สตาร์บักส์เปิดตัว“เมฆาแดนใต้” กาแฟยี่ห้อใหม่ปลูกในจีน

สตาร์บักส์ บริษัทขายกาแฟระดับโลกเปิดตัวกาแฟยี่ห้อใหม่ ซึ่งปลูกด้วยมือเกษตรในมณฑลหยุนหนัน ตั้งเป้าจำหน่ายทุกสาขาทั่วโลก หวังสร้างคุณภาพและชื่อเสียงสูงส่งระดับเดียวกับชาจีน
นายมาร์ติน โคลส์ ประธานสตาร์บักส์ คอฟฟี่ อันเตอร์เนชั่นแนลระบุว่า กาแฟยี่ห้อใหม่เป็นผลงานการคิดค้นร่วมกันระหว่างบริษัทสตาร์บักส์กับเจ้าหน้าที่และเกษตรกรในมณฑลหยุนหนัน (ยูนาน) ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเวียดนาม,ลาว และพม่า
“ความปรารถนาสูงสุดก็คือผมอยากเห็นกาแฟของเราจากดินแดนจีนวางเด่นสะดุดตาอยู่บนชั้นในร้านขายกาแฟทุก ๆ สาขาของสตาร์บักส์ใน 49 ประเทศทั่วโลก” นายโคลส์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางสตาร์บักส์ยังมิได้ประกาศวันเวลาในการวางจำหน่ายสินค้า ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเกษตรกรจะสามารถเพาะปลูกเมล็ดกาแฟได้มากเพียงพอสำหรับป้อนขายในท้องถิ่นและในต่างประเทศได้เร็วสุดเมื่อใด
บริษัทสตาร์บักส์ใช้เวลาคิดค้นพัฒนากาแฟยี่ห้อใหม่ร่วมกับจีนอยู่นาน 3 ปี โดยในเบื้องต้นนั้น กาแฟยี่ห้อใหม่จะเป็นการนำเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิกาจากละตินอเมริกา และเอเชีย-แปซิฟิกมาผสมกับเมล็ดกาแฟพันธุ์ท้องถิ่นของหยุนหนัน

“ South of the Clouds” กาแฟยี่ห้อใหม่ของสตาร์บักส์ที่ผลิตจากมณฑลหยุนหนันทางใต้ของประเทศ
นอกจากนั้น สตาร์บักส์ยังตั้งเป้าพัฒนาแหล่งกาแฟอาราบิกาคุณภาพชั้นเลิศจากมณฑลแห่งนี้อีกด้วย
กาแฟยี่ห้อใหม่ของสตาร์บักส์จะได้รับการตั้งชื่อว่า “ South of the Clouds” หรือเมฆาแดนใต้ อันเป็นความหมายของคำว่าหยุนหนันในภาษาจีน
จากการเปิดเผยของนายหวัง จินหลง ประธานสตาร์บักส์ฝ่ายจีน ซึ่งรวมทั้งไต้หวัน,ฮ่องกง และมาเก๊านั้น บริษัทสตาร์บักส์ต้องการผลักดันให้ยี่ห้อกาแฟจากจีนของตนมีชื่อเสียงติดหูผู้คน และมีคุณภาพเยี่ยมเหมือนกับชาจากประเทศจีนนั่นเลยทีเดียว
สตาร์บักส์เปิดสาขาร้านกาแฟแห่งแรกบนแผ่นดินใหญ่เมื่อปี 2542 และปัจจุบัน มีสาขากว่า 350 ร้านใน 26 เมือง โดย บริษัทกาแฟยักษ์ใหญ่มีอันต้องปิดร้านสาขาประมาณ 600 แห่งในสหรัฐฯ และอีก 61 แห่งในออสเตรเลียในปีที่แล้ว เพื่อพลิกสถาการณ์ ที่ยอดขายและผลกำไรตกลง
นายโคลส์มิได้ระบุว่าสตาร์บักส์มีแผนเปิดร้านสาขาอีกกี่แห่งที่จีนในปีนี้ อย่างไรก็ตาม อาจมีการขยายสาขาในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากยังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมากในจีน
ทั้งนี้ หลังจากเกิดปัญหาผลิตภัณฑ์นมปนเปื้อนสารเมลามีนในจีน สตาร์บักส์จึงได้หยุดการใช้ผลิตภัณฑ์นม และเปลี่ยนมาใช้นมถั่วเหลืองแทนในปีที่แล้ว โดยสินค้าของสตาร์บักส์ไม่ปรากฏรายงานว่ามีปัญหาแต่ประการใด และขณะนี้ ทางบริษัทก็ได้จำหน่ายทั้งนมถั่วเหลือง และนมวัว ซึ่งได้รับการรับรองแล้วว่าปลอดภัย
ปัจจุบัน สตาร์บักส์มีร้านสาขาอยู่ในทั่วโลกทั้งหมด 13,000 ร้าน
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์