ภาพจาก goo.gl/DQjpLd

อุตฯ รองเท้าซบเซา ยอดขายทั้งในและต่างประเทศที่ไม่กระเตื้อง อ้างเป็นผลจากผู้ผลิตรายใหญ่แห่ย้าย รง.ไปเวียดนาม จับตาเอสเอ็มอีอาการหนัก ด้านตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าซบเซาต่อเนื่อง

 

นายธำรง ธิติประเสริฐ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า มีการคาดว่าอุตสาหกรรมรองเท้าปี 2559 จะเติบโตระดับ 0% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ซึ่งสะท้อนกับการส่งออกที่อุตสาหกรรมรองเท้าไทยต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่สูง และส่วนหนึ่งเกิดจากการมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านในช่วงที่ผ่านมา โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) หากไม่ปรับตัวก็จะอยู่ยาก

 

"เวลานี้จีนเป็นเบอร์ 1 และเวียดนามเป็นเบอร์ 2 โรง งานขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งมีการย้ายไปลงทุนเวียดนามในช่วง 2-3 ปีต่อเนื่อง ซึ่งเอสเอ็มอียอมรับว่าขณะนี้ลำบากมากในการแข่งขันกับจีน ซึ่งข้อเท็จจริงต้นทุนการผลิตจากจีนไม่ได้ถูกกว่า แต่จะได้ในแง่ของวอลุ่มที่มีการผลิตเยอะ แล้วต้นทุนต่ำ ทำให้สามารถนำบางส่วนมาขายตัดลดราคาได้ หากไม่ปรับตัวไปสู่สินค้าที่เป็นระดับสูงจะอยู่ยาก" นายธำรงกล่าว

 

นายชนินทร์ จิตโกมุท นายกสมาคมรองเท้าไทย กล่าวว่า  ยอดขายรองเท้าในประเทศปีนี้ลดลงไปกว่า 50% เป็นผลมาจากกำลังแรงซื้อที่ลดต่ำ และผลกระทบจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนจีนที่ลดลงจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ

ซึ่งที่ผ่านมาคนจีนถือว่ามีการซื้อสินค้าแฟชั่นค่อนข้างมากในไทย ขณะเดียวกันกลุ่มรองเท้ากีฬายอดส่งออกหายไป 90% เพราะโรงงานรับจ้างผลิตขนาดใหญ่ของไทยปิดกิจการเพราะแข่งเวียดนามไม่ได้" นายชนินทร์กล่าว

 

นายโทมัส อโลนโซ กรรม การผู้จัดการ บริษัท บีเอสเอช โฮม แอ็พพลายแอ็นซ์ จำกัด (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ ซีเมนส์ กาเกอนาว และบ๊อช

เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องไฟฟ้าของปีนี้ยังค่อนข้างซบเซา เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจไทยและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลงและยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งหากปีหน้าเกิดการเลือกตั้งขึ้น มองว่าลูกค้าจะรอดูสถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลให้ชะลอการจับจ่ายไปก่อน บริษัทจึงตั้งเป้าเติบโต 7.3% ต่ำกว่าปีนี้ซึ่งเติบโต 11%

 

สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะไม่เติบโต แต่บริษัทยังสามารถเติบโตได้ เนื่องจากจำหน่ายสินค้าจับกลุ่มระดับบน ซึ่งมีกำลังซื้อสูงไม่ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันการเติบโตจากงานโปรเจ็กต์ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลช่วงปลายปี คาดการณ์ว่าจะช่วยผลักดันให้ปีนี้บริษัทสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย

 

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจในปีหน้าบริษัทเตรียมใช้เงินลงทุน 9.1% ของยอดขาย เพื่อขยายตลาดออกต่างจังหวัด อาทิ เชียงราย อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น หนองคาย รวมทั้งในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาลาว มากขึ้น โดยใช้สินค้าภายใต้แบรนด์ซีเมนส์ กลุ่มเครื่องซักผ้า และแบรนด์บ๊อช ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นตัวทำตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มกำลังซื้อในต่างจังหวัดได้ง่าย.

 

อ้างอิงจาก ryt9.com