3.0K
1 ธันวาคม 2552

‘พาณิชย์’ตั้งศูนย์ช่วยพัฒนาธุรกิจ 

“พาณิชย์” ผวาคนตกงานเพียบปีหน้า เตรียมตั้งศูนย์ให้ คำปรึกษาทางธุรกิจ ช่วยคนทำธุรกิจเป็น แนะทางปรับตัวก่อนเจ๊ง

นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมได้เตรียมมาตรการรองรับกรณีที่ภาคธุรกิจอาจมีการปลดคนงานในปีหน้าจำนวนมาก จากภาวะเศรษฐ กิจถดถอย โดยได้ตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาทางธุรกิจ ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่ประชาชนที่สนใจทำธุรกิจ 
 

ทั้งนี้ ยังจะเน้นการจัดฝึกอบรมประชาชนให้ทำธุรกิจเป็น เริ่มตั้งแต่ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรจนสามารถทำธุรกิจได้ ตลอดจนให้คำแนะนำสำหรับ ผู้ต้องการเริ่มต้นในธุรกิจแฟรนไชส์ด้วย เนื่องจากเป็นโอกาสที่ดีในภาวะปัจจุบันสำหรับผู้ที่ต้องการมีกิจการของตัวเอง โดยสอบถามได้ที่สายด่วนกรม 1570

นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายกระตุ้นให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ให้ปรับตัวรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเน้นให้มีการปรับตัวด้านการบริหารจัดการ ลดค่าใช้จ่าย และลดต้นทุนด้านต่างๆ รวมถึงการจัดทำบัญชีอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะ ทำให้รู้ว่าค่าใช้จ่ายส่วนใดที่ไม่จำเป็นและประหยัดได้

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นผู้ประกอบการควรต้องปรับปรุงสินค้าให้ทันสมัย มีดีไซน์แปลกแตกต่างจากผู้อื่น และมี นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า และทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้

“กรมเคยให้ความรู้กับผู้ประกอบการรายหนึ่ง โดยให้จัดสต๊อกสินค้าใหม่ ซึ่งช่วยให้ประหยัดต้นทุนได้ถึง ปีละ 25 ล้านบาท จากยอดขายประมาณ 80 ล้านบาท หรือ 1 ใน 3 ทำให้มีเงินเพิ่มขึ้นมาก รวมถึงสอน ให้จัดทำบัญชีใหม่ เพราะเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ไม่สนใจการทำบัญชี หาก ทำได้ดีจะรู้ว่าค่าใช้จ่ายส่วนใดตัดทอนได้ ทำให้มีเงินทำธุรกิจเพิ่มขึ้น” นาย คณิสสร กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป หากยังปล่อยให้ทำธุรกิจแบบเดิมๆ ต่อไปจะอยู่ไม่รอด โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ต้องวางแผนรับมือกับภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น หากไม่รู้จะ ทำอย่างไรก็มาปรึกษากรมได้ทันที

อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าส่งผลให้มีการจดแจ้งยกเลิกบริษัทเพิ่มขึ้น หรือจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งใหม่ลดลงหรือไม่ ซึ่งต่างจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจไทยเมื่อปี 2540-2541 ที่มีการแจ้งยกเลิกบริษัทเพิ่มขึ้นสูงมาก และจดทะเบียนจัดตั้งใหม่แทบไม่มีเลย ซึ่งคาดว่าภาพที่ชัดเจนจะปรากฏในช่วงปีหน้ามากกว่า

ทั้งนี้ แม้หลายฝ่ายจะมองว่า กลุ่มเอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบก่อนธุรกิจรายใหญ่ แต่กรมเห็นว่ากลุ่มเอสเอ็มอีเป็นกลุ่มที่สามารถปรับตัวได้เร็ว และผันไปทำธุรกิจอื่นได้เร็วกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ ที่จะได้รับผลกระทบจริงๆ อาจมีเพียงบางส่วนเท่านั้น











อ้างอิงจาก : โพสต์ทูเดย์

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
980
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
667
“เติมพลังความรู้” กับ ..
599
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
571
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
561
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
523
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด