2.0K
24 มิถุนายน 2559
มัลลิการ์อินเตอร์ฟู้ด บุกไทย-เทศ โฟกัสสาขาแฟรนไชส์/เปิดแบรนด์ใหม่เพิ่มลูกค้า

 
มัลลิการ์ฯ รุกหนักแฟรนไชส์ร้านอาหาร ตั้งบริษัทใหม่สปีดสาขาไทย-ต่างประเทศ พร้อมผุดแบรนด์ "คุ้มกะตังค์" ขยายฐานลูกค้าวัยทำงาน เดินหน้าพัฒนาโลจิสติกส์รองรับสาขาต่างจังหวัด ซุ่มเจรจาพาร์ตเนอร์สิงคโปร์-ฟิลิปปินส์บุกต่างประเทศ
 
นายชยพล หลีระพันธ์ กรรมการบริหาร บริษัท มัลลิการ์ อินเตอร์ฟู้ด จำกัดผู้บริหารร้านอาหาร อ.มัลลิการ์, เย็นตาโฟเครื่องทรง ฯลฯ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทมุ่งขยายธุรกิจรูปแบบแฟรนไชส์มากขึ้น เพื่อขยายสาขารวดเร็ว

ตั้งเป้าสัดส่วนสาขาร้านแฟรนไชส์ในอนาคตไว้ที่ 50% หลังจากปลายปีที่ผ่านมาได้ตั้งบริษัท มัลลิการ์ แฟรนไชส์ จำกัด เพื่อดูแลการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งในและต่างประเทศ และเริ่มขยายสาขาร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงในรูปแบบแฟรนไชส์ที่สนามบินดอนเมือง
 
 
เบื้องต้นขายแฟรนไชส์ร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงค่าแฟรนไชส์6แสนบาท รอยัลตี้ฟี 4% ค่าการตลาด 3% ของยอดขายต่อเดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาผู้สนใจรายอื่น ๆ เพิ่มเติมจากปัจจุบันให้สิทธิ์บริษัท ซีเล็คเซอร์วิสพาร์ทเนอร์ จำกัด

บริษัทร่วมทุน 51% ของไมเนอร์และเพื่อเพิ่มโอกาสขยายแฟรนไชส์จึงได้พัฒนาแบรนด์ "คุ้มกะตังค์" ร้านอาหารจานเดียวเจาะกลุ่มวัยทำงานในราคา 59 บาททุกเมนู ซึ่งใช้เงินลงทุนต่อสาขาประมาณ 2.5 ล้านบาท ต่ำกว่าร้านเย็นตาโฟ เตรียมลงทุนเปิดสาขาแรกในปั๊ม ปตท. ถนนแจ้งวัฒนะ ตรงข้ามศูนย์ราชการในกรกฎาคมนี้
 
"คุ้มกะตังค์ขยายฐานลูกค้ากลุ่มแมสและเด็กลง อาทิ วัยทำงาน จากปัจจุบันกลุ่มลูกค้าร้านอาหารในเครือเป็นลูกค้าระดับกลาง-บน และผู้ใหญ่"
 
นายชยพลกล่าวว่า ครึ่งปีหลังจะเปิดสาขาใหม่อีก 3 แห่ง เป็นร้านเย็นตาโฟเครื่องทรง 2 สาขา และคุ้มกะตังค์ 1 สาขา หลังเปิดไปเมื่อต้นปีแล้ว 3 สาขา ภายใต้งบฯกว่า 50 ล้านบาท โดยร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงได้เพิ่มเมนูเย็นตาโฟหม้อไฟในบางสาขาตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา และเตรียมขยายไปยังสาขาชานเมืองเพื่อขยายฐานลูกค้าครอบครัว
 

ส่วนร้านเรือนมัลลิการ์ที่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวลดลง ได้หันมาติดต่อบริษัททัวร์หรือลูกค้าองค์กรให้เข้ามาใช้บริการโดยตรง ควบคู่สร้างการรับรู้ผ่านรายการอาหารทางโทรทัศน์หรือนิตยสาร พร้อมสื่อสารผ่านออนไลน์มากขึ้นทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และไลน์ เพื่อแนะนำเมนูหรือโปรโมชั่น
 
"มีแผนเปิดสาขาต่างจังหวัดมากขึ้น โดยมีเย็นตาโฟเครื่องทรงเป็นแบรนด์หลัก พร้อมทำกิจกรรมต่อเนื่องและมีโปรโมชั่น เมนูใหม่ทุกเดือน รวมทั้งร่วมกับแอปพลิเคชั่นจองร้านอาหารอีททิโก (eatigo) หรือเว็บดีลเอ็นโซโก้ ช่วยดึงทราฟฟิกในร้านให้เพิ่มขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง"
 
 
ส่วนธุรกิจแคเทอริ่งยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามงานจัดเลี้ยงที่เพิ่มขึ้นและอยู่ระหว่างเจรจาสายการบินใหม่ๆ เพื่อให้บริการอาหารไทยระหว่างเที่ยวบิน จากปัจจุบันจับมือสายการบินไหหนานของจีน

ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต บริษัทจึงพัฒนาระบบหลังบ้านและเพิ่มความแข็งแรงของระบบโลจิสติกส์ ด้วยการเพิ่มหน่วยรถ 6 ล้อสำหรับขนส่งสินค้า รองรับร้านสาขาในภาคอีสาน รวมทั้งพัฒนามาตรฐานโรงงานผลิตอาหาร-เครื่องดื่ม วัตถุดิบ ย่านเกษตรนวมินทร์ต่อเนื่อง ซึ่งรองรับได้กว่า 50 สาขา จากปัจจุบันมีร้านอาหารในเครือทั้งสิ้น 33 สาขา
 
สำหรับต่างประเทศช่วง 3-5 ปีจากนี้มีแผนขยายสาขาด้วยรูปแบบแฟรนไชส์ ขณะนี้มีนักลงทุนสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ให้ความสนใจ จากเดิมร่วมทุนพาร์ตเนอร์เปิดร้าน อ.มัลลิการ์และเย็นตาโฟเครื่องทรงที่ลาว
 
"เศรษฐกิจดีกว่าปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าปีนี้น่าจะทำรายได้กว่า 300 ล้านบาท"

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ

ขอบคุณรูปภาพจาก  https://goo.gl/92k6Ww
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,146
PLAY Q by CST bright u..
1,318
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
942
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
792
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด