4.0K
17 ธันวาคม 2558
เมซโซ่ ส่งแฟรนไชส์บุกตปท. ปั้นเมมเบอร์ เพิ่มฐานลูกค้า




ร้านกาแฟเมซโซ่สยายปีกบุกต่างประเทศ ดีเดย์เปิดปีหน้า ขายแฟรนไชส์ให้พันธมิตรใน 2 ประเทศ หวังสร้างการเติบโตก้าวกระโดด พร้อมประกาศเปิดอีก 30 สาขา ลุยตลาดในประเทศ รับตลาดร้านกาแฟโตต่อเนื่อง ทยอยเพิ่มอาหารว่าง ของขวัญ ดันยอด เพิ่มงบฯรุกตลาดออนไลน์

นายธนาวัฒน์ จิระเสวีจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เมซโซ่ จำกัด ผู้บริหารร้านกาแฟ "เมซโซ่" กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภายในปีหน้าบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาในต่างประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขายมาสเตอร์แฟรนไชส์ให้กับพันธมิตรในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จีน และตะวันออกกลาง โดยเบื้องต้นจะให้สิทธิ์แฟรนไชส์ให้กับผู้สนใจใน 2 ประเทศ โดยใช้รูปแบบและโมเดลร้านในเมืองไทยเป็นต้นแบบ แต่อาจปรับสินค้าให้ตรงกับความต้องการของคนในแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้เพื่อสร้างการเติบโตและเสริมรายได้จากตลาดในประเทศ และตั้งเป้าจะผลักดัน เมซโซ่ เป็นแบรนด์ระดับภูมิภาคภายใน 3 ปี ซึ่งการขยายสาขาในต่างประเทศจะทำให้บริษัทมีตลาดกว้างขึ้น ที่สำคัญคือจะช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด

นายธนาวัฒน์ยังกล่าวถึงตลาดร้านกาแฟในประเทศว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าตลาดร้านกาแฟจะได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น รวมทั้งจำนวนผู้ประกอบการที่มีจำนวนมากทำให้มีการแข่งขันที่รุนแรง แต่ภาพรวมของตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอัตราการบริโภคกาแฟต่อคนที่ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก

สำหรับเมซโซ่เองแม้ยอดขายต่อสาขาลดลง แต่โดยรวมยังสามารถเติบโตได้กว่า 20-25% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดสาขาใหม่ และปีหน้าจะเร่งขยายฐานลูกค้าด้วยการเปิดสาขาใหม่อีกอย่างน้อย 25-30 สาขา จากสิ้นปีนี้ที่มีกว่า 80 สาขา ภายใต้งบฯการลงทุนเฉลี่ย 2.5 ล้านบาทต่อสาขา โดยเน้นพื้นที่ในกรุงเทพฯเป็นหลัก ส่วนในต่างจังหวัดจะเน้นการขยายแฟรนไชส์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการหาพาร์ตเนอร์ที่เหมาะสม



ภาพจาก  https://www.facebook.com/MezzoCoffee

นอกจากนี้จะเพิ่มสินค้าในร้านให้หลากหลายขึ้น ทั้งเมนูอาหารว่าง ของหวาน เบเกอรี่ เพื่อช่วยเพิ่มทราฟฟิกระหว่างวัน รวมทั้งสินค้ากาแฟดริปและนมสำหรับชงเครื่องดื่มสำหรับซื้อกลับบ้านเพื่อเพิ่มความสะดวก รองรับความต้องการชงเครื่องดื่มเอง ซึ่งเริ่มวางขายในสาขาต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมที่ผ่านมา รวมทั้งการจัดเซตของขวัญรับช่วงเทศกาลที่มีบริการจัดส่งทางไปรษณีย์เสริมจากการรับสินค้าจากหน้าร้าน

รวมทั้งจะเน้นการสื่อสารการสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น จะมีการแนะนำและจำหน่ายสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก ไลน์ อีเมล์ เสริมจากการสื่อสารหน้าร้าน โดยจะเพิ่มงบฯการตลาดประมาณ 5-6% ของยอดขาย จากปีนี้ที่ใช้เพียง 1-2%

ขณะเดียวกันก็จะเน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ไว้ด้วยการใช้ระบบสมาชิก ที่ใช้ระบบเบอร์โทรศัพท์มือถือแทนการใช้บัตรสมาชิกเพื่อความสะดวก ซึ่งเริ่มใช้ระบบนี้มาประมาณ 1 เดือน โดยให้สิทธิพิเศษต่าง ๆ หมุนเวียนไปต่อเนื่อง เช่น ส่วนลดพิเศษ 10% หรือสะสมคะแนนเพื่อแลกของพรีเมี่ยม เพื่อจูงใจลูกค้าเดิมกลับมาใช้บริการซ้ำ รวมทั้งดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ให้เข้ามามากขึ้น คาดว่าครึ่งปีหน้าจะมีสมาชิกกว่า 1 แสนราย จากปัจจุบันกว่าหมื่นคน ซึ่งเป็นไปได้ไม่ยากเมื่อเทียบกับจำนวนลูกค้าเมซโซ่ที่มีประมาณ 2-3 แสนคนต่อเดือน

"ยอดขายหลัก ๆ ยังคงมาจากเครื่องดื่มในสัดส่วน 70-80% ของว่าง เบเกอรี่ เค้ก อยู่ที่ 20% สำหรับสินค้าอื่น ๆ ที่ขายในร้านยังมีสัดส่วนไม่มาก แต่ก็เสริมเข้ามาเป็นทางเลือกของผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสการขายอีกทางหนึ่ง" นายธนาวัฒน์กล่าวและว่า จากแนวทางดังกล่าวคาดว่าปีหน้าจะเติบโตได้อย่างน้อย 25-30% ขณะที่สิ้นปีคาดว่าจะปิดรายได้ที่ประมาณ 300 กว่าล้านบาท

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,164
PLAY Q by CST bright u..
1,319
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
943
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
793
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด