1.9K
15 ธันวาคม 2558
เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์! สัญญาณชี้ชัด SMEs ไทยเริ่มฟื้นไข้


สสว.เผยสถานการณ์ SMEs หลังผ่าน Q3/58 เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ GDP SME ขยายตัว 4.2% สูงกว่า GDP ประเทศที่ขยาย 2.9% ระบุอานิสงส์ภาคท่องเที่ยว และก่อสร้างโตแรง ระบุความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเกิน 100 ขณะที่คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าโตขึ้นอีก บ่งบอกผู้ประกอบการมีความหวัง และเริ่มได้รับออเดอร์แล้ว คาด GDP SME ปีนี้อยู่ที่ 3.7-4.7%

      
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เอสเอ็มอีหลังผ่านไตรมาส 3 ประจำปี 2558 เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้น โดย GDP ไตรมาส 3 ปี 2558 ของ SME ขยายตัวในอัตรา 4.2% ดีกว่า GDP รวมของประเทศซึ่งขยายตัว 2.9% ในช่วงเวลาเดียวกัน ปัจจัยสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยวขยายตัว 20.3% ก่อสร้างขยายตัว 10.6% และขนส่งขยายตัว 7.5%

ส่วนกิจการที่ขยายตัวในอัตราต่ำกว่า GDP รวมของประเทศ กล่าวคือหดตัวลดลงในอัตรา 0.5% ได้แก่ ชิ้นส่วน ยานยนต์ เครื่องจักรกล อัญมณี สิ่งทอ อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ขยายตัวในระดับเดียวกับ GDP ประเทศ (Par) คือ บริการด้านการศึกษา 3.5% และอสังหาริมทรัพย์ 2.4%
      
ทั้งนี้ GDP ของ SME รวม 3 ไตรมาสของปี 2558 มีมูลค่ารวม 4.08 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้นในอัตราที่สูงกว่าปี 2557 ซึ่ง GDP ของ SME ขยายตัวเพียง 0.2% ด้วยเหตุนี้ มูลค่าของ SME จึงเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 40.9% ของ GDP รวม ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2558 เพิ่มขึ้นจาก 39.6% ณ สิ้นปี 2557

      
อย่างไรก็ตาม อัตราเติบโต GDP SME ในไตรมาสที่ 3 ปี 2558 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 เนื่องจากอัตราการเติบโตกลุ่มธุรกิจ SME ขึ้นอยู่ที่ภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 เป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยว จึงส่งผลให้อัตราการขยายตัวของ SME ลดลง สวนทางกับ GDP ของประเทศที่มีอัตราเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประมาณการว่า GDP ของประเทศในปี 2558 จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ระดับ 2.7-3.2% หากเป็นเช่นนั้นคาดว่า GDP SME จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ระดับ 3.7-4.7%
      
“ปัจจุบันสัดส่วน GDP SME คิดเป็นประมาณ 40% ของ GDP รวมของประเทศ ซึ่งเป้าหมายของ สสว.ต้องการเพิ่มสัดส่วนเป็น 45% ภายใน 3-5 ปีหลังจากนี้ โดยเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของ สสว. ด้วยการเน้นบ่มเพาะ SMEs เลือดใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการซื้อของโลก รวมถึงสอดคล้องกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงปรับโครงสร้างธุรกิจของไทยสู่ภาคบริโภคทดแทนภาคการผลิต” นางสาลินีกล่าว
      
ผอ.สสว.เผยต่อว่า อีกหนึ่งที่เป็นสัญญาณบวก คือ ดัชนีความเชื่อมั่นของ SMEs เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปี 2558
โดยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของประเทศในเดือนตุลาคม 2558 อยู่ที่ระดับ 100.4 เพิ่มขึ้นจาก 92.8 ในเดือนมิถุนายน 2558 เช่นเดียวกันกับดัชนีความเชื่อมั่นของ SME ในภาคการค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นจาก 87.4 ในเดือนมิถุนายน 2558 เป็น 102.4 ในเดือนตุลาคม 2558 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก 84.0 ในเดือนมิถุนายน 2558 เป็น 84.7 ในเดือนตุลาคม 2558 ตัวเลขดังกล่าวบ่งบอกว่า SMEs มีความหวังในการประกอบธุรกิจ ซึ่งจะมาจากเริ่มได้รับออเดอร์มากยิ่งขึ้น
      
ที่น่าสังเกตมากก็คือ ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ในระยะ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มของผู้ประกอบการ และดัชนีคาดการณ์ของทุกกลุ่มผู้ประกอบการล้วนอยู่ในระดับเกิน 100 ซึ่งความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นนี้น่าจะเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง

      
ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งคือ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจอยู่ในระดับสูงกว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งอยู่ในระดับ 53.6 ในเดือนตุลาคม 2558 มาก
      
นางสาลินีเผยต่อว่า สำหรับแนวโน้ม SME ในปีหน้า (2559) สิ่งสำคัญที่สุดมาจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาก่อการร้าย เศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางเศรษฐกิจไทยด้วย หากไม่มีเหตุร้ายใดๆ จนไม่สามารถควบคุมได้ เชื่อว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่รัฐบาลต้องการสร้างความเข้มแข็งและให้เกิดการขยายตัวจากเศรษฐกิจฐานราก และจากดัชนีเชื่อมั่น SMEs ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความหวังมากขึ้นแล้ว
      
ทั้งนี้ ในส่วนของ สสว.เตรียมโครงการส่งเสริมศักยภาพ SME เน้นที่ SME 3 กลุ่ม ได้แก่ การบ่มเพาะ SME กลุ่ม Start-up ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล การฟื้นฟูกิจการ SME กลุ่มที่ประสบปัญหา (Turn Around) และการพัฒนา SME ที่ดำเนินกิจการอยู่เป็นปกติ (Regular) ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมทั้งโครงการจัดตั้งร้านค้าประชารัฐเพื่อวิสาหกิจชุมชน และ Micro SME ให้มีโอกาสได้นำสินค้าไปจำหน่ายในปั๊ม ปตท.ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่ สสว.ทำร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธนาคาร SME และหน่วยงานที่ดูแลด้านชุมชนในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการและมีกำหนดเปิดตัวเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ สสว.ยังได้นำผู้ประกอบการ SME จำนวน 29 ราย ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการประเภท Start-up เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2558 สามารถสร้างเม็ดเงินจากการตกลงซื้อขายสินค้ากันได้ 460 ล้านบาท และมีโอกาสที่จะค้าขายกันอย่างต่อเนื่องต่อไปได้อีกในอนาคต

อ้างอิงจาก  ผู้จัดการออนไลน์
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
963
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
662
“เติมพลังความรู้” กับ ..
595
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
565
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
557
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
519
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด