|
|
|
|
4 ธันวาคม 2558 |
ปตท.ผุดร้านไก่ เท็กซัส สาขาแรก
ปตท.ลงทุน 15 ล้าน ปักหมุดร้าน”เท็กซัส ชิคเก้น”สาขาแรกที่เซ็นทรัล เวสต์เกต ตามด้วยสยามสแควร์ วางเป้าสิ้นปีหน้าครบ 11 สาขา และเพิ่มเป็น 70 สาขาใน 10 ปี เผยระยะแรกเน้นสร้างการรับรู้แบรนด์ หลังมีสาขามากพอ จะเปิดให้บริการระบบดีลิเวอรี และจะขายแฟรนไชส์ในระยะต่อไป
นางพัชรา อนามบุตร ผู้จัดการฝ่ายค้าปลีก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากปตท.ได้รับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ร้านไก่ทอดแบรนด์ เท็กซัส ชิคเก้น จึงได้เดินหน้าขยายสาขาตามแผนงานที่วางไว้ โดยเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ด้วยเงินลงทุน 15 ล้านบาทในขนาดพื้นที่ร้าน 300 ตารางเมตร และจะเปิดสาขาที่ 2 ที่ตึกสยามกิตติ์ สยามสแควร์ หลังจากนั้นจะเดินหน้าขยายสาขาในทำเลต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยใช้งบประมาณเฉลี่ยต่อสาขา 15 ล้านบาท ซึ่งภายในสิ้นปีหน้าจะขยายสาขาได้ครบ 11 สาขา และภายในระยะ 10 ปีจะขยายให้ได้ครบ 70 สาขาตามแผนงานที่ได้วางไว้
ส่วนแนวทางการทำตลาดและสร้างแบรนด์ จะใช้สื่อออนไลน์และการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อสร้างการรับรู้เป็นหลัก เนื่องจากยังมีจำนวนสาขาไม่มาก และแนะนำเมนูสินค้าใหม่ออกมาทำตลาดปีละ 3-4 เมนู จากเมนูอาหารหลัก 8 เมนู ซึ่งเป็นรายการสินค้าที่มีเฉพาะในประเทศไทย เช่น ข้าวขี้เมา รวมถึงการขยายสาขาในห้างสรรพสินค้า ก่อนขยายสาขาในสถานีบริการน้ำมัน ถือเป็นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และการรับรู้ด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทก็มีแผนขยายสาขาในปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดพักรถระหว่างการเดินทางด้วย โดยในปีหน้าวางแผนขยาย 3 สาขา
“ตลาดอาหารจานด่วน หรือ QSR (Quick Service Restaurant) ในบ้านเรามีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท เป็นประเภทไก่ประมาณ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีแบรนด์เคเอฟซีครองส่วนแบ่งอยู่ 50% รองลงมาจะเป็นแบรนด์อื่นๆ เช่น แม็ค เชสเตอร์กริลล์
ในด้านการเติบโตของแบรนด์เท็กซัส ชิคเก้น บริษัทไม่ได้หวังที่จะเติบโตมากๆ แต่จะเป็นการเติบโตแบบช้าๆ ซึ่งแต่ละสาขาน่าจะคืนทุนในระย 5 ปี ช่วงแรกจึงเน้นการสร้างแบรนด์ สร้างระบบการบริหารงานภายในร้าน ประมาณปี 2560 อาจจะเปิดให้บริการระบบดีลิเวอรี และอีก 5 ปีน่าจะขายแฟรนไชส์ได้ เพราะต้องรอให้มีจำนวนสาขาประมาณ 40 สาขา เพื่อให้ต้นทุนการบริหารงานต่างๆ มีประสิทธิภาพมากพอ”
นางพัชรา กล่าวต่อไปว่า แม้บริษัทจะมีร้านอาหารประเภทไก่เปิดให้บริการในสถานีบริการน้ำมันอยู่ก่อนแล้ว ทั้งแบรนด์เคเอฟซี และแม็ค แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้แบรนด์ทั้ง 2 ขยายสาขาได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการขยายสาขาไปยังห้างสรรพสินค้ามากกว่า ในสัดส่วน 70-80% ประกอบกับแบรนด์เคเอฟซีและแม็ค มีนโยบายการขยายสาขาในรูปแบบไดรฟ์ธรูเพิ่มมากขึ้นด้วย
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|
|
|
