พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดแฟมิลี่มาร์ทได้เปิดสาขาใหม่ สาขาพลัมคอนโด ย่านรังสิต"

 

ทั้งนี้ แฟมิลี่มาร์ทมีเป้าหมายจะขยายร้านแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 40% ใน 5 ปีนี้ จากปัจจุบันมีร้านแฟรนไชส์ 172 สาขาทั่วประเทศ จาก 1,122 สาขา

โดยจะโฟกัสการขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล หัวเมืองสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวในหลายทำเล ทั้งในโรงพยาบาล คอนโดมิเนียม ออฟฟิศสำนักงาน และปั๊มน้ำมัน

โดยได้ขยายสาขาไปยังกลุ่มคอนโดฯ LPN, The Trust, AP และปลายเดือนพฤศจิกายนนี้จะเปิดอีก 1 สาขาที่ Plum Condo สำหรับปั๊มน้ำมัน ที่ผ่านมาได้ขยายสาขาในปั๊มเอสโซ่, คาลเท็กซ์ และมีแผนจะขยายอย่างต่อเนื่อง

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ