แฟรนไชส์คณิต 4 ปี 30 สาขา

 
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา อาจจะดูไม่หวือหวา แต่เป็นธุรกิจที่เรียกว่าเป็นน้ำซึมบ่อทราย ช้า แต่ชัวร์ ข้อพิสูจน์นี้ แฟรนไชส์ Mathnasium ขยาย 24 สาขาภายใน 3 ปี จากจุดเด่นในเรื่องของเงื่อนไขแฟรนไชส์ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างผลกำไรได้ในระยะยาว

แฟรนไชส์การศึกษา สามารถยืนหยัดอยู่ได้ในภาวะที่ผู้ปกครองมีเงินในกระเป๋าน้อยลง ในภาวะที่คนตกงาน และภาวะเดียวกันนี้ยังเป็นโอกาสของธุรกิจ
 

จุดเด่นจัดหลักสูตรรายบุคคล

อนุชา เข็มทอง กรรมการผู้จัดการบริษัท แมท จิม จำกัด กล่าวว่า ตนเองสนใจซื้อสิทธิในการเป็นมาสเตอร์ แฟรนไชส์ในไทยจากอเมริกา ตั้งแต่ปี 2006 จุดเด่นของแฟรนไชส์อยู่ที่รูปแบบการเรียนการสอนจะแตกต่างจากโรงเรียนกวดวิชาด้านคณิตศาสตร์รายอื่นๆ ตรงที่ ไม่เน้นในเรื่องทักษะในการคิดเลขเร็ว แต่จะเน้นไปที่การทำความเข้าใจโดยรวม เกี่ยวกับการเรียนคณิตศาสตร์ทั้งหมด โดยการให้นักเรียนฝึกคิดและทำแบบฝึกหัดตามโปรแกรมความอ่อนด้อยของเด็กแต่ละคน และฝึกฝนเฉพาะในเวลาที่เรียนเท่านั้น 
 

เด็กแต่ละคนจะมีแฟ้มการเรียนของตัวเอง มีเทรนเนอร์หรือครูที่จะอธิบายแต่ละบทเรียนเป็นรายคน โดยการวัดผลจากพฤติกรรม ก่อนสอนและหลังสอน รวมทั้งความเข้าใจและความมั่นใจในการตอบคำถาม

โดยหลักสูตรจะเริ่มเรียนตั้งแต่อนุบาลถึง ม.2 คิดค่าบริการเป็นระยะ 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน ตกเดือนละ 2,000-2,500 บาท 
 

ปรับสัญญายาว 9 ปี

เพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ซึ่งมีจุดอ่อนของธุรกิจคือความ ไม่หวือหวา ดังนั้นอนุชากล่าวว่า ตอนที่เข้ามาใหม่ๆ มีค่าแรกเข้าอยู่ที่ราวๆ 5 แสนกว่าบาท แต่ปลายปี 2007 ที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นตามเรตจริง คือ 680,000 บาท

"เราต้องรอให้แฟรนไชซีเกิดความมั่นใจก่อน เราถึงจะปรับตามเรตจริงตรงกับที่บริษัทแม่กำหนด"

นอกจากนี้ ยังมีการปรับในเรื่องของระยะเวลาของสัญญาที่ยาวขึ้น จาก 4 ปีเป็น 9 ปี เพราะหลังจากที่ทำไปสักระยะหนึ่งอนุชาก็พบว่า มันไม่คุ้ม และเพื่อป้องระบบที่อาจจะถูกการก๊อบปี้จากระยะเวลา ที่สั้นเกินไป

โดยปัจจุบันเงื่อนไขสัญญา

1. ค่า initial fee ค่าสิทธิแรกเข้า อายุสัญญา 9 ปี ราคา 680,000 บาท จะได้รับสิทธิในการดำเนินธุรกิจ 9 ปี
    
2. ค่า Royalty fee ค่าสิทธิดำเนินธุรกิจชำระ 20% ของรายได้รวมในแต่ละเดือน
   
3. สื่อการสอน ผู้ได้รับสิทธิจะต้องใช้อุปกรณ์ที่บริษัทจัดหามาให้เท่านั้น
   
4. ค่าก่อสร้างและตกแต่งสถานที่ ประมาณ 500,000 บาท (สำหรับพื้นที่ 100 ตร.ม.) ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ในช่วงรับส่งมอบพื้นที่ โดยพื้นที่ที่ใช้ในการเปิดสถาบันควรจะมีเนื้อที่อย่างน้อย 100 ตร.ม.

นอกจากนี้ทำเลที่ตั้ง อนุชาแนะนำว่า ส่วนใหญ่สาขาแฟรนไชส์ทั้ง 24 แห่งนั้นจะเปิดในห้างและคอมมิวนิตี้มอลล์ถึง 10 แห่ง และเปิดใกล้กับโรงเรียนเพียง 2 แห่ง เพราะห้างแม้ว่าค่าเช่าพื้นที่มีราคาแพง แต่ก็ไม่ต้องลงทุนในเรื่องค่าการตลาด ส่วนทำเลใกล้กับโรงเรียน เป็นเพราะใกล้กับกลุ่มเป้าหมายทำให้บางส่วนเลือกเปิดใกล้กับโรงเรียน

ที่ผ่านมาบางสาขาที่เปิดแล้วและใช้ระยะเวลาคืนทุนเร็วที่สุดไม่ถึง 1-1.5 ปี 
 

โอกาสของเถ้าแก่

อนุชากล่าวว่าที่ผ่านมา คนที่ประสบความสำเร็จ มักจะมาจากความเป็นคนกล้าเสี่ยงและมองทำเลเก่ง และเข้าใจธุรกิจการศึกษาได้คี คือมีความโดดเด่นในเรื่องการถ่ายทอด ทำให้สาขาเดอะคริสตัลเลียบใต้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เป็นสาขาที่ ประสบความเร็จมากที่สุดในเวลาเพียงปีเดียว

สำหรับโอกาสของ มาสเตอร์แฟรนไชส์มี 2 ทางก็คือ ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี อนุชามองว่าผู้ปกครองจะประหยัดลงทุนและตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น แต่สำหรับเรื่องการเรียนของลูก จะยังคงมีความจำเป็นสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองเสมอ ในขณะที่คนบางส่วน เบื่อหน่ายกับการทำงานประจำ และต้องการมีเวลาให้กับตนเองมากขึ้น รวมทั้งคนที่ ต้องการทำธุรกิจส่วนตัว ทำให้เชื่อว่าในปีนี้สามารถที่จะขยายสาขาแฟรนไชส์ได้อีก 6 สาขา จากเดิม 24 สาขา

โดยสาขาที่จะเปิดใหม่ในเร็วๆ นี้ 2 สาขาคือ สาขาเยาวราช อาคารฮั้วเซ่งเฮง 2 ถนนมังกร

ที่มา : ฝ่ายการตลาด แมทเนเซียม และหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับ วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2552