|
|
15 มีนาคม 2559 |
วุฒิศักดิ์ เล็งเข้าตลาดปีนี้ พร้อมต่อยอดธุรกิจความงามครบวงจร
นายอภิพร ภาษวัธน์ ประธานกรรมการ บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงนามแต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) เพื่อเตรียมความพร้อมในการนำ บริษัท ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง จำกัด
ซึ่งถือหุ้นในบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีความตั้งใจที่จะนำเข้าจดทะเบียนภายในปี 2559 มีวัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจให้บริษัทเติบโตได้เต็มศักยภาพและปรับโครงสร้างการเงินให้แข็งแกร่ง
นอกจากนี้มีการพัฒนาการให้บริการเพื่อให้มีคุณภาพทัดเทียมระดับสากล โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI หรือ The Joint Commission International (JCI) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยในการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยให้กับสถานพยาบาลต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น บริษัทได้เพิ่มโอกาสทางการตลาด โดยขยายธุรกิจเข้าสู่ผลิตภัณฑ์คอสเมติก ในผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (non colors) และเครื่องสำอาง (colors) โดยพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้นและหลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์ จนไปถึง ร้านค้า modern trade เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจด้านนี้เติบโตและไม่จำกัดอยู่เพียงการทำทรีตเม้นท์ในคลินิกเท่านั้น
บริษัทมีการจัดตั้งคณะกรรมการแพทย์ เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความงามชนิดใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด เช่น ผลิตภัณฑ์ครีมหอยทากสยามสเนล จากเมือกหอยทากไทย และ Polypeptide เพื่อชะลอความแก่ หรือทำให้ผิวสวยอ่อนเยาว์ เป็นต้น
ในด้านของการพัฒนาคุณภาพบริการ บริษัทได้จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเพื่ออบรมแพทย์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้บริการลูกค้าได้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ และมีการพัฒนาองค์ความรู้ของพนักงานให้ทันสมัยและกระจายอย่างทั่วถึงทั้งองค์กร รวมถึงการจัดโปรแกรมให้อาจารย์แพทย์จากโรงเรียนแพทย์ที่มีชื่อเสียง มาช่วยฝึกอบรมแพทย์ของวุฒิศักดิ์ คลินิก และมีนโยบายส่งแพทย์ไปอบรมหรือดูงานจากต่างประเทศเพื่อนำมาพัฒนาและฝึกอบรมแพทย์รุ่นต่อ ๆ ไป
ขณะเดียวกันบริษัทมีการตอบรับการเข้าสู่ระบบการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยปรับกลยุทธการขยายการลงทุนต่างประเทศให้เหมาะสมกับโอกาสทางการตลาดมากยิ่งขึ้น โดยปรับวิธีการขยายธุรกิจในต่างประเทศ จากระบบแฟรนไชส์ franchising model เป็น ระบบการร่วมทุน joint venture model ซึ่งจะทำให้บริษัทมีบทบาทอย่างเต็มที่ในการพัฒนาและบริหาร JV ให้มีศักยภาพต่อไปในอนาคต
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|